วันนี้(20 ก.พ.50) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยลงพื้นที่พบปะประชาชน ดำเนินกิจการทางการเมือง ซึ่งดูเหมือนว่าเชื่อมโยงกับการดำเนินการเปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมว่า ตนเห็นว่ากรณีนี้คมช.และรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจน หลังจากที่ภาคการเมืองและภาคประชาชนได้พยายามที่จะบอกกับคมช.ให้ประกาศยกเลิกประกาศของคปค.ในฉบับที่ 15 และ 27 โดยให้เหตุผลของการยกเลิกว่าหากยังคงประกาศดังกล่าวไว้จะไม่เกิดประโยชน์ในทางปฎิบัติ และที่สำคัญเป็นการปิดกั้นการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ถึงแม้ว่ามีประกาศก็ไม่สามารถปิดกั้นคลื่นใต้น้ำได้
“ถึงแม้ว่ารักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยจะพยายามออกอธิบายว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อความสมานฉันท์ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการดำเนินการไปเพื่อรักษาฐานทางการเมืองของพรรคไทยรักไทยไว้ และที่สำคัญเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องนายเก่า (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) โดยเฉพาะการลงพื้นที่พบปะสมาชิกพรรค พร้อมกับเน้นย้ำว่าพรรคไทยรักไทยยังคงอยู่ ถึงแม้จะถูกยุบ” นายสาธิตกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการดำเนินกิจการทางการเมืองทั้งแนวรับและแนวรุก กล่าวคือ แนวรับเป็นการเปิดทางแก้ข้อกล่าวหา ส่วนแนวรุกก็เป็นการเปิดประเด็นกล่าวหาผู้อื่น ซึ่งการดำเนินกิจการดังกล่าวเป็นเพื่อประโยชน์ของพรรคไทยรักไทยอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้จึงเห็นได้ชัดเจนว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจเก่ายังเป็นไปโดยเปิดเผย เพราะฉะนั้นเมื่อคมช.ได้ประกาศปฎิรูปการปกครองแล้ว คมช.ควรจะมีความชัดเจนและมีความเด็ดขาด โดยตนขอเสนอทางเลือกให้ 2 ทางคือ 1. ควรยกเลิกประกาศคปค.ทั้ง 2 ฉบับ 2. ต้องสร้างความชัดเจนให้สังคมได้รับทราบว่าสิ่งที่นายจาตุรนต์และการจัดรายการวิทยุของพรรคไทยรักไทยทำได้หรือไม่อย่างไร และที่สำคัญต้องชี้แจงให้สังคมเห็นว่าไม่เป็นการเลือกปฎิบัติ จึงขอเรียกร้องว่าขอให้คมช.ได้สร้างความชัดเจนทั้ง 2 ประเด็นนี้โดยด่วนเพื่อไม่ให้เกิดเสถียรภาพในรัฐบาลและป้องกันความแตกแยกในสังคม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ก.พ. 2550--จบ--
“ถึงแม้ว่ารักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยจะพยายามออกอธิบายว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อความสมานฉันท์ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการดำเนินการไปเพื่อรักษาฐานทางการเมืองของพรรคไทยรักไทยไว้ และที่สำคัญเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องนายเก่า (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) โดยเฉพาะการลงพื้นที่พบปะสมาชิกพรรค พร้อมกับเน้นย้ำว่าพรรคไทยรักไทยยังคงอยู่ ถึงแม้จะถูกยุบ” นายสาธิตกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการดำเนินกิจการทางการเมืองทั้งแนวรับและแนวรุก กล่าวคือ แนวรับเป็นการเปิดทางแก้ข้อกล่าวหา ส่วนแนวรุกก็เป็นการเปิดประเด็นกล่าวหาผู้อื่น ซึ่งการดำเนินกิจการดังกล่าวเป็นเพื่อประโยชน์ของพรรคไทยรักไทยอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้จึงเห็นได้ชัดเจนว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจเก่ายังเป็นไปโดยเปิดเผย เพราะฉะนั้นเมื่อคมช.ได้ประกาศปฎิรูปการปกครองแล้ว คมช.ควรจะมีความชัดเจนและมีความเด็ดขาด โดยตนขอเสนอทางเลือกให้ 2 ทางคือ 1. ควรยกเลิกประกาศคปค.ทั้ง 2 ฉบับ 2. ต้องสร้างความชัดเจนให้สังคมได้รับทราบว่าสิ่งที่นายจาตุรนต์และการจัดรายการวิทยุของพรรคไทยรักไทยทำได้หรือไม่อย่างไร และที่สำคัญต้องชี้แจงให้สังคมเห็นว่าไม่เป็นการเลือกปฎิบัติ จึงขอเรียกร้องว่าขอให้คมช.ได้สร้างความชัดเจนทั้ง 2 ประเด็นนี้โดยด่วนเพื่อไม่ให้เกิดเสถียรภาพในรัฐบาลและป้องกันความแตกแยกในสังคม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ก.พ. 2550--จบ--