‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ ระบุ นายกฯ กลับลำ จะทำให้ตัวเองเสียเครดิต แนะ นายกฯ น่าจะใช้โอกาสนี้สะสางปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างในสนามบินสุวรรณภูมิ และ ควรติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เปิดเผยชื่อนักการเมือง เพราะจะทำให้เรื่องคลี่คลายได้
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนทั่วไปมีแนวโน้มไปในทางที่เชื่อว่า ข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ของ ก.ล.ต.และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่า ดังนั้นตนจึงหนักใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเสียเครดิต ขาดความน่าเชื่อถือ และการที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบ ซึ่งเป็นอธิบดี จึงมีการตั้งคำถามว่า ระดับอธิบดีจะมาสอบรัฐมนตรีได้อย่างไร ในฐานะประธานคณะทำงานคมนาคมของพรรค เรื่องสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเรื่องสำคัญ ที่คนทั้งประเทศกำลังติดตามอย่างจดจ่อว่าเมื่อไหร่จะสร้างเสร็จ และเปิดให้บริการได้ ดังนั้นนายกฯ น่าจะใช้โอกาสนี้สะสางเรื่องนี้ ท่านคงไม่เพียงแค่พึงพอใจในการแก้ปัญหาเครื่องตรวจระเบิดที่มีปัญหากับบริษัทอิวิชั่นเท่านั้น ยังมีเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายหมื่นล้านบาทซึ่งประชาชนไม่รู้
’ผมเข้าใจดีว่า นายกฯตั้งใจจะทำสนามบินนี้ ถึงขนาดลงทุนเป็นประธานคณะกรรมการเร่งรัดพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อที่จะให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปโดยรวดเร็วโดยไม่ต้องเสนอเรื่องเข้า ครม. เท่ากับมีคณะกรรมการชุดเล็กมอบอำนาจจาก ครม.มาตัดสิน แต่พอเกิดเรื่องนี้ก็เป็นห่วงท่านว่าบางเรื่องจะพันตัวเอง เวลาคนเค้าขุดเจาะสืบสาวข้อมูลไปแล้ว เดี๋ยวก็ไปเจอว่าทำไมเราไปกล่าวหาเฉพาะสุริยะ ทั้งๆที่นโยบายในการที่จะปรับปรุงเพิ่มเงินในการซื้อระบบนี้มา มันพิจารณากันในวันที่นายกฯเป็นประธาน เพราะฉะนั้นนายกฯต้องรีบสะสางทุกเรื่อง อย่าปล่อยให้มันเป็นข่าวไปปูดที่เมืองนอกก่อน แล้วค่อยมาเช็ดถูทีหลัง ก็จะเสียหาย’ นายสุเทพกล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะถูกตัดตอนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ประชาชนจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งได้เรียนนายกฯ ว่า เวลาทำอะไรต้องทำให้ชัดเจน ไม่ใช่จะปรับ ครม. ปรับนายสุริยะออกแล้วเรื่องนี้จะจบ ซึ่งคิดว่าคนที่จับตามองไม่จบง่ายเพราะเป็นเรื่องใหญ่ ในฐานะฝ่ายค้านก็จะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป และขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาอาฆาตมาดร้าย และไม่ได้ตั้งเป้าจะตั้งข้อหาทุจริต แต่จะดูตามพยานหลักฐานว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และนายกฯ ควรจะติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ช่วยบอกว่ามีชื่อนักการเมืองคนไหนบ้างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เรื่องคลี่คลายได้ ส่วนกรณีที่นายกฯ ไปเอาเฉพาะคำยืนยันของทูตพาณิชย์สหรัฐนั้น ไม่ค่อยมีน้ำหนักเพียงพอ เพราะลักษณะจดหมายเป็นการเขียนเอง เออเองมากกว่าฟัง ซึ่งดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก ดังนั้นอยากให้นายกฯ ออกมาสะสางว่ามีการอนุมัติโครงการอะไรบ้าง ในช่วงที่ท่านนั่งเป็นประธานกรรมการเร่งรัดฯ ให้จบไปทีเดียว โดยไม่ต้องมาเล่นหนังยาว
‘ผมไม่คิดว่านายกฯ จะมีท่าทีปกป้องใคร เพราะท่านไม่ทราบ เนื่องจากท่านมีงานเยอะ บางทีก็ลืมไป ผมจึงได้เตือนว่าอย่ารีบออกมาปกป้องนายสุริยะ เพราะเดี๋ยวคนจะมองว่าท่านต้องการปกป้องตัวเองมากกว่า เรื่องจะยุ่งไปใหญ่ แต่ก็ยังดีที่วันนี้ที่ท่านกลับลำ เพราะวันนั้นท่านปกป้องคนของตัวเอง แต่วันนี้ท่านจะรู้สึกแล้วว่าไม่ค่อยถูกใจประชาชน ซึ่งท่านเล่นตามกระแสเก่ง’ นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายเรื่องนี้นายสุริยะจะเป็นแพะหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะเป็นแพะ หรือแกะคงจะต้องดูกันต่อไป เหมือนกับที่มีคนมาบอกว่าคอยดูให้ดีว่านายสุริยะจะถูกตัดตอน เพราะรัฐบาลชุดนี้ชอบมีระบบฆ่าตัดตอน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเจตนาที่จะจับผิดรัฐบาล แต่อยากร่วมมือเพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงคิดว่านายกฯ ควรจะทำหนังสือสอบถามไปยังสหรัฐฯให้เป็นกิจจะลักษณะว่ามาจากรัฐบาลไทย จะได้รู้ความจริงในเรื่องนี้ เพราะถ้าหากไม่ได้ความจริง และไม่ได้รับความร่วมมือ เขาก็ต้องรับผิดชอบ โดยอาจจะต้องเรียกร้องให้ออกแถลงการณ์ขอโทษ หรือแสดงความเสียใจที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสีย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนทั่วไปมีแนวโน้มไปในทางที่เชื่อว่า ข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ของ ก.ล.ต.และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่า ดังนั้นตนจึงหนักใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเสียเครดิต ขาดความน่าเชื่อถือ และการที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบ ซึ่งเป็นอธิบดี จึงมีการตั้งคำถามว่า ระดับอธิบดีจะมาสอบรัฐมนตรีได้อย่างไร ในฐานะประธานคณะทำงานคมนาคมของพรรค เรื่องสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเรื่องสำคัญ ที่คนทั้งประเทศกำลังติดตามอย่างจดจ่อว่าเมื่อไหร่จะสร้างเสร็จ และเปิดให้บริการได้ ดังนั้นนายกฯ น่าจะใช้โอกาสนี้สะสางเรื่องนี้ ท่านคงไม่เพียงแค่พึงพอใจในการแก้ปัญหาเครื่องตรวจระเบิดที่มีปัญหากับบริษัทอิวิชั่นเท่านั้น ยังมีเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายหมื่นล้านบาทซึ่งประชาชนไม่รู้
’ผมเข้าใจดีว่า นายกฯตั้งใจจะทำสนามบินนี้ ถึงขนาดลงทุนเป็นประธานคณะกรรมการเร่งรัดพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อที่จะให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปโดยรวดเร็วโดยไม่ต้องเสนอเรื่องเข้า ครม. เท่ากับมีคณะกรรมการชุดเล็กมอบอำนาจจาก ครม.มาตัดสิน แต่พอเกิดเรื่องนี้ก็เป็นห่วงท่านว่าบางเรื่องจะพันตัวเอง เวลาคนเค้าขุดเจาะสืบสาวข้อมูลไปแล้ว เดี๋ยวก็ไปเจอว่าทำไมเราไปกล่าวหาเฉพาะสุริยะ ทั้งๆที่นโยบายในการที่จะปรับปรุงเพิ่มเงินในการซื้อระบบนี้มา มันพิจารณากันในวันที่นายกฯเป็นประธาน เพราะฉะนั้นนายกฯต้องรีบสะสางทุกเรื่อง อย่าปล่อยให้มันเป็นข่าวไปปูดที่เมืองนอกก่อน แล้วค่อยมาเช็ดถูทีหลัง ก็จะเสียหาย’ นายสุเทพกล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะถูกตัดตอนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ประชาชนจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งได้เรียนนายกฯ ว่า เวลาทำอะไรต้องทำให้ชัดเจน ไม่ใช่จะปรับ ครม. ปรับนายสุริยะออกแล้วเรื่องนี้จะจบ ซึ่งคิดว่าคนที่จับตามองไม่จบง่ายเพราะเป็นเรื่องใหญ่ ในฐานะฝ่ายค้านก็จะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป และขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาอาฆาตมาดร้าย และไม่ได้ตั้งเป้าจะตั้งข้อหาทุจริต แต่จะดูตามพยานหลักฐานว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และนายกฯ ควรจะติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ช่วยบอกว่ามีชื่อนักการเมืองคนไหนบ้างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เรื่องคลี่คลายได้ ส่วนกรณีที่นายกฯ ไปเอาเฉพาะคำยืนยันของทูตพาณิชย์สหรัฐนั้น ไม่ค่อยมีน้ำหนักเพียงพอ เพราะลักษณะจดหมายเป็นการเขียนเอง เออเองมากกว่าฟัง ซึ่งดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก ดังนั้นอยากให้นายกฯ ออกมาสะสางว่ามีการอนุมัติโครงการอะไรบ้าง ในช่วงที่ท่านนั่งเป็นประธานกรรมการเร่งรัดฯ ให้จบไปทีเดียว โดยไม่ต้องมาเล่นหนังยาว
‘ผมไม่คิดว่านายกฯ จะมีท่าทีปกป้องใคร เพราะท่านไม่ทราบ เนื่องจากท่านมีงานเยอะ บางทีก็ลืมไป ผมจึงได้เตือนว่าอย่ารีบออกมาปกป้องนายสุริยะ เพราะเดี๋ยวคนจะมองว่าท่านต้องการปกป้องตัวเองมากกว่า เรื่องจะยุ่งไปใหญ่ แต่ก็ยังดีที่วันนี้ที่ท่านกลับลำ เพราะวันนั้นท่านปกป้องคนของตัวเอง แต่วันนี้ท่านจะรู้สึกแล้วว่าไม่ค่อยถูกใจประชาชน ซึ่งท่านเล่นตามกระแสเก่ง’ นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายเรื่องนี้นายสุริยะจะเป็นแพะหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะเป็นแพะ หรือแกะคงจะต้องดูกันต่อไป เหมือนกับที่มีคนมาบอกว่าคอยดูให้ดีว่านายสุริยะจะถูกตัดตอน เพราะรัฐบาลชุดนี้ชอบมีระบบฆ่าตัดตอน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเจตนาที่จะจับผิดรัฐบาล แต่อยากร่วมมือเพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงคิดว่านายกฯ ควรจะทำหนังสือสอบถามไปยังสหรัฐฯให้เป็นกิจจะลักษณะว่ามาจากรัฐบาลไทย จะได้รู้ความจริงในเรื่องนี้ เพราะถ้าหากไม่ได้ความจริง และไม่ได้รับความร่วมมือ เขาก็ต้องรับผิดชอบ โดยอาจจะต้องเรียกร้องให้ออกแถลงการณ์ขอโทษ หรือแสดงความเสียใจที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสีย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-