ธีรยุทธ บุญมี (ฤาษีเต่าเลี้ยง)
-----------------------------------------------------------------------------------
ปกติคอลัมน์นี้ พยายามหลีกเลี่ยงในการที่จะกล่าวอะไรพาดพิงถึงใคร เมื่อได้ “ขอเราพูดบ้าง” ก็พยายามพูดอย่างระมัดระวัง และมีมารยาท ไม่ลามปามให้ใครเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสถาบันของผู้อื่น
ผู้เขียนใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง เขียนบทความโดยเปิดเผยตัวตนอย่างรับผิดชอบ และสถานะของผู้เขียนก็อยู่ในวิสัยที่ต้องสำรวม รู้ควรไม่ควร และพูดอย่างมีศักดิ์ศรี มีสัมมาคารวะ ไม่ใช่จิ๊กโก๋ปากซอยนั่งแกว่งปากอยู่บนราวสะพาน รอชกปากกับใคร เพราะพ้นวัยมาแล้ว
แต่วันนี้ขออนุญาตพูดกับนายธีรยุทธ บุญมี อย่างตรงไปตรงมาสักครั้ง เมื่อท่านพูดแล้ว “ขอเราพูดบ้าง”
ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนมีงานเขียนพิเศษต้องเร่งรัดเขียนหนังสือวันละหลายชั่วโมง จึงไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ และไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่วันนี้มีเด็กที่พรรคเอาข่าวที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ตมาให้ดู ถามว่าทำไมนายธีรยุทธ จึงพูดจาอย่างนี้ เขาโกรธอะไรกับพรรคเรา ทำไมลามปามมาถึงท่านเสนีย์และท่านชวน ?
ผู้เขียนหยิบข่าวมาอ่านดู รายงานข่าวมีว่า
“เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวเรียกร้องให้ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ ปรับบุคลิกในการเป็นผู้นำประเทศด้วยการแสดงความเป็นผู้นำ 5 ด้าน “ อย่าเป็นเหมือนรัฐบาลเสรีชวน ที่การทำงานค่อนข้างเชื่องช้าและยุ่งเหยิง หรืออาจเปรียบได้ว่าเป็น ฤาษีเลี้ยงเต่าที่ต้วมเตี้ยมและไม่มีทิศทาง”
นายธีรยุทธยังกล่าวถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า “มีโอกาสเปลี่ยนเป็นวัฒนธรรมอำนาจนิยม และขาดทิศทางจนกลายเป็นสร้างกระแสชาตินิยม ควรตั้งสติหาหนทางแก้ปัญหา หากชนชั้นนำในสังคมเป็นโรคต่อมความดีเสื่อมและต่อมอำนาจโต จะไม่สามารถแก้วิกฤติของชาติได้”
ผู้เขียนจะไม่แสดงความคิดเห็นในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจารณ์ คมช.และท่านนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ใช่หน้าที่ กลับรู้สึกสะใจลึกๆว่า “เห็นไม๊ ! เตือนแล้วไม่ฟัง” และดูเหมือน มีบุคคลใน คมช. ออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนยอมรับ และศิโรราบ ต่อนายธีรยุทธ ส่วนประชาชนที่ส่งข้อความเข้าไปส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย จนผู้ให้สัมภาษณ์นึกกระหยิ่ม
ผู้เขียนตรวจสอบดูความเห็นของผู้แสดงความคิดเห็นแล้ว เห็นว่าเกือบทั้งหมดเห็นด้วยในส่วนที่พาดพิงนายกรัฐมนตรี และ คมช. แต่ไม่มีใครกล่าวถึงในส่วนที่พาดพิงถึง ท่าน มรว.เสนีย์ ปราโมช นายชวน หลีกภัย และ รัฐบาลชวน หลีกภัย
ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในรัฐบาลชวน หลีกภัยทั้งสองสมัย คือเป็นเลขานุการรัฐมนตรี 2 กระทรวงในรัฐบาลชวน 1 กับเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล ชวน 2 จึงจำเป็นต้อง ขอพูดบ้าง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องคือ
(1) คำชี้แจงของนายธีรยุทธ บุญมี ที่ว่า มรว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถูกเรียกว่า “ฤาษีเลี้ยงลิง” นั้นไม่ถูกต้อง ความจริงคำว่าฤาษีเลี้ยงลิงเป็นคำพูดของท่าน มรว.เสนีย์ ปราโมช ที่เปรียบเทียบตัวท่านเองว่า ท่านเหมือนฤาษีเลี้ยงลิง เพราะลูกพรรคบางคนควบคุมยากเหมือน ลิงดื้อ ไม่ใช่ท่านถูกใครประณามว่าเป็นฤาษีเลี้ยงลิง และปัจจุบันลิงดื้อเหล่านั้น ส่วนหนึ่งได้ล้มหายตายจากไปจากพรรค และส่วนใหญ่ก็ไปอยู่กับ ฤาษีทุศีลที่สำนักอื่นหมดแล้ว
(2) สำหรับคำว่า “ชวน เชื่องช้า” ผู้เขียนรู้สึกเสียดายอาจารย์จากห้องสมุดของสำนักการศึกษาเก่าของทั้งท่านชวน และผู้เขียนเอง ซึ่งจบจากที่นั่นมาตั้งแต่นายธีรยุทธ บุญมี ยังนุ่งขาสั้นนั่งอยู่บนราวสะพานปากซอยที่ไหนสักแห่ง แต่กลับสนุกปากโดยไม่มีหลักฐาน และรอยหยักในสมอง ขอถามว่า
(2).1 นายธีรยุทธ บุญมี ช่วยออกมาชี้ตัวอย่างสักเรื่องได้ไหมว่า เรื่องอะไรบ้างที่นายชวนเชื่องช้าไม่กล้าตัดสินใจ จนทำให้บ้านเมืองเสียหาย
(2).2 โดยความเห็นของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนนี้เห็นว่า การมีหลักการในการบริหารบ้านเมือง เป็นสิ่งน่ารังเกียจที่ควรค่อนแคะสนุกปากหรือ
(2).3 คำให้สัมภาษณ์ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ว่า ยังไม่ได้รับรายงานต้องรอตรวจสอบก่อน ก่อนที่จะให้ความเห็นในเรื่องสำคัญที่ถ้าหากผิดพลาดแล้วอาจทำให้สังคมสับสนวุ่นวาย และเป็นอุปสรรคแก่ผู้ที่กำลังทำงาน ในความเห็นของอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนนี้ เห็นว่าเป็นข้อบกพร่องที่น่าตำหนิหรือ ?
(3) หากนายธีรยุทธ บุญมี เป็นพวก ก๊อดอาร์มี ที่จับตัวผู้คนในโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเป็นตัวประกัน จะรู้ว่านายชวน หลีกภัย เป็นผู้ตัดสินใจ รวดเร็วและเด็ดขาดแค่ไหน ใครอยากรู้ลองถาม พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์
ผู้เขียนอยากให้ความคิดแก่นายธีรยุทธ บุญมีได้รู้ว่า
(1) รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ในทางรัฐศาสตร์ บุรพาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยสอนว่า ไม่ควรเอามาเทียบเคียงกัน เช่นเดียวกับวันที่นายธีรยุทธเข้าป่าไปอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อแตกแยกความคิดกันแล้วออกมามอบตัว ไม่มีใครเอานายธีรยุทธในป่า มาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของนายธีรยุทธวันนี้
(2) ความเห็นขัดแย้งกัน ในระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องปกติธรรมดาแม้จะอยู่ในพรรคเดียวกัน บ่อยครั้งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องปล่อยให้ “หนุมาน” ได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ ตราบใดที่ไม่ปรากฏความทุจริตหรือชั่วร้าย จนอาจกลายเป็น ฤาษีเลี้ยงโจร
(3) การเป็นผู้นำประทศต้องมั่นคงที่จะไม่พูดอะไรโดยไม่คิด หากไม่เข้าใจต้องยังไม่พูดหรือรีบอธิบาย
(4) การที่บ้านเมืองอาจมีความไม่สงบเรียบร้อยบ้าง ในบางครั้งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมและพฤติกรรมมนุษย์ หากช้าบ้างแต่ต้องไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติผิดปกติ ไม่ว่าเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ หรือสังคม ในช่วงรัฐบาลชวน หากเชื่องช้าแล้วทำให้คนทั่วไปและประชาชนในจังหวัดชายแดน ภาคใต้ตายช้าลง คนจนๆน้อยลง เศรษฐกิจก้าวไปอย่างพอเพียง คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างช้าๆแต่มั่นคง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
มีคนฝากเรียนให้นายธีรยุทธ บุญมีทราบว่า ท่านเสนีย์ ปราโมช มีคำผ่อนคลายอารมณ์ให้ลูกพรรคเสมอ นอกจากคำว่าท่านเป็นฤาษีเลี้ยงลิงแล้ว ท่านยังมีคำว่า “ ข้าเก่าเต่าเลี้ยง”
วันนี้นายธีรยุทธได้อยู่ในสถาบันที่มีเกียรติยศมายาวนาน
ถึงแม้จะซ่อนตัวอยู่ตามหลืบมุมห้องสมุดเพื่อคิดประดิษฐ์คำ
แต่ต้องไม่ทำตัว เป็น “ฤาษีเต่าเลี้ยง” ให้เสื่อมเสียชื่อสถาบัน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2550
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 มี.ค. 2550--จบ--
-----------------------------------------------------------------------------------
ปกติคอลัมน์นี้ พยายามหลีกเลี่ยงในการที่จะกล่าวอะไรพาดพิงถึงใคร เมื่อได้ “ขอเราพูดบ้าง” ก็พยายามพูดอย่างระมัดระวัง และมีมารยาท ไม่ลามปามให้ใครเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสถาบันของผู้อื่น
ผู้เขียนใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง เขียนบทความโดยเปิดเผยตัวตนอย่างรับผิดชอบ และสถานะของผู้เขียนก็อยู่ในวิสัยที่ต้องสำรวม รู้ควรไม่ควร และพูดอย่างมีศักดิ์ศรี มีสัมมาคารวะ ไม่ใช่จิ๊กโก๋ปากซอยนั่งแกว่งปากอยู่บนราวสะพาน รอชกปากกับใคร เพราะพ้นวัยมาแล้ว
แต่วันนี้ขออนุญาตพูดกับนายธีรยุทธ บุญมี อย่างตรงไปตรงมาสักครั้ง เมื่อท่านพูดแล้ว “ขอเราพูดบ้าง”
ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนมีงานเขียนพิเศษต้องเร่งรัดเขียนหนังสือวันละหลายชั่วโมง จึงไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ และไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่วันนี้มีเด็กที่พรรคเอาข่าวที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ตมาให้ดู ถามว่าทำไมนายธีรยุทธ จึงพูดจาอย่างนี้ เขาโกรธอะไรกับพรรคเรา ทำไมลามปามมาถึงท่านเสนีย์และท่านชวน ?
ผู้เขียนหยิบข่าวมาอ่านดู รายงานข่าวมีว่า
“เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวเรียกร้องให้ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ ปรับบุคลิกในการเป็นผู้นำประเทศด้วยการแสดงความเป็นผู้นำ 5 ด้าน “ อย่าเป็นเหมือนรัฐบาลเสรีชวน ที่การทำงานค่อนข้างเชื่องช้าและยุ่งเหยิง หรืออาจเปรียบได้ว่าเป็น ฤาษีเลี้ยงเต่าที่ต้วมเตี้ยมและไม่มีทิศทาง”
นายธีรยุทธยังกล่าวถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า “มีโอกาสเปลี่ยนเป็นวัฒนธรรมอำนาจนิยม และขาดทิศทางจนกลายเป็นสร้างกระแสชาตินิยม ควรตั้งสติหาหนทางแก้ปัญหา หากชนชั้นนำในสังคมเป็นโรคต่อมความดีเสื่อมและต่อมอำนาจโต จะไม่สามารถแก้วิกฤติของชาติได้”
ผู้เขียนจะไม่แสดงความคิดเห็นในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจารณ์ คมช.และท่านนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ใช่หน้าที่ กลับรู้สึกสะใจลึกๆว่า “เห็นไม๊ ! เตือนแล้วไม่ฟัง” และดูเหมือน มีบุคคลใน คมช. ออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนยอมรับ และศิโรราบ ต่อนายธีรยุทธ ส่วนประชาชนที่ส่งข้อความเข้าไปส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย จนผู้ให้สัมภาษณ์นึกกระหยิ่ม
ผู้เขียนตรวจสอบดูความเห็นของผู้แสดงความคิดเห็นแล้ว เห็นว่าเกือบทั้งหมดเห็นด้วยในส่วนที่พาดพิงนายกรัฐมนตรี และ คมช. แต่ไม่มีใครกล่าวถึงในส่วนที่พาดพิงถึง ท่าน มรว.เสนีย์ ปราโมช นายชวน หลีกภัย และ รัฐบาลชวน หลีกภัย
ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในรัฐบาลชวน หลีกภัยทั้งสองสมัย คือเป็นเลขานุการรัฐมนตรี 2 กระทรวงในรัฐบาลชวน 1 กับเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล ชวน 2 จึงจำเป็นต้อง ขอพูดบ้าง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องคือ
(1) คำชี้แจงของนายธีรยุทธ บุญมี ที่ว่า มรว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถูกเรียกว่า “ฤาษีเลี้ยงลิง” นั้นไม่ถูกต้อง ความจริงคำว่าฤาษีเลี้ยงลิงเป็นคำพูดของท่าน มรว.เสนีย์ ปราโมช ที่เปรียบเทียบตัวท่านเองว่า ท่านเหมือนฤาษีเลี้ยงลิง เพราะลูกพรรคบางคนควบคุมยากเหมือน ลิงดื้อ ไม่ใช่ท่านถูกใครประณามว่าเป็นฤาษีเลี้ยงลิง และปัจจุบันลิงดื้อเหล่านั้น ส่วนหนึ่งได้ล้มหายตายจากไปจากพรรค และส่วนใหญ่ก็ไปอยู่กับ ฤาษีทุศีลที่สำนักอื่นหมดแล้ว
(2) สำหรับคำว่า “ชวน เชื่องช้า” ผู้เขียนรู้สึกเสียดายอาจารย์จากห้องสมุดของสำนักการศึกษาเก่าของทั้งท่านชวน และผู้เขียนเอง ซึ่งจบจากที่นั่นมาตั้งแต่นายธีรยุทธ บุญมี ยังนุ่งขาสั้นนั่งอยู่บนราวสะพานปากซอยที่ไหนสักแห่ง แต่กลับสนุกปากโดยไม่มีหลักฐาน และรอยหยักในสมอง ขอถามว่า
(2).1 นายธีรยุทธ บุญมี ช่วยออกมาชี้ตัวอย่างสักเรื่องได้ไหมว่า เรื่องอะไรบ้างที่นายชวนเชื่องช้าไม่กล้าตัดสินใจ จนทำให้บ้านเมืองเสียหาย
(2).2 โดยความเห็นของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนนี้เห็นว่า การมีหลักการในการบริหารบ้านเมือง เป็นสิ่งน่ารังเกียจที่ควรค่อนแคะสนุกปากหรือ
(2).3 คำให้สัมภาษณ์ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ว่า ยังไม่ได้รับรายงานต้องรอตรวจสอบก่อน ก่อนที่จะให้ความเห็นในเรื่องสำคัญที่ถ้าหากผิดพลาดแล้วอาจทำให้สังคมสับสนวุ่นวาย และเป็นอุปสรรคแก่ผู้ที่กำลังทำงาน ในความเห็นของอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนนี้ เห็นว่าเป็นข้อบกพร่องที่น่าตำหนิหรือ ?
(3) หากนายธีรยุทธ บุญมี เป็นพวก ก๊อดอาร์มี ที่จับตัวผู้คนในโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเป็นตัวประกัน จะรู้ว่านายชวน หลีกภัย เป็นผู้ตัดสินใจ รวดเร็วและเด็ดขาดแค่ไหน ใครอยากรู้ลองถาม พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์
ผู้เขียนอยากให้ความคิดแก่นายธีรยุทธ บุญมีได้รู้ว่า
(1) รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ในทางรัฐศาสตร์ บุรพาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยสอนว่า ไม่ควรเอามาเทียบเคียงกัน เช่นเดียวกับวันที่นายธีรยุทธเข้าป่าไปอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อแตกแยกความคิดกันแล้วออกมามอบตัว ไม่มีใครเอานายธีรยุทธในป่า มาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของนายธีรยุทธวันนี้
(2) ความเห็นขัดแย้งกัน ในระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องปกติธรรมดาแม้จะอยู่ในพรรคเดียวกัน บ่อยครั้งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องปล่อยให้ “หนุมาน” ได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ ตราบใดที่ไม่ปรากฏความทุจริตหรือชั่วร้าย จนอาจกลายเป็น ฤาษีเลี้ยงโจร
(3) การเป็นผู้นำประทศต้องมั่นคงที่จะไม่พูดอะไรโดยไม่คิด หากไม่เข้าใจต้องยังไม่พูดหรือรีบอธิบาย
(4) การที่บ้านเมืองอาจมีความไม่สงบเรียบร้อยบ้าง ในบางครั้งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมและพฤติกรรมมนุษย์ หากช้าบ้างแต่ต้องไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติผิดปกติ ไม่ว่าเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ หรือสังคม ในช่วงรัฐบาลชวน หากเชื่องช้าแล้วทำให้คนทั่วไปและประชาชนในจังหวัดชายแดน ภาคใต้ตายช้าลง คนจนๆน้อยลง เศรษฐกิจก้าวไปอย่างพอเพียง คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างช้าๆแต่มั่นคง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
มีคนฝากเรียนให้นายธีรยุทธ บุญมีทราบว่า ท่านเสนีย์ ปราโมช มีคำผ่อนคลายอารมณ์ให้ลูกพรรคเสมอ นอกจากคำว่าท่านเป็นฤาษีเลี้ยงลิงแล้ว ท่านยังมีคำว่า “ ข้าเก่าเต่าเลี้ยง”
วันนี้นายธีรยุทธได้อยู่ในสถาบันที่มีเกียรติยศมายาวนาน
ถึงแม้จะซ่อนตัวอยู่ตามหลืบมุมห้องสมุดเพื่อคิดประดิษฐ์คำ
แต่ต้องไม่ทำตัว เป็น “ฤาษีเต่าเลี้ยง” ให้เสื่อมเสียชื่อสถาบัน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2550
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 มี.ค. 2550--จบ--