กรุงเทพ--26 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
Prof.Dr. Ekmeleddin Ihsanoglu เลขาธิการองค์การการประชุมอิสลาม (Organization of Islamic Conference : OIC) พร้อมด้วยคณะรวม 6 คน จะเดินทางมาเยือนไทยระหว่างวันที่ 30 เมษายน — 2 พฤษภาคม 2550 ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ในระหว่างการเยือนไทย เลขาธิการ OIC จะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอานันท์ ปันยารชุน
อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนการพบหารือกับผู้นำชุมชนไทยมุสลิม อาทิ ประธานกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา กรรมการมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้แทนชมรม นักกฎหมายมุสลิม ผู้แทนสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชีย ผู้แทนองค์กรเอกชนมุสลิม และ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล เป็นต้น
การเยือนไทยครั้งนี้นับเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของเลขาธิการ OIC คนปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสอันดีที่เลขาธิการ OIC จะได้รับทราบนโยบายรัฐบาลในการเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาที่นำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเลขาธิการ OIC ให้ความสนใจ
ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 OIC ได้ออกแถลงข่าวแสดงความยินดีต่อมาตรการของรัฐบาลไทย แสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรี และแสดงความเชื่อมั่นว่า การดำเนินการของรัฐบาลเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และ OIC พร้อมที่จะสนับสนุนไทย
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ OIC จะได้รับทราบสภาพการณ์ ข้อเท็จจริง และความเป็นอยู่ของชาวไทยมุสลิมในประเทศ และได้รับทราบความแตกต่างของชาวไทย-มุสลิมในภูมิภาคต่างๆ ของไทย ซึ่งมีจำนวนกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนชาวไทยมุสลิมทั้งหมดในประเทศ โดยรับทราบข้อมูลจากหน่วยงานทุกภาคส่วนจากทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ผู้นำทางศาสนาและผู้นำชุมชนมุสลิมทั่วประเทศ และกลุ่ม NGO ต่างๆ
นอกจากนี้ การเยือนไทยครั้งนี้ยังนับเป็นโอกาสอันดีที่ไทยและ OIC จะร่วมกันหาแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านอื่นๆ ทั้งด้านการค้า การลงทุน สังคมและวัฒนธรรมระหว่างกันด้วย อาทิ ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและการฝึกอบรมป้องกันโรคไข้หวัดนกให้แก่สมาชิก OIC เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีของไทยในเรื่องนี้ให้แก่สมาชิก OIC ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 — 19 มกราคม ที่ผ่านมา และจะจัดการฝึกอบรมฯ ครั้งที่สองให้แก่สมาชิก OIC ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ในเดือนมิถุนายน ศกนี้
ในส่วนการส่งเสริมด้านการค้า สมาคมนักธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย-มุสลิม ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของ OIC (Islamic Chamber of Commerce and Industry-ICCI) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการส่งเสริมธุรกิจและอุตสาหกรรม SMEs โดยเฉพาะด้านอาหารฮาลาล อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่น เป็นต้น นอกจากนี้ สมาคมนักธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย-มุสลิมอยู่ในระหว่างการประสานงานกับ Islamic Chamber of Commerce and Industry ของ OIC เพื่อพิจารณาจัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการและความร่วมมือระห่างประเทศโลกอิสลาม “ การประชุมเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว 2007 “
ในด้านการศึกษา OIC ได้มีบทบาทในการช่วยพัฒนาการศึกษาสำหรับชาวไทยมุสลิม โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (Islamic Development Bank — IDB) ซึ่งเป็นองค์กรชำนาญพิเศษของ OIC ได้ให้เงินสนับสนุน และเงินกู้ในการสร้างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในไทยจำนวนมาก รวมทั้งทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิมเพื่อศึกษาในประเทศไทยมาโดยต่อเนื่อง
ดังนั้น การเยือนไทยครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับไทย และ OIC ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านต่างๆ กว้างขวางมากขี้น ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา และอื่นๆ รวมทั้งการเตรียมการเข้าร่วมประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศและคณะผู้แทนไทยที่จะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ OIC ครั้งที่ 34 ณ กรุงอิสลามาบัด ปากีสถาน ระหว่างวันที่ 15 — 17 พฤษภาคม 2550 อีกด้วย
ปัจจุบัน OIC มีสมาชิกทั้งหมด 57 ประเทศ โดยไทยเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์ (Observer State) ของ OIC เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2541
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
Prof.Dr. Ekmeleddin Ihsanoglu เลขาธิการองค์การการประชุมอิสลาม (Organization of Islamic Conference : OIC) พร้อมด้วยคณะรวม 6 คน จะเดินทางมาเยือนไทยระหว่างวันที่ 30 เมษายน — 2 พฤษภาคม 2550 ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ในระหว่างการเยือนไทย เลขาธิการ OIC จะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอานันท์ ปันยารชุน
อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนการพบหารือกับผู้นำชุมชนไทยมุสลิม อาทิ ประธานกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา กรรมการมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้แทนชมรม นักกฎหมายมุสลิม ผู้แทนสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชีย ผู้แทนองค์กรเอกชนมุสลิม และ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล เป็นต้น
การเยือนไทยครั้งนี้นับเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของเลขาธิการ OIC คนปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสอันดีที่เลขาธิการ OIC จะได้รับทราบนโยบายรัฐบาลในการเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาที่นำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเลขาธิการ OIC ให้ความสนใจ
ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 OIC ได้ออกแถลงข่าวแสดงความยินดีต่อมาตรการของรัฐบาลไทย แสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรี และแสดงความเชื่อมั่นว่า การดำเนินการของรัฐบาลเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และ OIC พร้อมที่จะสนับสนุนไทย
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ OIC จะได้รับทราบสภาพการณ์ ข้อเท็จจริง และความเป็นอยู่ของชาวไทยมุสลิมในประเทศ และได้รับทราบความแตกต่างของชาวไทย-มุสลิมในภูมิภาคต่างๆ ของไทย ซึ่งมีจำนวนกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนชาวไทยมุสลิมทั้งหมดในประเทศ โดยรับทราบข้อมูลจากหน่วยงานทุกภาคส่วนจากทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ผู้นำทางศาสนาและผู้นำชุมชนมุสลิมทั่วประเทศ และกลุ่ม NGO ต่างๆ
นอกจากนี้ การเยือนไทยครั้งนี้ยังนับเป็นโอกาสอันดีที่ไทยและ OIC จะร่วมกันหาแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านอื่นๆ ทั้งด้านการค้า การลงทุน สังคมและวัฒนธรรมระหว่างกันด้วย อาทิ ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและการฝึกอบรมป้องกันโรคไข้หวัดนกให้แก่สมาชิก OIC เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีของไทยในเรื่องนี้ให้แก่สมาชิก OIC ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 — 19 มกราคม ที่ผ่านมา และจะจัดการฝึกอบรมฯ ครั้งที่สองให้แก่สมาชิก OIC ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ในเดือนมิถุนายน ศกนี้
ในส่วนการส่งเสริมด้านการค้า สมาคมนักธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย-มุสลิม ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของ OIC (Islamic Chamber of Commerce and Industry-ICCI) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการส่งเสริมธุรกิจและอุตสาหกรรม SMEs โดยเฉพาะด้านอาหารฮาลาล อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่น เป็นต้น นอกจากนี้ สมาคมนักธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย-มุสลิมอยู่ในระหว่างการประสานงานกับ Islamic Chamber of Commerce and Industry ของ OIC เพื่อพิจารณาจัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการและความร่วมมือระห่างประเทศโลกอิสลาม “ การประชุมเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว 2007 “
ในด้านการศึกษา OIC ได้มีบทบาทในการช่วยพัฒนาการศึกษาสำหรับชาวไทยมุสลิม โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (Islamic Development Bank — IDB) ซึ่งเป็นองค์กรชำนาญพิเศษของ OIC ได้ให้เงินสนับสนุน และเงินกู้ในการสร้างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในไทยจำนวนมาก รวมทั้งทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิมเพื่อศึกษาในประเทศไทยมาโดยต่อเนื่อง
ดังนั้น การเยือนไทยครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับไทย และ OIC ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านต่างๆ กว้างขวางมากขี้น ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา และอื่นๆ รวมทั้งการเตรียมการเข้าร่วมประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศและคณะผู้แทนไทยที่จะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ OIC ครั้งที่ 34 ณ กรุงอิสลามาบัด ปากีสถาน ระหว่างวันที่ 15 — 17 พฤษภาคม 2550 อีกด้วย
ปัจจุบัน OIC มีสมาชิกทั้งหมด 57 ประเทศ โดยไทยเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์ (Observer State) ของ OIC เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2541
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-