นอกเหนือจากการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในวันที่ 3 เมษายน 2550 นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และนายอาคิระ อามาริ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นได้ร่วมลงนามในโครงการความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีก 7 โครงการ
โครงการความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ และเพื่อเพิ่มพูนประโยชน์ที่สองฝ่ายจะได้รับจากความตกลง JTEPA โดยประกอบไปด้วย
1. ความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการครัวไทยสู่โลก โดยญี่ปุ่นจะสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์อาหารไทยในญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพ ไม่ใช่ราคา และผ่านช่องทางการค้าใหม่ๆ อาทิ e-commerce ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่ากว่า 2000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2. ความร่วมมือเรื่องสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งญี่ปุ่นจะให้ความร่วมมือในการขยายตลาดสำหรับสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม โดยเฉพาะสินค้าพื้นบ้าน เช่น OTOP และเรื่องขยายการลงทุนด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นในประเทศไทย
3. ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างมูลค่า (Value-creation Economy) ซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างสำนักบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ของไทย กับกระทรวง METI ของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนารูปแบบเศรษฐกิจใหม่ที่จะเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ พร้อมกับสานต่อความสำเร็จของโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบของไทย
4. ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมเหล็ก โดยญี่ปุ่นจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาฝึกอบรมและให้คำแนะนำแก่วิศวกรและช่างเทคนิคของไทย โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสนับสนุนการพัฒนาและวิจัยและการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีเหล็กระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและญี่ปุ่น
5. ความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยการฝึกอบรมให้แก่คนไทยในด้านแรงงานฝีมือทุกชนิดที่จำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ยานยนต์ รวมทั้งด้านการพัฒนาและออกแบบสินค้า ด้านการตรวจสอบ และด้านการพัฒนาและวิจัย
6. ความร่วมมือเรื่องการประหยัดพลังงาน ญี่ปุ่นจะเรียกร้องให้บริษัทญี่ปุ่นในไทยมีแผนลดพลังงานและลงทุนด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมาให้การฝึกอบรมให้หน่วยงานของไทย
7. การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เน้นการสร้างหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน โดยการให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการหารือระหว่างรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น
ความร่วมมือข้างต้น โดยเฉพาะในเรื่องโครงการครัวไทยสู่โลก และความร่วมมือด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จะเสริมสร้างความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของไทยในเรื่องต่าง ๆ เช่น การขยายการส่งออก การยกระดับสินค้าไทยให้ได้มาตรฐานสากล และการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
นอกจากนี้โครงการความร่วมมือยังสร้างความมั่นใจและดึงดูดให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยล่าสุดสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นแจ้งว่า ภายหลังการลงนาม JTEPA จะมีแผนที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40,000 ล้านบาท
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
-พห-