วันที่ 17 สค. 50 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ในการลงพื้นที่พบปะเกษตรกร ชาวสวนลำไย ที่ จ.ลำพูน ว่าจากกรณีที่มีกระบวนการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ และมีการบิดเบือนเนื้อหาในรูปแบบต่างๆ นั้น การลงคะแนนก็เหมือนกับเวลาที่การเลือกตั้ง ก็จะเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้บ่อยๆ แต่ตนมั่นใจในวิจารณญาณของประชาชนว่าจะสามารถตัดสินใจเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติได้มากที่สุด ส่วนข้อมูลที่ถูก หรือผิดบ้างนั้น ตนคิดว่าประชาชนจะสามารถแยกแยะได้ ทั้งนี้ก่อนที่จะถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระมัดระวังเป็นพิเศษ การเลือกตั้ง เวลามีการทุจริต หรือใช้วิธีการไม่ถูกต้องจะหนักที่สุดก็คือ 1-2 คืนสุดท้าย ฉะนั้น กกต. จะต้องเตรียมพร้อม และไม่ประมาทรวมทั้งต้องมีเครือข่ายที่พร้อมทำงานในเชิงรุก ในพื้นที่ ในช่วง 2 วันสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลของ กกต. กับ ข้อมูลขององค์กรกลางที่เป็นของเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือยังไม่สอดคล้องกัน จะต้องมีการประสานข้อมูลกันมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กกต. ควรจะใช้ประโยชน์จากองค์กรที่มีความเป็นกลาง ให้มากที่สุด ถ้ากกต.สามารถใช้องค์กรภาคเอกชนที่เป็นกลางจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า ในเว็ปไซต์ ไฮทักษิณ มีการระบุถ้อยคำ ว่า “รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ต้องไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ คมช.” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อยากให้การรณรงค์ อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม และ สิ่งที่สำคัญต้องมองไปไกลว่าหลังจากการลงประชามติแล้วทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ ซึ่งเป็นประชาธิปไตยได้
เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าร่างรัฐธรรมนูญผ่าน แต่การเมืองก็ยังคงมีปัญหาอยู่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ให้การเมืองนิ่งสนิทคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าประชาชนไปลงประชามติกันมากๆ และเรียบร้อย ไม่มีการทุจริตตนก็เชื่อว่าประชาชนก็ยอมรับในผลทีออกมา และจะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป ง่ายขึ้น
“จะหวังให้ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความเห็นที่แตกต่างคงเป็นไปไม่ได้ แต่ความแตกต่างต้องอยู่ในขอบเขตที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ นี่เป็นสิงที่สำคัญ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2550--จบ--
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลของ กกต. กับ ข้อมูลขององค์กรกลางที่เป็นของเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือยังไม่สอดคล้องกัน จะต้องมีการประสานข้อมูลกันมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กกต. ควรจะใช้ประโยชน์จากองค์กรที่มีความเป็นกลาง ให้มากที่สุด ถ้ากกต.สามารถใช้องค์กรภาคเอกชนที่เป็นกลางจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า ในเว็ปไซต์ ไฮทักษิณ มีการระบุถ้อยคำ ว่า “รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ต้องไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ คมช.” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อยากให้การรณรงค์ อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม และ สิ่งที่สำคัญต้องมองไปไกลว่าหลังจากการลงประชามติแล้วทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ ซึ่งเป็นประชาธิปไตยได้
เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าร่างรัฐธรรมนูญผ่าน แต่การเมืองก็ยังคงมีปัญหาอยู่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ให้การเมืองนิ่งสนิทคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าประชาชนไปลงประชามติกันมากๆ และเรียบร้อย ไม่มีการทุจริตตนก็เชื่อว่าประชาชนก็ยอมรับในผลทีออกมา และจะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป ง่ายขึ้น
“จะหวังให้ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความเห็นที่แตกต่างคงเป็นไปไม่ได้ แต่ความแตกต่างต้องอยู่ในขอบเขตที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ นี่เป็นสิงที่สำคัญ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2550--จบ--