นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้สรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนตุลาคม 2548 พร้อมทั้งสถานะหนี้สาธารณะล่าสุด ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศโดยการชำระคืนเงินกู้ ECP (Euro Commercial Paper) ก่อนครบกำหนดวงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 4,116ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 457 ล้านบาท
1.2 ด้านในประเทศ
ในเดือนตุลาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนตุลาคม 2548 จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตร 40,000 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติจะกู้เงินระยะสั้น 46,000 ล้านบาท เพื่อสมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในงวดแรก 4,000 ล้านบาท เพื่อนำมาไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดก่อน และนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาทยอยชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยในเดือนนี้ได้รับเงินจากการออกพันธบัตร 8,500 ล้านบาท และจากการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 10,000 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้กู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิม 4,000 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
ในเดือนตุลาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) โดยได้รับเงินในเดือนนี้ 5,500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ ธนาคารออมสินได้กู้จากสหพันธ์ธนาคารออมสินฝรั่งเศสตามแผนก่อหนี้ต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2548 จำนวน 250 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินในประเทศ 1,000 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนตุลาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,853 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 351 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,502 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 มีจำนวน 3,277,498 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.89 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,826,994 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,012,765 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 437,739 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 24,050 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 8,504 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 3,367 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 18,913 ล้านบาท
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 600,464 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.32 และหนี้ในประเทศ 2,677,034 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.68 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,603,591 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.44 และหนี้ระยะสั้น 673,907 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.56 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 102/2548 15 พฤศจิกายน 48--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศโดยการชำระคืนเงินกู้ ECP (Euro Commercial Paper) ก่อนครบกำหนดวงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 4,116ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 457 ล้านบาท
1.2 ด้านในประเทศ
ในเดือนตุลาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนตุลาคม 2548 จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตร 40,000 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติจะกู้เงินระยะสั้น 46,000 ล้านบาท เพื่อสมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในงวดแรก 4,000 ล้านบาท เพื่อนำมาไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดก่อน และนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาทยอยชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยในเดือนนี้ได้รับเงินจากการออกพันธบัตร 8,500 ล้านบาท และจากการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 10,000 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้กู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิม 4,000 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
ในเดือนตุลาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) โดยได้รับเงินในเดือนนี้ 5,500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ ธนาคารออมสินได้กู้จากสหพันธ์ธนาคารออมสินฝรั่งเศสตามแผนก่อหนี้ต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2548 จำนวน 250 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินในประเทศ 1,000 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนตุลาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,853 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 351 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,502 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 มีจำนวน 3,277,498 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.89 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,826,994 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,012,765 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 437,739 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 24,050 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 8,504 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 3,367 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 18,913 ล้านบาท
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 600,464 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.32 และหนี้ในประเทศ 2,677,034 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.68 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,603,591 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.44 และหนี้ระยะสั้น 673,907 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.56 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 102/2548 15 พฤศจิกายน 48--