อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
สถานการณ์ทั่วไป
อุตสาหกรรมสิ่งทอมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย มีกระบวนการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่การผลิตเส้นใย ปั่นด้าย ทอผ้า ถักผ้า
ฟอกย้อมฯ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ก่อให้เกิดการจ้างงานสูงถึง 1.08 ล้านคน อีกทั้งยังสามารถนำรายได้เงินตราต่างประเทศได้ปีละกว่า 5,000 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ โดยปี 2549(ม.ค.-ต.ค.) การส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอมีมูลค่า 5,691.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อย
ละ 2.8 ตลาดหลักสำหรับการส่งออก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน
สถานการณ์การผลิต
ภาวะการผลิตและการจำหน่ายปี 2549 เมื่อพิจารณาจากดัชนีอุตสาหกรรม การผลิตเส้นใยสิ่งทอ ฯ และการผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้ง
และโครเชท์ ดัชนีผลผลิตชะลอตัวลงร้อยละ 5.7 และ 7.0 ตามลำดับ สอดคล้องกับการจำหน่ายที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันจากผลกระทบทั้งภายใน
และต่างประเทศ เนื่องจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภคต่อความไม่แน่นอนทางการเมือง ประกอบกับการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมันส่งผลให้ต้นทุน
การผลิตสูงขึ้น
สำหรับการผลิตเครื่องแต่งกายยกเว้นเครื่องแต่งกายจากขนสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และ การจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับ
ปีก่อน เนื่องจากยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภค
ตารางที่ 1 ดัชนีการผลิตเส้นใยสิ่งทอรวมทั้งการทอสิ่งทอ
ดัชนี 2545 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว(%)
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) เทียบปี 2548(ม.ค.-ต.ค.)
ผลผลิต 97.5 94.8 92.1 89.1 89.2 84.1 -5.7
การส่งสินค้า 97.9 97.1 95.5 92.1 91.9 86.9 -5.4
สินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 138.2 150.5 153.5 157.2 158.9 144.4 -9.1
ตารางที่ 2 ดัชนีการผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้งและโครเชท์
ดัชนี 2545 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว(%)
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) เทียบปี 2548(ม.ค.-ต.ค.)
ผลผลิต 102.6 113.4 129.1 136.4 134.3 124.9 -7
การส่งสินค้า 101.4 94.7 96.7 102.5 101.6 97.8 -3.8
สินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 102.3 109.5 117.1 123.5 119.1 128.7 8.1
ตารางที่ 3 ดัชนีการผลิตเครื่องแต่งกายยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากขนสัตว์
ดัชนี 2545 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว(%)
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) เทียบปี 2548(ม.ค.-ต.ค.)
ผลผลิต 102.7 120.9 134.8 147.2 145.9 147.7 1.2
การส่งสินค้า 101.8 112.7 121.6 133.2 132 133.7 1.3
สินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 106.4 140.2 183.4 200 197.2 239.3 21.4
ที่มา : ตารางที่ 1-3 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : ฐานเฉลี่ยปี 2543 และเป็นดัชนีที่ยังไม่ได้ปรับผลกระทบของฤดูกาล (*) ตัวเลขเบื้องต้น
สถานการณ์การส่งออก
ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยมีมูลค่าการส่งออกรวม 5,691.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบ
กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออก 5,538.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผลิตภัณฑ์สิ่งทอส่งออกที่สำคัญ ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) ได้แก่
1. เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 2,676.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่ง
ออกคือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร สัดส่วนการส่งออกร้อยละ 51.3, 6.3, 5.9 และ 5.7 ตามลำดับ
2. ผ้าผืนและด้าย มีมูลค่าการส่งออก 1,504.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออก
คือจีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัดส่วนร้อยละ 6.2, 5.9, 5.5 และ 5.4 ตามลำดับ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ ได้แก่
2.1 ผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออก 906.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน ตลาดส่งออกคือสหรัฐ
อาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง และเนเธอร์แลนด์ สัดส่วนร้อยละ 8.3, 6.0 และ 5.4 ตามลำดับ
2.2 ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 597.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตลาดส่งออกคือจีน ตุรกี เกาหลีใต้ และสหรัฐ อเมริกา สัดส่วนร้อยละ 8.5, 8.5, 6.7 และ 6.3 ตามลำดับ
โครงสร้างสินค้าออกของไทย
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว :
(ม.ค.-ต.ค) (ม.ค.-ต.ค) (%)2548(ม.ค.-ต.ค.)
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 5,465.30 6,399.90 6,699.60 5,538.60 5,691.90 2.8
1 เครื่องนุ่งห่ม 3,017.50 3,397.30 3,469.40 2,861.70 2,967.30 3.7
(1) เสื้อผ้าสำเร็จรูป 2,760.20 3,092.60 3,150.60 2,598.60 2,676.70 3
(2) เครื่องยกทรง ฯ 187.7 227.9 249.9 204.6 232.6 13.7
(3) ถุงเท้าและถุงน่อง 58.1 65.4 59.4 50.7 49.2 -3
(4) ถุงมือผ้า 11.4 11.4 9.5 7.8 8.8 12.8
2 ผ้าผืนและด้าย 1,414.50 1,714.40 1,838.40 1,522.20 1,504.40 -1.2
(1) ผ้าผืน 874.7 1,034.90 1,082.40 891 906.9 1.8
(2) ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ 539.8 679.5 756 631.2 597.5 -5.3
3 เคหะสิ่งทอ 182.2 227.6 240.9 200.1 233.2 16.5
4 เส้นใยประดิษฐ์ 291.8 415.6 443.7 368 378.4 2.8
5 ผ้าปักและผ้าลูกไม้ 108.2 102.9 117.3 94.9 111.2 17.2
6 ตาข่ายจับปลา 54.8 56.5 66.7 54.4 62.9 15.6
7 ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ 9 8.8 7.7 6.7 6.6 -1.5
8 ผ้าแบบสำหรับตัดเสื้อ ฯ 34.7 49.8 45.5 36 56.8 57.8
9 สิ่งทออื่นๆ 352.5 426.9 470.1 394.7 371.1 -6
เครื่องจักรสิ่งทอ 72.4 76.7 108.6 88.7 122.1 37.7
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
หมายเหตุ : ปี 2549*(ม.ค.-ต.ค.) เป็นข้อมูลเบื้องต้น
3. เส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 378.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออก
คือ จีน อินโดนีเซีย ปากีสถาน และอิหร่าน สัดส่วนร้อยละ 15.1, 13.6, 9.1 และ 8.8 ตามลำดับ
4. เคหะสิ่งทอ มีมูลค่าการส่งออก 233.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออก
คือสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ สัดส่วนร้อยละ 43.8, 16.6 และ 3.0 ตามลำดับ
5. สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 371.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกคือ
ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา สัดส่วนร้อยละ 12.6, 9.6, 8.5 และ 7.4 ตามลำดับ
ตลาดส่งออก
ตลาดส่งออกที่สำคัญๆ ของการส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ซึ่ง
การส่งออกสิ่งทอไปสหรัฐอเมริกา มีมูลค่า 1,758.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากมูลค่า 1,747.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30.9 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมดของไทย โดยสินค้าส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของเสื้อ
ผ้าสำเร็จรูป เครื่องยกทรง รัดทรงและส่วนประกอบ เคหะสิ่งทอ ผ้าผืน และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์
สหภาพยุโรป มีมูลค่าการส่งออก 1,086.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.1 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมด โดยสินค้าส่ง
ออกของไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าผืน เครื่องยกทรง รัดทรงและส่วนประกอบ และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์
ญี่ปุ่น มีมูลค่าการส่งออก 339.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.0 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมด โดยสินค้าส่งออกของไทย
ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของเสื้อผ้าสำเร็จรูป เคหะสิ่งทอและสิ่งทออื่นๆ
การนำเข้า
ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) การนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด 2,484.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง
เล็กน้อย จากมูลค่า 2,478.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลิตภัณฑ์สิ่งทอฯ สำคัญที่นำเข้า ได้แก่
เส้นใยที่ใช้ในการทอ มีมูลค่าการนำเข้า 590.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า
การนำเข้า 670.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ สหรัฐ อเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.9, 24.3,
6.4 และ 4.8 ตามลำดับ
ด้ายทอผ้า มีมูลค่าการนำเข้า 388.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการนำ
เข้า 369.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินโดนีเซีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.3, 16.2, 12.2 และ 11.5
ตามลำดับ
ผ้าผืน มีมูลค่าการนำเข้า 1,133.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้า
1,118.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฮ่องกง สัดส่วนร้อยละ 38.1, 18.0, 8.8, และ 8.4 ตามลำดับ
เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้า 167.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า
การนำเข้า 119.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ จีน ฮ่องกง อิตาลี และสเปน สัดส่วนร้อยละ 43.5, 14.9, 6.7 และ 5.6 ตาม
ลำดับ
เครื่องจักรสิ่งทอ มีมูลค่านำเข้า 332.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการนำ
เข้า 366.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือญี่ปุ่น เยอรมนี ไต้หวัน และจีน สัดส่วนร้อยละ 25.5, 16.0, 13.4 และ 11.2 ตามลำดับ
โครงสร้างสินค้าเข้าของไทย
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว :
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) (%)2548(ม.ค.-ต.ค.)
1. เครื่องจักรสิ่งทอ 427 426.6 420.2 366.5 332.6 -9.2
2. ด้ายและเส้นใย 1,094.80 1,223.00 1,296.10 1,121.80 1,061.90 -5.3
3. ผ้าผืน 1,100.20 1,216.20 1,339.40 1,118.60 1,133.20 1.3
4. เสื้อผ้า และสิ่งทออื่น ๆ 202.3 263.2 293.4 238.3 289.9 21.7
(1) เสื้อผ้าสำเร็จรูป 113.5 146.8 148.3 119.6 167 39.6
(2) ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ 88.8 116.4 145.1 118.7 122.9 3.5
รวม 2,397.30 2,702.40 2,928.90 2,478.70 2,485.00 0.3
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
หมายเหตุ : 2549*(ม.ค.-ต.ค.) เป็นตัวเลขเบื้องต้น
สรุปและแนวโน้ม
ภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มปี 2549 โดยรวมมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปตาม
ภาวะตลาดโลกจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจใน 3 ประเทศที่เป็นตลาดหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูง
ขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเส้นใยซึ่งต้องใช้วัตถุดิบปิโตรเคมีนำเข้ามาผลิตมีต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง อาทิ เส้น
ด้าย ผ้าผืน และเครื่องนุ่งห่ม มีต้นทุนสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น การระงับการ
เจรจาเขตการค้า ไทย-สหรัฐฯ และไทย-ญี่ปุ่น การนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยมีการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีต้นทุนการผลิตต่ำจากจีน
เวียดนาม และอินเดียสูงถึงร้อยละ 39.6 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลผกระทบต่อยอดขาย ทำให้การขยายตัวไม่เป็นไปตามเป้าหมายและชะลอตัว
ประกอบกับความไม่ชัดเจนด้านการเมืองส่งผลให้ภาคประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย หันไปเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาไม่แพงมากนักเหมาะกับกำลังซื้อที่มี
ซึ่งการรับออเดอร์ใหม่ลูกค้าเริ่มชะลอการสั่งซื้อ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอาจจะลดการนำเข้า หรือแม้แต่สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่ได้รับ
จากการส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา สินค้าที่คาดว่าจะอ่อนไหวที่สุด ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เนื่องจากไทยมีการส่งออกไปยัง 3 กลุ่มประเทศคิดเป็นสัด
ส่วนร้อยละ 80 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมด ซึ่งไทยได้รับสิทธิพิเศษ (GSP) ไปยังสหรัฐอเมริกามากที่สุดจากสินค้าที่ไทยได้รับ ซึ่งขณะนี้สหรัฐอเมริกา
กำลังพิจารณาทบทวนการต่ออายุ GSP ที่สหรัฐอเมริกาให้แก่ประเทศคู่ค้ารวมทั้งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2550 ทั้งนี้ผู้
ประกอบการไทยควรจะหาตลาดรองรับเพื่อขยายฐานการส่งออกไปยังประเทศใหม่ ๆ เพื่อลดความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบหลายประการเริ่ม
คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น เช่นราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ความกังวลของภาคเอกชนต่อปัญหาทางการเมืองลดน้อยลง
สำหรับแนวโน้มปี 2550 การแข่งขันในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจีนและเวียดนามจะยังสามารถ
ผลิตสินค้าด้วยต้นทุนต่ำกว่า แต่คาดว่าปัจจัยลบจะมาจากการชะลอตัวในภาคการส่งออกเนื่องจากการชะลอตัวด้านเศรษฐกิจของตลาดหลัก เช่น สหรัฐ
อเมริกา การแข็งค่าของค่าเงินบาทและมาตรการทางการค้า แต่ไทยยังมีความได้เปรียบด้านคุณภาพการผลิตและฝีมือที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับของ
ตลาดโลก คาดว่าจะมีการขยายตัวมากขึ้นไม่ต่ำกว่าปี 2549 ซึ่งขณะนี้ไทยเป็นผู้นำตลาดเสื้อผ้าในเอเชียและตลาดอาเซียน ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็น
ปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยสามารถขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปี 2549 ที่ผ่านมา
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
สถานการณ์ทั่วไป
อุตสาหกรรมสิ่งทอมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย มีกระบวนการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่การผลิตเส้นใย ปั่นด้าย ทอผ้า ถักผ้า
ฟอกย้อมฯ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ก่อให้เกิดการจ้างงานสูงถึง 1.08 ล้านคน อีกทั้งยังสามารถนำรายได้เงินตราต่างประเทศได้ปีละกว่า 5,000 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ โดยปี 2549(ม.ค.-ต.ค.) การส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอมีมูลค่า 5,691.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อย
ละ 2.8 ตลาดหลักสำหรับการส่งออก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน
สถานการณ์การผลิต
ภาวะการผลิตและการจำหน่ายปี 2549 เมื่อพิจารณาจากดัชนีอุตสาหกรรม การผลิตเส้นใยสิ่งทอ ฯ และการผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้ง
และโครเชท์ ดัชนีผลผลิตชะลอตัวลงร้อยละ 5.7 และ 7.0 ตามลำดับ สอดคล้องกับการจำหน่ายที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันจากผลกระทบทั้งภายใน
และต่างประเทศ เนื่องจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภคต่อความไม่แน่นอนทางการเมือง ประกอบกับการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมันส่งผลให้ต้นทุน
การผลิตสูงขึ้น
สำหรับการผลิตเครื่องแต่งกายยกเว้นเครื่องแต่งกายจากขนสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และ การจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับ
ปีก่อน เนื่องจากยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภค
ตารางที่ 1 ดัชนีการผลิตเส้นใยสิ่งทอรวมทั้งการทอสิ่งทอ
ดัชนี 2545 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว(%)
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) เทียบปี 2548(ม.ค.-ต.ค.)
ผลผลิต 97.5 94.8 92.1 89.1 89.2 84.1 -5.7
การส่งสินค้า 97.9 97.1 95.5 92.1 91.9 86.9 -5.4
สินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 138.2 150.5 153.5 157.2 158.9 144.4 -9.1
ตารางที่ 2 ดัชนีการผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้งและโครเชท์
ดัชนี 2545 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว(%)
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) เทียบปี 2548(ม.ค.-ต.ค.)
ผลผลิต 102.6 113.4 129.1 136.4 134.3 124.9 -7
การส่งสินค้า 101.4 94.7 96.7 102.5 101.6 97.8 -3.8
สินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 102.3 109.5 117.1 123.5 119.1 128.7 8.1
ตารางที่ 3 ดัชนีการผลิตเครื่องแต่งกายยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากขนสัตว์
ดัชนี 2545 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว(%)
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) เทียบปี 2548(ม.ค.-ต.ค.)
ผลผลิต 102.7 120.9 134.8 147.2 145.9 147.7 1.2
การส่งสินค้า 101.8 112.7 121.6 133.2 132 133.7 1.3
สินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 106.4 140.2 183.4 200 197.2 239.3 21.4
ที่มา : ตารางที่ 1-3 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : ฐานเฉลี่ยปี 2543 และเป็นดัชนีที่ยังไม่ได้ปรับผลกระทบของฤดูกาล (*) ตัวเลขเบื้องต้น
สถานการณ์การส่งออก
ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยมีมูลค่าการส่งออกรวม 5,691.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบ
กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออก 5,538.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผลิตภัณฑ์สิ่งทอส่งออกที่สำคัญ ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) ได้แก่
1. เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 2,676.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่ง
ออกคือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร สัดส่วนการส่งออกร้อยละ 51.3, 6.3, 5.9 และ 5.7 ตามลำดับ
2. ผ้าผืนและด้าย มีมูลค่าการส่งออก 1,504.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออก
คือจีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัดส่วนร้อยละ 6.2, 5.9, 5.5 และ 5.4 ตามลำดับ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ ได้แก่
2.1 ผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออก 906.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน ตลาดส่งออกคือสหรัฐ
อาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง และเนเธอร์แลนด์ สัดส่วนร้อยละ 8.3, 6.0 และ 5.4 ตามลำดับ
2.2 ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 597.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตลาดส่งออกคือจีน ตุรกี เกาหลีใต้ และสหรัฐ อเมริกา สัดส่วนร้อยละ 8.5, 8.5, 6.7 และ 6.3 ตามลำดับ
โครงสร้างสินค้าออกของไทย
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว :
(ม.ค.-ต.ค) (ม.ค.-ต.ค) (%)2548(ม.ค.-ต.ค.)
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 5,465.30 6,399.90 6,699.60 5,538.60 5,691.90 2.8
1 เครื่องนุ่งห่ม 3,017.50 3,397.30 3,469.40 2,861.70 2,967.30 3.7
(1) เสื้อผ้าสำเร็จรูป 2,760.20 3,092.60 3,150.60 2,598.60 2,676.70 3
(2) เครื่องยกทรง ฯ 187.7 227.9 249.9 204.6 232.6 13.7
(3) ถุงเท้าและถุงน่อง 58.1 65.4 59.4 50.7 49.2 -3
(4) ถุงมือผ้า 11.4 11.4 9.5 7.8 8.8 12.8
2 ผ้าผืนและด้าย 1,414.50 1,714.40 1,838.40 1,522.20 1,504.40 -1.2
(1) ผ้าผืน 874.7 1,034.90 1,082.40 891 906.9 1.8
(2) ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ 539.8 679.5 756 631.2 597.5 -5.3
3 เคหะสิ่งทอ 182.2 227.6 240.9 200.1 233.2 16.5
4 เส้นใยประดิษฐ์ 291.8 415.6 443.7 368 378.4 2.8
5 ผ้าปักและผ้าลูกไม้ 108.2 102.9 117.3 94.9 111.2 17.2
6 ตาข่ายจับปลา 54.8 56.5 66.7 54.4 62.9 15.6
7 ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ 9 8.8 7.7 6.7 6.6 -1.5
8 ผ้าแบบสำหรับตัดเสื้อ ฯ 34.7 49.8 45.5 36 56.8 57.8
9 สิ่งทออื่นๆ 352.5 426.9 470.1 394.7 371.1 -6
เครื่องจักรสิ่งทอ 72.4 76.7 108.6 88.7 122.1 37.7
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
หมายเหตุ : ปี 2549*(ม.ค.-ต.ค.) เป็นข้อมูลเบื้องต้น
3. เส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 378.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออก
คือ จีน อินโดนีเซีย ปากีสถาน และอิหร่าน สัดส่วนร้อยละ 15.1, 13.6, 9.1 และ 8.8 ตามลำดับ
4. เคหะสิ่งทอ มีมูลค่าการส่งออก 233.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออก
คือสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ สัดส่วนร้อยละ 43.8, 16.6 และ 3.0 ตามลำดับ
5. สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 371.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกคือ
ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา สัดส่วนร้อยละ 12.6, 9.6, 8.5 และ 7.4 ตามลำดับ
ตลาดส่งออก
ตลาดส่งออกที่สำคัญๆ ของการส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ซึ่ง
การส่งออกสิ่งทอไปสหรัฐอเมริกา มีมูลค่า 1,758.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากมูลค่า 1,747.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30.9 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมดของไทย โดยสินค้าส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของเสื้อ
ผ้าสำเร็จรูป เครื่องยกทรง รัดทรงและส่วนประกอบ เคหะสิ่งทอ ผ้าผืน และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์
สหภาพยุโรป มีมูลค่าการส่งออก 1,086.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.1 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมด โดยสินค้าส่ง
ออกของไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าผืน เครื่องยกทรง รัดทรงและส่วนประกอบ และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์
ญี่ปุ่น มีมูลค่าการส่งออก 339.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.0 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมด โดยสินค้าส่งออกของไทย
ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของเสื้อผ้าสำเร็จรูป เคหะสิ่งทอและสิ่งทออื่นๆ
การนำเข้า
ปี 2549 (ม.ค.-ต.ค.) การนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด 2,484.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง
เล็กน้อย จากมูลค่า 2,478.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลิตภัณฑ์สิ่งทอฯ สำคัญที่นำเข้า ได้แก่
เส้นใยที่ใช้ในการทอ มีมูลค่าการนำเข้า 590.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า
การนำเข้า 670.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ สหรัฐ อเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.9, 24.3,
6.4 และ 4.8 ตามลำดับ
ด้ายทอผ้า มีมูลค่าการนำเข้า 388.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการนำ
เข้า 369.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินโดนีเซีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.3, 16.2, 12.2 และ 11.5
ตามลำดับ
ผ้าผืน มีมูลค่าการนำเข้า 1,133.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้า
1,118.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฮ่องกง สัดส่วนร้อยละ 38.1, 18.0, 8.8, และ 8.4 ตามลำดับ
เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้า 167.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า
การนำเข้า 119.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือ จีน ฮ่องกง อิตาลี และสเปน สัดส่วนร้อยละ 43.5, 14.9, 6.7 และ 5.6 ตาม
ลำดับ
เครื่องจักรสิ่งทอ มีมูลค่านำเข้า 332.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการนำ
เข้า 366.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดนำเข้าคือญี่ปุ่น เยอรมนี ไต้หวัน และจีน สัดส่วนร้อยละ 25.5, 16.0, 13.4 และ 11.2 ตามลำดับ
โครงสร้างสินค้าเข้าของไทย
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ 2546 2547 2548 2548 2549* อัตราการขยายตัว :
(ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) (%)2548(ม.ค.-ต.ค.)
1. เครื่องจักรสิ่งทอ 427 426.6 420.2 366.5 332.6 -9.2
2. ด้ายและเส้นใย 1,094.80 1,223.00 1,296.10 1,121.80 1,061.90 -5.3
3. ผ้าผืน 1,100.20 1,216.20 1,339.40 1,118.60 1,133.20 1.3
4. เสื้อผ้า และสิ่งทออื่น ๆ 202.3 263.2 293.4 238.3 289.9 21.7
(1) เสื้อผ้าสำเร็จรูป 113.5 146.8 148.3 119.6 167 39.6
(2) ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ 88.8 116.4 145.1 118.7 122.9 3.5
รวม 2,397.30 2,702.40 2,928.90 2,478.70 2,485.00 0.3
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
หมายเหตุ : 2549*(ม.ค.-ต.ค.) เป็นตัวเลขเบื้องต้น
สรุปและแนวโน้ม
ภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มปี 2549 โดยรวมมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปตาม
ภาวะตลาดโลกจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจใน 3 ประเทศที่เป็นตลาดหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูง
ขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเส้นใยซึ่งต้องใช้วัตถุดิบปิโตรเคมีนำเข้ามาผลิตมีต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง อาทิ เส้น
ด้าย ผ้าผืน และเครื่องนุ่งห่ม มีต้นทุนสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น การระงับการ
เจรจาเขตการค้า ไทย-สหรัฐฯ และไทย-ญี่ปุ่น การนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยมีการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีต้นทุนการผลิตต่ำจากจีน
เวียดนาม และอินเดียสูงถึงร้อยละ 39.6 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลผกระทบต่อยอดขาย ทำให้การขยายตัวไม่เป็นไปตามเป้าหมายและชะลอตัว
ประกอบกับความไม่ชัดเจนด้านการเมืองส่งผลให้ภาคประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย หันไปเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาไม่แพงมากนักเหมาะกับกำลังซื้อที่มี
ซึ่งการรับออเดอร์ใหม่ลูกค้าเริ่มชะลอการสั่งซื้อ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอาจจะลดการนำเข้า หรือแม้แต่สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่ได้รับ
จากการส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา สินค้าที่คาดว่าจะอ่อนไหวที่สุด ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เนื่องจากไทยมีการส่งออกไปยัง 3 กลุ่มประเทศคิดเป็นสัด
ส่วนร้อยละ 80 ของการส่งออกสิ่งทอทั้งหมด ซึ่งไทยได้รับสิทธิพิเศษ (GSP) ไปยังสหรัฐอเมริกามากที่สุดจากสินค้าที่ไทยได้รับ ซึ่งขณะนี้สหรัฐอเมริกา
กำลังพิจารณาทบทวนการต่ออายุ GSP ที่สหรัฐอเมริกาให้แก่ประเทศคู่ค้ารวมทั้งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2550 ทั้งนี้ผู้
ประกอบการไทยควรจะหาตลาดรองรับเพื่อขยายฐานการส่งออกไปยังประเทศใหม่ ๆ เพื่อลดความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบหลายประการเริ่ม
คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น เช่นราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ความกังวลของภาคเอกชนต่อปัญหาทางการเมืองลดน้อยลง
สำหรับแนวโน้มปี 2550 การแข่งขันในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจีนและเวียดนามจะยังสามารถ
ผลิตสินค้าด้วยต้นทุนต่ำกว่า แต่คาดว่าปัจจัยลบจะมาจากการชะลอตัวในภาคการส่งออกเนื่องจากการชะลอตัวด้านเศรษฐกิจของตลาดหลัก เช่น สหรัฐ
อเมริกา การแข็งค่าของค่าเงินบาทและมาตรการทางการค้า แต่ไทยยังมีความได้เปรียบด้านคุณภาพการผลิตและฝีมือที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับของ
ตลาดโลก คาดว่าจะมีการขยายตัวมากขึ้นไม่ต่ำกว่าปี 2549 ซึ่งขณะนี้ไทยเป็นผู้นำตลาดเสื้อผ้าในเอเชียและตลาดอาเซียน ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็น
ปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยสามารถขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปี 2549 ที่ผ่านมา
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-