แท็ก
การส่งออก
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจ
ไทยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2550 น่าจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.0-4.5 ต่อปี ชะลอลงจากอัตราการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2549 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี เนื่องจากแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก
จากปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มชะลอตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักที่ขยายตัวลดลงในปี 2550
ประกอบกับการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐ
สามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเป้าหมาย และอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงเพียงพอที่จะเอื้อต่อการฟื้นตัวของ
การใช้จ่ายภายในประเทศ เศรษฐกิจไทยน่าจะสามารถขยายตัวได้ในกรณีสูงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี โดยมีราย
ละเอียดสรุปได้ดังนี้
1. ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในปี 2550 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.0-4.5 ต่อปี ชะลอลงจากปีก่อนที่คาด
ว่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี เนื่องจากในปี 2550 ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการซึ่งเป็นปัจจัย
หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีก่อนมีแนวโน้มขยายตัวลดลงตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า มาอยู่ที่ร้อยละ
6.4-7.4 ต่อปี เทียบกับที่เคยขยายตัวสูงถึงร้อยละ 9.1 ต่อปี ในปี 2549 ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้า
และบริการ คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากฐานต่ำที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.7 ต่อปี ในปี 2549 มาอยู่ที่ร้อยละ
7.8-8.9 ต่อปี ในปี 2550 ซึ่งสอดคล้องกับการใช้จ่ายภายในประเทศในปี 2550 ที่น่าจะฟื้นตัวขึ้นจากปีก่อน
เนื่องจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับการเร่งใช้จ่ายงบประมาณปี 2550 ที่เริ่มมีผล
ใช้บังคับในเดือนมกราคม 2550 ที่ผ่านมา
การบริโภครวมที่แท้จริงในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.9-4.8 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.2
ต่อปี ในปี 2549 ในขณะที่การลงทุนรวมที่แท้จริงในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ
4.2-6.4 ต่อปี จากร้อยละ 3.5 ต่อปี ในปี 2549 ทั้งนี้ หากรัฐบาลสามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้
ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 93 ของกรอบวงเงินงบประมาณปี 2550 และรัฐวิสาหกิจสามารถเร่งเบิกจ่ายงบ
ประมาณลงทุนได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 85 ของกรอบงบประมาณลงทุน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศ
ปรับลดลงมากพอที่จะเอื้อต่อการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การ
บริโภครวมและการลงทุนรวมดังกล่าวมีโอกาสขยายตัวได้ในกรณีสูงมากกว่าในกรณีต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ความน่าจะ
เป็นที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในกรณีสูงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี มีมากกว่าที่จะขยายตัวได้ในกรณีต่ำที่ร้อยละ
4.0 ต่อปี
2. ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในปี 2550 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป
ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5-3.0 ต่อปี ในปี 2550 จากร้อยละ 4.7 ต่อปี ในปี 2549 ซึ่ง
เป็นผลหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่ถูกลงตามการปรับลดของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและค่าเงินบาทที่มีแนวโน้ม
แข็งค่าขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2550 คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 54 - 58 ดอลลาร์สหรัฐต่อ
บาร์เรล จากเฉลี่ย 61.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2549 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
โลกคาดว่าจะลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทในปี 2550 คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย
35.5 — 36.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปี 2549 ที่อยู่ที่เฉลี่ย 37.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
เนื่องจากปัญหาพื้นฐานของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลการคลังของสหรัฐจะยังคงกดดันให้ค่าเงิน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และยังส่งผลให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนใน
ภูมิภาครวมทั้งไทยมากขึ้น
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศในปี 2550 ยังอยู่ในระดับมั่นคง โดยคาดว่าดุลบัญชีเดิน
สะพัดในปี 2550 ยังคงเกินดุลที่ร้อยละ 0.7-1.5 ของ GDP เทียบกับปี 2549 ที่เกินดุลประมาณร้อยละ
1.6 ของ GDP ทั้งนี้ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2550 จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของการใช้จ่าย
ภายในประเทศ โดยในกรณีที่การใช้จ่ายภายในประเทศเร่งตัวขึ้นจะทำให้มูลค่าการนำเข้าเร่งตัวขึ้นตาม ซึ่ง
จะส่งผลให้ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 1.4 และ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
แต่หากการใช้จ่ายภายในประเทศฟื้นตัวช้า จะส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าขยายตัวต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ดุลการค้าและ
ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3.1 และ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
รายละเอียดสรุปผลการประมาณการเศรษฐกิจปรากฏตามเอกสารแนบ
ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2549 — 2550 (ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2550)
2548 2549 f 2550 f
เฉลี่ย ช่วง
สมมติฐานหลัก
สมมติฐานภายนอก (Exogenous Variables)
1) อัตราการขยายตัวของ 11 ประเทศคู่ค้าหลัก (ร้อยละต่อปี) 3.5 4.5 3.7 3.5-4.0
2) ราคาน้ำมันดิบดูไบ (ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล) 49 61.5 56 54.0-58.0
สมมติฐานด้านนโยบาย (Policy Variables)
3) อัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) 40.3 38 36 35.5-36.5
4) อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ณ สิ้นปี (ร้อยละต่อปี) 4.25 5 4 3.75-4.25
5) รายจ่ายรัฐบาลปีงบประมาณรวมงบเหลื่อมปี (พันล้านบาท) 1,245 1,395 1,498 1,402-1,593
ผลการประมาณการ
1) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (ร้อยละต่อปี) 4.5 5.1 4.2 4.0 - 4.5
2) การบริโภครวม (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 5.5 3.2 4.4 3.9 - 4.8
- การบริโภคภาคเอกชน ( ณ ราคาคงที่) 4.3 3.3 3.7 3.5 - 3.9
- การบริโภคภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) 13.7 2.9 8 6.0 - 10.0
3) การลงทุนรวม (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 11.1 3.5 5.3 4.2 - 6.4
- การลงทุนภาคเอกชน (ณ ราคาคงที่) 11 3.7 5.3 5.1 — 5.4
- การลงทุนภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) 11.4 3 5.9 1.7 — 10.1
4) ปริมาณส่งออกสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 4.4 9.1 6.9 6.4-7.4
5) ปริมาณนำเข้าสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 9.4 1.7 8.4 7.8 - 8.9
6) ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) -8.6 2.3 2.2 1.4 — 3.1
- สินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) 15 17.4 8.1 7.6 - 8.6
- สินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) 25.9 7.3 8.4 7.7 — 9.0
7) ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) -7.9 3.2 2.6 1.7 —3.4
- ร้อยละ GDP -4.4 1.6 1.1 0.7 - 1.5
8) อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (ร้อยละต่อปี) 4.5 4.7 2.8 2.5 - 3.0
f = ประมาณการโดย สศค. ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2550
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 4/2550 27 กุมภาพันธ์ 2550--
ไทยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2550 น่าจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.0-4.5 ต่อปี ชะลอลงจากอัตราการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2549 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี เนื่องจากแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก
จากปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มชะลอตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักที่ขยายตัวลดลงในปี 2550
ประกอบกับการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐ
สามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเป้าหมาย และอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงเพียงพอที่จะเอื้อต่อการฟื้นตัวของ
การใช้จ่ายภายในประเทศ เศรษฐกิจไทยน่าจะสามารถขยายตัวได้ในกรณีสูงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี โดยมีราย
ละเอียดสรุปได้ดังนี้
1. ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในปี 2550 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.0-4.5 ต่อปี ชะลอลงจากปีก่อนที่คาด
ว่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี เนื่องจากในปี 2550 ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการซึ่งเป็นปัจจัย
หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีก่อนมีแนวโน้มขยายตัวลดลงตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า มาอยู่ที่ร้อยละ
6.4-7.4 ต่อปี เทียบกับที่เคยขยายตัวสูงถึงร้อยละ 9.1 ต่อปี ในปี 2549 ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้า
และบริการ คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากฐานต่ำที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.7 ต่อปี ในปี 2549 มาอยู่ที่ร้อยละ
7.8-8.9 ต่อปี ในปี 2550 ซึ่งสอดคล้องกับการใช้จ่ายภายในประเทศในปี 2550 ที่น่าจะฟื้นตัวขึ้นจากปีก่อน
เนื่องจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับการเร่งใช้จ่ายงบประมาณปี 2550 ที่เริ่มมีผล
ใช้บังคับในเดือนมกราคม 2550 ที่ผ่านมา
การบริโภครวมที่แท้จริงในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.9-4.8 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.2
ต่อปี ในปี 2549 ในขณะที่การลงทุนรวมที่แท้จริงในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ
4.2-6.4 ต่อปี จากร้อยละ 3.5 ต่อปี ในปี 2549 ทั้งนี้ หากรัฐบาลสามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้
ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 93 ของกรอบวงเงินงบประมาณปี 2550 และรัฐวิสาหกิจสามารถเร่งเบิกจ่ายงบ
ประมาณลงทุนได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 85 ของกรอบงบประมาณลงทุน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศ
ปรับลดลงมากพอที่จะเอื้อต่อการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การ
บริโภครวมและการลงทุนรวมดังกล่าวมีโอกาสขยายตัวได้ในกรณีสูงมากกว่าในกรณีต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ความน่าจะ
เป็นที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในกรณีสูงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี มีมากกว่าที่จะขยายตัวได้ในกรณีต่ำที่ร้อยละ
4.0 ต่อปี
2. ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในปี 2550 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป
ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5-3.0 ต่อปี ในปี 2550 จากร้อยละ 4.7 ต่อปี ในปี 2549 ซึ่ง
เป็นผลหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่ถูกลงตามการปรับลดของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและค่าเงินบาทที่มีแนวโน้ม
แข็งค่าขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2550 คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 54 - 58 ดอลลาร์สหรัฐต่อ
บาร์เรล จากเฉลี่ย 61.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2549 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
โลกคาดว่าจะลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทในปี 2550 คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย
35.5 — 36.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปี 2549 ที่อยู่ที่เฉลี่ย 37.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
เนื่องจากปัญหาพื้นฐานของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลการคลังของสหรัฐจะยังคงกดดันให้ค่าเงิน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และยังส่งผลให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนใน
ภูมิภาครวมทั้งไทยมากขึ้น
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศในปี 2550 ยังอยู่ในระดับมั่นคง โดยคาดว่าดุลบัญชีเดิน
สะพัดในปี 2550 ยังคงเกินดุลที่ร้อยละ 0.7-1.5 ของ GDP เทียบกับปี 2549 ที่เกินดุลประมาณร้อยละ
1.6 ของ GDP ทั้งนี้ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2550 จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของการใช้จ่าย
ภายในประเทศ โดยในกรณีที่การใช้จ่ายภายในประเทศเร่งตัวขึ้นจะทำให้มูลค่าการนำเข้าเร่งตัวขึ้นตาม ซึ่ง
จะส่งผลให้ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 1.4 และ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
แต่หากการใช้จ่ายภายในประเทศฟื้นตัวช้า จะส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าขยายตัวต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ดุลการค้าและ
ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3.1 และ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
รายละเอียดสรุปผลการประมาณการเศรษฐกิจปรากฏตามเอกสารแนบ
ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2549 — 2550 (ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2550)
2548 2549 f 2550 f
เฉลี่ย ช่วง
สมมติฐานหลัก
สมมติฐานภายนอก (Exogenous Variables)
1) อัตราการขยายตัวของ 11 ประเทศคู่ค้าหลัก (ร้อยละต่อปี) 3.5 4.5 3.7 3.5-4.0
2) ราคาน้ำมันดิบดูไบ (ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล) 49 61.5 56 54.0-58.0
สมมติฐานด้านนโยบาย (Policy Variables)
3) อัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) 40.3 38 36 35.5-36.5
4) อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ณ สิ้นปี (ร้อยละต่อปี) 4.25 5 4 3.75-4.25
5) รายจ่ายรัฐบาลปีงบประมาณรวมงบเหลื่อมปี (พันล้านบาท) 1,245 1,395 1,498 1,402-1,593
ผลการประมาณการ
1) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (ร้อยละต่อปี) 4.5 5.1 4.2 4.0 - 4.5
2) การบริโภครวม (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 5.5 3.2 4.4 3.9 - 4.8
- การบริโภคภาคเอกชน ( ณ ราคาคงที่) 4.3 3.3 3.7 3.5 - 3.9
- การบริโภคภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) 13.7 2.9 8 6.0 - 10.0
3) การลงทุนรวม (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 11.1 3.5 5.3 4.2 - 6.4
- การลงทุนภาคเอกชน (ณ ราคาคงที่) 11 3.7 5.3 5.1 — 5.4
- การลงทุนภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) 11.4 3 5.9 1.7 — 10.1
4) ปริมาณส่งออกสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 4.4 9.1 6.9 6.4-7.4
5) ปริมาณนำเข้าสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 9.4 1.7 8.4 7.8 - 8.9
6) ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) -8.6 2.3 2.2 1.4 — 3.1
- สินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) 15 17.4 8.1 7.6 - 8.6
- สินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) 25.9 7.3 8.4 7.7 — 9.0
7) ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) -7.9 3.2 2.6 1.7 —3.4
- ร้อยละ GDP -4.4 1.6 1.1 0.7 - 1.5
8) อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (ร้อยละต่อปี) 4.5 4.7 2.8 2.5 - 3.0
f = ประมาณการโดย สศค. ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2550
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 4/2550 27 กุมภาพันธ์ 2550--