นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยสถานการณ์มันสำปะหลังว่า ในปี 2548 นี้ จัดได้ว่าเป็นปีทองของเกษตรกร และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง เนื่องจากนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ราคาหัวมันสดและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทุกประเภท พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหัวมันสดที่เกษตรกรขายได้มีราคาเฉลี่ยสูงถึง 1.48 บาท/กก. สูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยเพียง 0.92 บาท/กก. หรือสูงขึ้นร้อยละ 61 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อสนับสนุน รวมทั้งส่งเสริมผลักดันขยายการส่งออกในรูปแบบต่างๆ ทั้งในส่วนของการเจรจาแก้ไขปัญหาการค้า การทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับนานาประเทศ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังของกรมการค้าต่างประเทศ ในงานแสดงสินค้าสำคัญๆ เช่น งาน VIV Asia 2005 และงานเกษตรแห่งชาติ เป็นต้น รวมทั้งการดำเนินการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2548 โดยกำหนดราคารับจำนำหัวมันสดที่ 1.50 บาท/กก. เป็นราคานำตลาด และขายมันเส้นที่แปรสภาพจากหัวมันสดที่รับจำนำดังกล่าวเป็นการล่วงหน้า ในคาคาสูงถึงตันละ 4,220 บาท สูงกว่าราคามันเส้นทั่วไป ซึ่งในขณะนั้นมีราคาเฉลี่ยเพียงตันละ 3,370 บาท และปัจจัยจากผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ซึ่งทำให้ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังในปีนี้ลดลงจากปีที่แล้วเกือบ 4 ล้านตัน ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ภายในประเทศและส่งออก กลับเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ราคาหัวมันสดและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเภคเอกชนมีการคาดหมายว่าราคายังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสุงขึ้นต่อไปอีก
ในไตรมาสแรกของปี 2548 มีการส่งออกมันเส้น/มันอัดเม็ด เป็นปริมาณถึง 809,678 ตัน มูลค่า 2,994.5 ล้านบาท ราคาส่งออกเฉลี่ยสูงถึงตันละ 3,947 บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งมีราคาตันละ 2,809 บาท หรือเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 40 และมีการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ปริมาณ 372,207 ตัน มูลค่า 4,275.3 ล้านบาท ราคาส่งออกเฉลี่ยสูงถึงตันละ 11,486 บาท เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งมีราคาตันละ 9,556 บาท หรือเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 20
อธิบดี ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการทุกห่วงโซ่ในอุตสาหกรรม มันสำปะหลัง มีความยั่งยืนทางการผลิต และระดับราคาหัวมันสดและผลิตภัณฑ์ มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ภาครัฐทั้งในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน กำลังอยู่ในระหว่างการร่วมมือจัดทำ Roadmap ยุทธศาสตร์พืชทดแทนพลังงาน โดยจะนำสินค้ามันสำปะหลัง อ้อย และน้ำมันปาล์ม มาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอทานอล และไบโอดีเซล เพื่อทดแทนการนำเข้าพลังงาน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าสินค้ามันสำปะหลัง ยังมีอนาคตสดใส
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
ในไตรมาสแรกของปี 2548 มีการส่งออกมันเส้น/มันอัดเม็ด เป็นปริมาณถึง 809,678 ตัน มูลค่า 2,994.5 ล้านบาท ราคาส่งออกเฉลี่ยสูงถึงตันละ 3,947 บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งมีราคาตันละ 2,809 บาท หรือเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 40 และมีการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ปริมาณ 372,207 ตัน มูลค่า 4,275.3 ล้านบาท ราคาส่งออกเฉลี่ยสูงถึงตันละ 11,486 บาท เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งมีราคาตันละ 9,556 บาท หรือเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 20
อธิบดี ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการทุกห่วงโซ่ในอุตสาหกรรม มันสำปะหลัง มีความยั่งยืนทางการผลิต และระดับราคาหัวมันสดและผลิตภัณฑ์ มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ภาครัฐทั้งในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน กำลังอยู่ในระหว่างการร่วมมือจัดทำ Roadmap ยุทธศาสตร์พืชทดแทนพลังงาน โดยจะนำสินค้ามันสำปะหลัง อ้อย และน้ำมันปาล์ม มาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอทานอล และไบโอดีเซล เพื่อทดแทนการนำเข้าพลังงาน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าสินค้ามันสำปะหลัง ยังมีอนาคตสดใส
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-