นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้แถลงผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2550 และในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550 พร้อมทั้งสถานะหนี้สาธารณะล่าสุด ณ สิ้นเดือนเมษายน 2550 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนพฤษภาคม 2550
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตร 19,000 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ Roll over หนี้เดิมรวม 1,900 ล้านบาท
1.2 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 63,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตร และปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจได้ Roll over
หนี้เดิม 17,601 ล้านบาท
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 18,707 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ต่างประเทศด้วยเงินบาท 17,200 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 18,707 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 897 ล้านบาท นอกจากนี้ได้บริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้ FRNs และหนี้เงินกู้ Samurai Bond โดยการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า วงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 48,000 ล้านเยน ตามลำดับ สำหรับ รัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 14,920 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนพฤษภาคม 2550
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศโดยการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงิน 26,005 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตร 9,460 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงิน 16,545 ล้านบาท และได้จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) 500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศรวม 2,500 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 600 ล้านบาท กู้ทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 600 ล้านบาท และกู้เพื่อลงทุน 1,300 ล้านบาท
2.2 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 181,178 ล้านบาท เป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 161,660 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 19,518 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินจากต่างประเทศ 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ
3. การชำระหนี้ของภาครัฐ
3.1 ในเดือนพฤษภาคม 2550
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,567 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 154 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,413 ล้านบาท
3.2 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 94,433 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2550
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 มีจำนวน 3,201,650 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.12 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,046,132 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 887,627 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 222,175 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 45,716 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 13,172 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 10,196 ล้านบาท 909 ล้านบาทและ 2,068 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้องค์กรของรัฐอื่นมีจำนวนเท่ากับเดือนก่อน
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 423,941 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.24 และหนี้ในประเทศ2,777,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.76 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,754,607 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.04 และหนี้ระยะสั้น 447,043 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.96 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 52/2550 22 มิถุนายน 50--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนพฤษภาคม 2550
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตร 19,000 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ Roll over หนี้เดิมรวม 1,900 ล้านบาท
1.2 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 63,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตร และปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจได้ Roll over
หนี้เดิม 17,601 ล้านบาท
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 18,707 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ต่างประเทศด้วยเงินบาท 17,200 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 18,707 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 897 ล้านบาท นอกจากนี้ได้บริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้ FRNs และหนี้เงินกู้ Samurai Bond โดยการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า วงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 48,000 ล้านเยน ตามลำดับ สำหรับ รัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 14,920 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนพฤษภาคม 2550
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศโดยการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงิน 26,005 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตร 9,460 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงิน 16,545 ล้านบาท และได้จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) 500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศรวม 2,500 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 600 ล้านบาท กู้ทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 600 ล้านบาท และกู้เพื่อลงทุน 1,300 ล้านบาท
2.2 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 181,178 ล้านบาท เป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 161,660 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 19,518 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินจากต่างประเทศ 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ
3. การชำระหนี้ของภาครัฐ
3.1 ในเดือนพฤษภาคม 2550
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,567 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 154 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,413 ล้านบาท
3.2 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 94,433 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2550
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 มีจำนวน 3,201,650 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.12 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,046,132 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 887,627 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 222,175 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 45,716 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 13,172 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 10,196 ล้านบาท 909 ล้านบาทและ 2,068 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้องค์กรของรัฐอื่นมีจำนวนเท่ากับเดือนก่อน
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 423,941 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.24 และหนี้ในประเทศ2,777,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.76 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,754,607 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.04 และหนี้ระยะสั้น 447,043 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.96 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 52/2550 22 มิถุนายน 50--