คำต่อคำรายการตรงไปตรงมากับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ทางสถานีวิทยุ 101 ช่วงเวลา 08.00 — 08.30 น.
วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2550
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีค่ะคุณอภิสิทธิ์ คะ สวัสดีครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สวัสดีครับ คุณอวัสดา สวัสดีครับ คุณเติมศักดิ์
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ คุณอภิสิทธิ์คะ ช่วงนี้กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มเลย ออกตัวกันแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าคุณอภิสิทธิ์มองแล้วคิดว่า เรื่องนี้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่น่าสนใจไม๊คะ
คุณอภิสิทธิ์ ภาพก็ยังไม่ชัดนะครับ เพราะว่าปัญหาก็คือต้องรอให้กฎหมายที่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมืองได้มันเรียบร้อย ครบทุกขั้นตอน เพราะฉะนั้นผมคิดว่าหลังวันที่ 19 แล้วก็หลังจากที่กฎหมายใช้บังคับจะเป็นภาพที่ชัดกว่านี้ เพราะว่าผมก็ยังเห็นการตอบโต้กันไปกันมาระหว่างกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ว่าเอ๊ะใครจะอยู่กับใครหรือเปล่า ไปจริง ไปไม่จริงอะไร ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้อยู่แต่ว่าสำหรับผม
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เราก็เดินหน้าในเรื่องของวาระประชาชน ฉะนั้นเมื่อวานซืนนี้ก็ได้ไปที่อุบลราชธานีกับยโสธรนะครับ ที่ไปดูเป็นพิเศษก็คือเรื่องข้าว เพราะว่าพี่น้องประชาชนที่นั่นส่วนใหญ่ก็คืออยู่กับเรื่องของข้าว แล้วก็ปัญหาพื้นฐานหลายอย่างก็ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพันธุ์ รวมไปถึงเรื่องของการที่จะต้องมีการคิด การวางแผนที่เป็นระบบ เพราะว่าสิ่งที่เขาพบทุกปี ปีแล้วปีเล่าก็คือ 1. ปัญหาดินฟ้าอากาศ บางปีก็แล้ง บางปีก็ท่วม แล้วก็มีปัญหา 2. ก็คือเวลาราคามีปัญหา ก็จะมีการไปแทรกแซง ประกันราคา หรือจำนำ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ว่ามักจะไปในช่วงที่มันสายเกินไปเสียแล้ว ข้าวหลุดมือแล้วบ้าง แล้วก็ปัญหาในช่วง 2 — 3 ปีก่อนก็อย่างที่ทราบนะครับก็คือ พอไปแทรกแซงในลักษณะที่ฝืนตลาดมากจนเกินไปข้าวก็ระบายออกไม่ได้ ก็ล้นสต็อกก็มี เพราะฉะนั้นก็ไปนั่งพูดคุยกันหมดนะครับ
สัปดาห์นี้ผมก็ได้พูดคุยชาวนา โรงสี ผู้ค้า ผู้ส่งออก แล้วก็จะเริ่มมองอะไรตรงกันมากขึ้น ผมก็พยายามบอกว่าอย่าคิดแก้ปัญหาให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แล้วก็ไปโยนภาระให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าให้มาช่วยกัน เพราะฉะนั้นก็ได้นำเสนอหลายเรื่อง เช่นระบบการประกันภัยพืชผล หมายความว่าแทนที่จะรอเกิดภัยแล้วมาของบกลางแล้วก็วิ่งไปสำรวจ ต่อไปนี้ควรจะมีระบบการขึ้นทะเบียน จดทะเบียน พอภัยเกิดขึ้นปั๊บไม่ต้องถกเถียง ไม่ต้องสำรวจ ไม่ต้องอะไร ก็มีการชดเชยตามข้อตกลงกันล่วงหน้าอย่างนี้เป็นต้น การสำรวจตรงนี้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลนอกจากจะเรื่องของการช่วยเรื่องการประกันภัยแล้ว ก็จะมีการเก็บเรื่องของต้นทุนด้วย เพื่อที่จะได้มีการประกาศว่าราคาเท่าไหร่ ที่จะให้ชาวนาไม่ขาดทุนแล้วก็จะมีการดำเนินการเวลาที่มีความจำเป็นที่จะต้องแทรกแซงตลาดบ้าง ซึ่งไม่ควรจะเป็นประเด็นหลัก ก็จะสามารถที่จะมีความทันท่วงที ทันต่อสถานการณ์ แต่ว่าการส่งเสริมจริง ๆ คือการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ก็คือเรื่องน้ำ เรื่องชลประทานที่อีสานยังขาดมาก แล้วก็เรื่องของการเพิ่มมูลค่าของข้าว ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของข้าวปลอดสารเคมี เกษตรอินทรีย์ ที่ไม่เพียงแต่รณรงค์ให้ทำกันเยอะ ๆ แต่ว่าต้องมีหน่วยงานรับรอง เพื่อทำตลาดได้ด้วย การทำตลาดข้าวหอมให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง และดูแลไม่ให้มีการไปปลอมปนจนเสียชื่อเสียง ก็เป็นในกรอบอย่างนี้ครับที่เราได้ไปคุยกับพี่น้องอุบล — ยโสธร ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับ
ผู้ดำเนินรายการ ครับ วาระประชาชนช่วงถัดไป จะไปไหนบ้างครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สัปดาห์หน้า จริง ๆ ยังไม่พ้นเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจของชาวบ้านนะครับ เพราะว่าจากมังคุด ก็ต้องไปลำไยแล้วครับ เพราะฉะนั้นวันศุกร์ก็จะไปที่เชียงใหม่ แล้วก็พูดคุยกันในเรื่องของลำไยด้วย ก็เป็นสิ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างดีนะครับว่าจริง ๆ แล้ว พื้นฐานเศรษฐกิจของเราผูกพันอยู่กับภาคเกษตรมากแล้วก็ถ้าหากว่าเมื่อใดก็ตามที่เกษตรกรมีรายได้ไม่ดี การใช้จ่ายก็ดี การหมุนเวียนของเศรษฐกิจก็ดีก็จะมีปัญหา แล้วก็ถ้าเราเป็นอย่างนี้ การทำให้เศรษฐกิจโตแล้วพึ่งพาการส่งออกมันก็จะเอียงแบบที่เป็นอยู่ แล้วก็เวลามีปัญหาค่าเงินก็จะเห็นได้ชัดว่า มันก็เลยกลายเป็นลูกโซ่ไป แล้วก็ลุกลามไปจนเกิดปัญหาทั้งระบบ
ผู้ดำเนินรายการ คุณอภิสิทธิ์ วางแผนการอย่างไรบ้าง ว่าเดี๋ยวมังคุด ลำไย แล้วยังต้องมีเงาะ มีอะไรต่ออีกใช่ไม๊คะ เกี่ยวกับเรื่องของโปรแกรมที่จะเดินสายไปพบเกษตรกร
คุณอภิสิทธิ์ คือจริง ๆ แล้ว หลักของเราที่เดิมวางไว้นั้น เรากำลังพูดถึงสินค้าหลัก ๆ หลายตัวก็คือข้าว ยาง มัน อ้อย นะครับ ส่วนผลไม้ก็เป็นปัญหาที่มันเกิดขึ้นเฉพาะหน้า แต่มันทำให้เราต้องมาไล่คิดต่อแล้วครับ ตอนนี้ว่า เรื่องของการที่จะเพิ่มมูลค่า เรื่องของการที่จะทำอย่างไรให้มีการบริหารจัดการในโครงสร้างทั้งหมด นึกออกไม๊ครับว่าตอนนี้ข่าวบอกว่ามังคุดขายได้ 3 บาทใช่ไม๊ครับ ข่าวปรากฎว่าอย่างนั้นใช่ไม๊ครับ ทางพวกผมลองมาช่วงระบายสินค้า มาขายที่ไปขายจตุจักร ก็บอกว่า 10 บาท ตอนนี้ที่พรรค วันก่อนที่มาขายก็ 10 บาท แต่ว่าพอเดินข้ามถนนไปที่ขายกันอยู่หลาย ๆ ตลาด ก็ 15 แต่พอเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ 30 นะครับ มันก็น่าคิดไม๊ล่ะครับว่าทำไม 30 บาท เนี่ย กลับไปถึงชาวสวนแค่ 3 บาท นะครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คือจุดที่ตอนนี้ก็มีการเตรียมการในการที่จะทำแผนในเรื่องของการบริหารเรื่องของพืชผล เรื่องของผลไม้ออกมา
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เมื่อวานเห็นว่าคุณอภิสิทธิ์ไปเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ 100 ฝันวันฟ้าใหม่ ที่มาของหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างไรครับ เนื้อหาเป็นอย่างไรบ้างครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ คือหลังจากที่มีการปฏิวัติมา ผมก็เริ่มเขียนหนังสือมากขึ้น แล้วก็ 2 เล่มที่ผ่านมาคือ เรื่องการเมืองไทยหลังรัฐประหาร กับเรื่องของรัฐธรรมนูญ ทีนี้มันก็ยังเป็นเรื่องของปัญหาทางการเมืองเป็นหลัก ก็พอดีมีคนมาบอกว่า จริง ๆ แล้วการทำงานของผมนั้น มันมีประเด็นที่เข้าไปเกี่ยวข้องที่เป็นปัญหาของบ้านเมืองเยอะมากแล้วก็ไม่เคยมีการมารวบรวมเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง คอรัปชั่น การกระจายอำนาจ หรืออะไรต่าง ๆ ก็เลยบอกว่าเอามารวบรวมดีไม๊ โดยดูจากสิ่งที่เคยพูด สิ่งที่เคยทำ แนวความคิดในปัจจุบัน และจนถึงวาระประชาชน ก็ทำเป็นเรื่อง ๆ เหมือนกับเป็นการแสดงตัวตนให้เห็นชัดเจนขึ้นว่า ผมมีความมุ่งมั่นมีความมั่นใจและมีปณิธานทางการเมืองอย่างไร ความฝันนี่ไม่ใช่ฝันแบบลม ๆ แล้ง ๆ หรือจะขายฝันนะครับ ทุกเรื่องในนี้ก็จะมีการอ้างอิงถึงว่ามันเริ่มต้นมาจากไหนอย่างไร และทำไมถึงเชื่อมั่นว่าทำได้
เผอิญเตรียมเอาไว้ 100 เรื่อง ก็เลยเล่นคำนิดหนึ่งว่า ร้อย ก็คือ 100 แล้วก็เรียงร้อย ส่วนวันฟ้าใหม่นั้นก็พอดีช่วงที่ทำอันนี้ก็คือ เราคิดว่าตอนนี้วิกฤติบ้านเมืองเหมือนกับความมืดที่มันปกคลุมอยู่ ก็อยากจะเห็นว่าปีหน้าฟ้าใหม่ ก็เล่นคำนิดหน่อยด้วยเพราะว่าตอนคิดเรื่องนี้ก็คือพรรคก็สีฟ้านะครับ พ้นคดียุบพรรคมา ก็เลยบอกว่านี่แหละ ร้อยฝันวันฟ้าใหม่ ก็เป็นร้อยเรื่องนะครับ ซึ่งถ้าท่านผู้ใดสนใจก็สามารถที่จะติดตามและผมก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น เสียงสะท้อน เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอะไรอย่างไร อยากให้ทำเรื่องไหน ไม่อยากให้ทำเรื่องไหนนะครับ ผมก็จะถือว่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากในการช่วยให้การทำงานข้างหน้ามันมีประสิทธิภาพ สิ่งหนึ่งที่ผมเขียนไว้ในคำนำก็คือว่า เรามักจะได้ยินคำถามเวลาใครมาลงสมัครรับเลือกตั้ง สมมติว่า 2 ท่านนี้เกิดคราวนี้จะลงสมัคร ส.ส. เนี่ย จะต้องถูกถามแน่นอนว่า เอ๊ะ ทำไมมาเล่นการเมือง ใช่ไม๊ครับ ซึ่งคำตอบก็จะมีหลากหลาย แต่ว่าที่ผมเขียนไว้ในคำนำก็คือว่า คนที่อยู่ในการเมืองแล้ว ถามตัวเองอยู่ตลอดไม๊ ว่าตกลงมาเนี่ย มาทำอะไร อยากมาทำอะไร ผมก็เลยบอกว่า ก็ถือว่าเป็นคำถามที่สำคัญมากนะครับ ผมก็บอกว่า นี่แหละคำตอบของผม อยู่ในหนังสือเล่มนี้ว่า อยากเห็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็จะมีไล่ตั้งแต่อยากเห็นสถาบันครอบครัวไทยที่พร้อมดูแลเด็กมาจนถึงเรื่องการศึกษาเรื่องสวัสดิการเรื่องระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม สังคมที่ดีนะครับ มีความสันติสุข สมานฉันท์ การปฏิรูปทั้งการเมือง ทั้งราชการ ทั้งการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ทั้งองค์กรอิสระอะไรต่าง ๆ ก็จะอยู่ในนี้ ก็คงยังไม่หมดทุกอย่างนะครับ แต่ว่า 100 เรื่องก็ถือว่า มีคนก็ต่อว่าบอกหนังสือหนาพอสมควร
ผู้ดำเนินรายการ เมื่อวานไปเปิดตัวที่สยามพารากอน ใช่ไม๊ครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ ไม่ทราบ Feed back (ผลตอบรับ) เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณอภิสิทธิ์ เมื่อวาน
คุณอภิสิทธิ์ ก็เป็นบรรยากาศกันเองนะครับ ก็มีการเชิญท่านอดีตนายกฯ ชวน มาสนทนาด้วยในฐานะที่เป็นคนที่เห็นผมมาตั้งแต่เด็ก คือไม่ใช่เฉพาะช่วงที่มาเป็น ส.ส. แต่ว่าเห็นผมมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ๆ แล้วก็เริ่มสนใจการเมืองนะครับ ท่านก็มาพูดคุยเหมือนกับที่กำลังสนทนากับ 2 ท่านอย่างนี้ แล้วก็มีการเซ็นหนังสือให้ ก็เป็นบรรยากาศที่สบาย ๆ นะครับ
ผู้ดำเนินรายการ ขายดีไม๊คะ เมื่อวาน
คุณอภิสิทธิ์ หนังสือนี้พิมพ์หมื่นเล่มนะครับ แล้วก็ได้รับแจ้งจากทางสำนักพิมพ์ว่า ตอนนี้ก็ร้านค้าก็สั่งไปครบหมดแล้ว แต่ยังมีปัญหานิดหน่อยนะครับ เพราะว่าหลายท่านที่ปกติผมต้องเซ็นให้อยู่ ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อยว่าจะแย่งเขามาอย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ หนังสือหนากี่หน้าครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ พอดีเรายังไม่เห็น
คุณอภิสิทธิ์ ทวงผมแล้วใช่ไม๊ (หัวเราะ) 328 หน้า
ผู้ดำเนินรายการ หนาอยู่พอสมควร ราคาเล่มละเท่าไหร่ครับ โทษครับ
คุณอภิสิทธิ์ ราคา 180 บาท ครับ
ผู้ดำเนินรายการ โอ้ ไม่แพง ๆ นะครับ ถูกว่า ทักษิณ Where are you 5 บาท
คุณอภิสิทธิ์ ผมไม่ทราบครับ (หัวเราะ)
ผู้ดำเนินรายการ ขอบคุณนะครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ จะทิ้งท้ายอะไรไม๊ครับ ในแง่ของการประชามติวันอาทิตย์นี้ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ จริง ๆ เราจะยังมีโอกาสคุยกันอีกครั้งหนึ่งก่อนนะครับ แต่ว่าก็หลายคนอาจจะเห็นผมโผล่หน้ามาทางทีวีอยู่เหมือนกัน บอกว่าอยากเชิญชวนให้ไปลงประชามติ เพราะว่าผมคิดว่าบ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไปแล้วก็หนทางข้างหน้ามีแต่หนทางประชาธิปไตย อยากให้การแสดงพลังของประชาชนในการประชามติคือไปลงคะแนนกันมาก ๆ คือการยืนหยัดว่าเราต้องการประชาธิปไตย เพราะว่านั่นคือหนทางที่จะแก้ปัญหาทั้งหลาย ที่เป็นความทุกข์ของประชาชน
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เอาหล่ะครับ ขอบคุณนะครับวันนี้ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
คุณอภิสิทธิ์ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
*************************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ส.ค. 2550--จบ--
ทางสถานีวิทยุ 101 ช่วงเวลา 08.00 — 08.30 น.
วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2550
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีค่ะคุณอภิสิทธิ์ คะ สวัสดีครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สวัสดีครับ คุณอวัสดา สวัสดีครับ คุณเติมศักดิ์
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ คุณอภิสิทธิ์คะ ช่วงนี้กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มเลย ออกตัวกันแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าคุณอภิสิทธิ์มองแล้วคิดว่า เรื่องนี้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่น่าสนใจไม๊คะ
คุณอภิสิทธิ์ ภาพก็ยังไม่ชัดนะครับ เพราะว่าปัญหาก็คือต้องรอให้กฎหมายที่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมืองได้มันเรียบร้อย ครบทุกขั้นตอน เพราะฉะนั้นผมคิดว่าหลังวันที่ 19 แล้วก็หลังจากที่กฎหมายใช้บังคับจะเป็นภาพที่ชัดกว่านี้ เพราะว่าผมก็ยังเห็นการตอบโต้กันไปกันมาระหว่างกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ว่าเอ๊ะใครจะอยู่กับใครหรือเปล่า ไปจริง ไปไม่จริงอะไร ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้อยู่แต่ว่าสำหรับผม
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เราก็เดินหน้าในเรื่องของวาระประชาชน ฉะนั้นเมื่อวานซืนนี้ก็ได้ไปที่อุบลราชธานีกับยโสธรนะครับ ที่ไปดูเป็นพิเศษก็คือเรื่องข้าว เพราะว่าพี่น้องประชาชนที่นั่นส่วนใหญ่ก็คืออยู่กับเรื่องของข้าว แล้วก็ปัญหาพื้นฐานหลายอย่างก็ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพันธุ์ รวมไปถึงเรื่องของการที่จะต้องมีการคิด การวางแผนที่เป็นระบบ เพราะว่าสิ่งที่เขาพบทุกปี ปีแล้วปีเล่าก็คือ 1. ปัญหาดินฟ้าอากาศ บางปีก็แล้ง บางปีก็ท่วม แล้วก็มีปัญหา 2. ก็คือเวลาราคามีปัญหา ก็จะมีการไปแทรกแซง ประกันราคา หรือจำนำ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ว่ามักจะไปในช่วงที่มันสายเกินไปเสียแล้ว ข้าวหลุดมือแล้วบ้าง แล้วก็ปัญหาในช่วง 2 — 3 ปีก่อนก็อย่างที่ทราบนะครับก็คือ พอไปแทรกแซงในลักษณะที่ฝืนตลาดมากจนเกินไปข้าวก็ระบายออกไม่ได้ ก็ล้นสต็อกก็มี เพราะฉะนั้นก็ไปนั่งพูดคุยกันหมดนะครับ
สัปดาห์นี้ผมก็ได้พูดคุยชาวนา โรงสี ผู้ค้า ผู้ส่งออก แล้วก็จะเริ่มมองอะไรตรงกันมากขึ้น ผมก็พยายามบอกว่าอย่าคิดแก้ปัญหาให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แล้วก็ไปโยนภาระให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าให้มาช่วยกัน เพราะฉะนั้นก็ได้นำเสนอหลายเรื่อง เช่นระบบการประกันภัยพืชผล หมายความว่าแทนที่จะรอเกิดภัยแล้วมาของบกลางแล้วก็วิ่งไปสำรวจ ต่อไปนี้ควรจะมีระบบการขึ้นทะเบียน จดทะเบียน พอภัยเกิดขึ้นปั๊บไม่ต้องถกเถียง ไม่ต้องสำรวจ ไม่ต้องอะไร ก็มีการชดเชยตามข้อตกลงกันล่วงหน้าอย่างนี้เป็นต้น การสำรวจตรงนี้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลนอกจากจะเรื่องของการช่วยเรื่องการประกันภัยแล้ว ก็จะมีการเก็บเรื่องของต้นทุนด้วย เพื่อที่จะได้มีการประกาศว่าราคาเท่าไหร่ ที่จะให้ชาวนาไม่ขาดทุนแล้วก็จะมีการดำเนินการเวลาที่มีความจำเป็นที่จะต้องแทรกแซงตลาดบ้าง ซึ่งไม่ควรจะเป็นประเด็นหลัก ก็จะสามารถที่จะมีความทันท่วงที ทันต่อสถานการณ์ แต่ว่าการส่งเสริมจริง ๆ คือการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ก็คือเรื่องน้ำ เรื่องชลประทานที่อีสานยังขาดมาก แล้วก็เรื่องของการเพิ่มมูลค่าของข้าว ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของข้าวปลอดสารเคมี เกษตรอินทรีย์ ที่ไม่เพียงแต่รณรงค์ให้ทำกันเยอะ ๆ แต่ว่าต้องมีหน่วยงานรับรอง เพื่อทำตลาดได้ด้วย การทำตลาดข้าวหอมให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง และดูแลไม่ให้มีการไปปลอมปนจนเสียชื่อเสียง ก็เป็นในกรอบอย่างนี้ครับที่เราได้ไปคุยกับพี่น้องอุบล — ยโสธร ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับ
ผู้ดำเนินรายการ ครับ วาระประชาชนช่วงถัดไป จะไปไหนบ้างครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สัปดาห์หน้า จริง ๆ ยังไม่พ้นเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจของชาวบ้านนะครับ เพราะว่าจากมังคุด ก็ต้องไปลำไยแล้วครับ เพราะฉะนั้นวันศุกร์ก็จะไปที่เชียงใหม่ แล้วก็พูดคุยกันในเรื่องของลำไยด้วย ก็เป็นสิ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างดีนะครับว่าจริง ๆ แล้ว พื้นฐานเศรษฐกิจของเราผูกพันอยู่กับภาคเกษตรมากแล้วก็ถ้าหากว่าเมื่อใดก็ตามที่เกษตรกรมีรายได้ไม่ดี การใช้จ่ายก็ดี การหมุนเวียนของเศรษฐกิจก็ดีก็จะมีปัญหา แล้วก็ถ้าเราเป็นอย่างนี้ การทำให้เศรษฐกิจโตแล้วพึ่งพาการส่งออกมันก็จะเอียงแบบที่เป็นอยู่ แล้วก็เวลามีปัญหาค่าเงินก็จะเห็นได้ชัดว่า มันก็เลยกลายเป็นลูกโซ่ไป แล้วก็ลุกลามไปจนเกิดปัญหาทั้งระบบ
ผู้ดำเนินรายการ คุณอภิสิทธิ์ วางแผนการอย่างไรบ้าง ว่าเดี๋ยวมังคุด ลำไย แล้วยังต้องมีเงาะ มีอะไรต่ออีกใช่ไม๊คะ เกี่ยวกับเรื่องของโปรแกรมที่จะเดินสายไปพบเกษตรกร
คุณอภิสิทธิ์ คือจริง ๆ แล้ว หลักของเราที่เดิมวางไว้นั้น เรากำลังพูดถึงสินค้าหลัก ๆ หลายตัวก็คือข้าว ยาง มัน อ้อย นะครับ ส่วนผลไม้ก็เป็นปัญหาที่มันเกิดขึ้นเฉพาะหน้า แต่มันทำให้เราต้องมาไล่คิดต่อแล้วครับ ตอนนี้ว่า เรื่องของการที่จะเพิ่มมูลค่า เรื่องของการที่จะทำอย่างไรให้มีการบริหารจัดการในโครงสร้างทั้งหมด นึกออกไม๊ครับว่าตอนนี้ข่าวบอกว่ามังคุดขายได้ 3 บาทใช่ไม๊ครับ ข่าวปรากฎว่าอย่างนั้นใช่ไม๊ครับ ทางพวกผมลองมาช่วงระบายสินค้า มาขายที่ไปขายจตุจักร ก็บอกว่า 10 บาท ตอนนี้ที่พรรค วันก่อนที่มาขายก็ 10 บาท แต่ว่าพอเดินข้ามถนนไปที่ขายกันอยู่หลาย ๆ ตลาด ก็ 15 แต่พอเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ 30 นะครับ มันก็น่าคิดไม๊ล่ะครับว่าทำไม 30 บาท เนี่ย กลับไปถึงชาวสวนแค่ 3 บาท นะครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คือจุดที่ตอนนี้ก็มีการเตรียมการในการที่จะทำแผนในเรื่องของการบริหารเรื่องของพืชผล เรื่องของผลไม้ออกมา
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เมื่อวานเห็นว่าคุณอภิสิทธิ์ไปเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ 100 ฝันวันฟ้าใหม่ ที่มาของหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างไรครับ เนื้อหาเป็นอย่างไรบ้างครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ คือหลังจากที่มีการปฏิวัติมา ผมก็เริ่มเขียนหนังสือมากขึ้น แล้วก็ 2 เล่มที่ผ่านมาคือ เรื่องการเมืองไทยหลังรัฐประหาร กับเรื่องของรัฐธรรมนูญ ทีนี้มันก็ยังเป็นเรื่องของปัญหาทางการเมืองเป็นหลัก ก็พอดีมีคนมาบอกว่า จริง ๆ แล้วการทำงานของผมนั้น มันมีประเด็นที่เข้าไปเกี่ยวข้องที่เป็นปัญหาของบ้านเมืองเยอะมากแล้วก็ไม่เคยมีการมารวบรวมเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง คอรัปชั่น การกระจายอำนาจ หรืออะไรต่าง ๆ ก็เลยบอกว่าเอามารวบรวมดีไม๊ โดยดูจากสิ่งที่เคยพูด สิ่งที่เคยทำ แนวความคิดในปัจจุบัน และจนถึงวาระประชาชน ก็ทำเป็นเรื่อง ๆ เหมือนกับเป็นการแสดงตัวตนให้เห็นชัดเจนขึ้นว่า ผมมีความมุ่งมั่นมีความมั่นใจและมีปณิธานทางการเมืองอย่างไร ความฝันนี่ไม่ใช่ฝันแบบลม ๆ แล้ง ๆ หรือจะขายฝันนะครับ ทุกเรื่องในนี้ก็จะมีการอ้างอิงถึงว่ามันเริ่มต้นมาจากไหนอย่างไร และทำไมถึงเชื่อมั่นว่าทำได้
เผอิญเตรียมเอาไว้ 100 เรื่อง ก็เลยเล่นคำนิดหนึ่งว่า ร้อย ก็คือ 100 แล้วก็เรียงร้อย ส่วนวันฟ้าใหม่นั้นก็พอดีช่วงที่ทำอันนี้ก็คือ เราคิดว่าตอนนี้วิกฤติบ้านเมืองเหมือนกับความมืดที่มันปกคลุมอยู่ ก็อยากจะเห็นว่าปีหน้าฟ้าใหม่ ก็เล่นคำนิดหน่อยด้วยเพราะว่าตอนคิดเรื่องนี้ก็คือพรรคก็สีฟ้านะครับ พ้นคดียุบพรรคมา ก็เลยบอกว่านี่แหละ ร้อยฝันวันฟ้าใหม่ ก็เป็นร้อยเรื่องนะครับ ซึ่งถ้าท่านผู้ใดสนใจก็สามารถที่จะติดตามและผมก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น เสียงสะท้อน เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอะไรอย่างไร อยากให้ทำเรื่องไหน ไม่อยากให้ทำเรื่องไหนนะครับ ผมก็จะถือว่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากในการช่วยให้การทำงานข้างหน้ามันมีประสิทธิภาพ สิ่งหนึ่งที่ผมเขียนไว้ในคำนำก็คือว่า เรามักจะได้ยินคำถามเวลาใครมาลงสมัครรับเลือกตั้ง สมมติว่า 2 ท่านนี้เกิดคราวนี้จะลงสมัคร ส.ส. เนี่ย จะต้องถูกถามแน่นอนว่า เอ๊ะ ทำไมมาเล่นการเมือง ใช่ไม๊ครับ ซึ่งคำตอบก็จะมีหลากหลาย แต่ว่าที่ผมเขียนไว้ในคำนำก็คือว่า คนที่อยู่ในการเมืองแล้ว ถามตัวเองอยู่ตลอดไม๊ ว่าตกลงมาเนี่ย มาทำอะไร อยากมาทำอะไร ผมก็เลยบอกว่า ก็ถือว่าเป็นคำถามที่สำคัญมากนะครับ ผมก็บอกว่า นี่แหละคำตอบของผม อยู่ในหนังสือเล่มนี้ว่า อยากเห็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็จะมีไล่ตั้งแต่อยากเห็นสถาบันครอบครัวไทยที่พร้อมดูแลเด็กมาจนถึงเรื่องการศึกษาเรื่องสวัสดิการเรื่องระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม สังคมที่ดีนะครับ มีความสันติสุข สมานฉันท์ การปฏิรูปทั้งการเมือง ทั้งราชการ ทั้งการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ทั้งองค์กรอิสระอะไรต่าง ๆ ก็จะอยู่ในนี้ ก็คงยังไม่หมดทุกอย่างนะครับ แต่ว่า 100 เรื่องก็ถือว่า มีคนก็ต่อว่าบอกหนังสือหนาพอสมควร
ผู้ดำเนินรายการ เมื่อวานไปเปิดตัวที่สยามพารากอน ใช่ไม๊ครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ ไม่ทราบ Feed back (ผลตอบรับ) เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณอภิสิทธิ์ เมื่อวาน
คุณอภิสิทธิ์ ก็เป็นบรรยากาศกันเองนะครับ ก็มีการเชิญท่านอดีตนายกฯ ชวน มาสนทนาด้วยในฐานะที่เป็นคนที่เห็นผมมาตั้งแต่เด็ก คือไม่ใช่เฉพาะช่วงที่มาเป็น ส.ส. แต่ว่าเห็นผมมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ๆ แล้วก็เริ่มสนใจการเมืองนะครับ ท่านก็มาพูดคุยเหมือนกับที่กำลังสนทนากับ 2 ท่านอย่างนี้ แล้วก็มีการเซ็นหนังสือให้ ก็เป็นบรรยากาศที่สบาย ๆ นะครับ
ผู้ดำเนินรายการ ขายดีไม๊คะ เมื่อวาน
คุณอภิสิทธิ์ หนังสือนี้พิมพ์หมื่นเล่มนะครับ แล้วก็ได้รับแจ้งจากทางสำนักพิมพ์ว่า ตอนนี้ก็ร้านค้าก็สั่งไปครบหมดแล้ว แต่ยังมีปัญหานิดหน่อยนะครับ เพราะว่าหลายท่านที่ปกติผมต้องเซ็นให้อยู่ ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อยว่าจะแย่งเขามาอย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ หนังสือหนากี่หน้าครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ พอดีเรายังไม่เห็น
คุณอภิสิทธิ์ ทวงผมแล้วใช่ไม๊ (หัวเราะ) 328 หน้า
ผู้ดำเนินรายการ หนาอยู่พอสมควร ราคาเล่มละเท่าไหร่ครับ โทษครับ
คุณอภิสิทธิ์ ราคา 180 บาท ครับ
ผู้ดำเนินรายการ โอ้ ไม่แพง ๆ นะครับ ถูกว่า ทักษิณ Where are you 5 บาท
คุณอภิสิทธิ์ ผมไม่ทราบครับ (หัวเราะ)
ผู้ดำเนินรายการ ขอบคุณนะครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ จะทิ้งท้ายอะไรไม๊ครับ ในแง่ของการประชามติวันอาทิตย์นี้ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ จริง ๆ เราจะยังมีโอกาสคุยกันอีกครั้งหนึ่งก่อนนะครับ แต่ว่าก็หลายคนอาจจะเห็นผมโผล่หน้ามาทางทีวีอยู่เหมือนกัน บอกว่าอยากเชิญชวนให้ไปลงประชามติ เพราะว่าผมคิดว่าบ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไปแล้วก็หนทางข้างหน้ามีแต่หนทางประชาธิปไตย อยากให้การแสดงพลังของประชาชนในการประชามติคือไปลงคะแนนกันมาก ๆ คือการยืนหยัดว่าเราต้องการประชาธิปไตย เพราะว่านั่นคือหนทางที่จะแก้ปัญหาทั้งหลาย ที่เป็นความทุกข์ของประชาชน
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เอาหล่ะครับ ขอบคุณนะครับวันนี้ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
คุณอภิสิทธิ์ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
*************************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ส.ค. 2550--จบ--