ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 04 เมษายน 2550 - 10 เมษายน 2550
ภาคเหนือ
อากาศร้อนและมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นแห่งๆ ต่อจากนั้นจะยังคงมีฝนตกได้บางพื้นที่ทางตอนบน ของภาค เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งขณะฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากในบางพื้นที่มีสภาพอากาศร้อนและแดดจัดทำให้น้ำระเหยได้มาก เกษตรกรควรนำวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตร เช่นใบไม้ฟางข้าว และหญ้าแห้ง คลุมบริเวณโคนต้นพืช เพื่อรักษาความชื้นดิน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน โดยในช่วงวันที่ 4 เม.ย.และ 8-10 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนบริเวณที่ยังคงมีอากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน และจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้แก่สัตว์ด้วย
ภาคกลาง
อากาศร้อน โดยในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่ง ๆ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว ส่วนบริเวณ ที่อากาศร้อนและมีแดดจัดผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์ที่เลี้ยง หากไม่สมดุลกันจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
อากาศร้อน โดยในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย.และ 8-10 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย เกษตรกรควรผูกโยงและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการฉีกหักและโค่นล้มเมื่อมีลมกระโชกแรง ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างพอเพียง หากมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอควรปลิดผลทิ้งบ้างโดยเริ่มจากผล ที่ไม่สมบูรณ์
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนในบางพื้นที่ และจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายตลอดช่วง สำหรับไม้ผล ที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างพอเพียงเพราะหากขาดน้ำ จะทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงหล่นการติดผลลดลง ส่วนชาวสวนยางพาราระยะนี้ควรระวัง และป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนในบางพื้นที่ และจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายตลอดช่วง สำหรับไม้ผล ที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างพอเพียงเพราะหากขาดน้ำ จะทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงหล่นการติดผลลดลง ส่วนชาวสวนยางพาราระยะนี้ควรระวัง และป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-