การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนธันวาคม 2549 มีมูลค่า 125,279 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าส่งออกเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่าส่งออก 42,067 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและปรับตัวลดลง ร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมูลค่าส่งออกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี สายไฟ และ กล้องถ่าย TV, VDO ลดลงร้อยละ 24 24 และ 10 ตามลำดับขณะที่ เมื่อเทียบกับกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวลดลงในสินค้าเครื่องรับโทรทัศน์สี และเครื่องปรับอากาศ ลดลงร้อยละ 9 และ 1 ตามลำดับ
ส่วนมูลค่าส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออก 83,211 ล้านบาท ชะลอตัวลง ร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ได้แก่ วงจรพิมพ์ (Printed Circuit) ไดโอด/ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำ และ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ปรับตัวลดลงในเดือนนี้ร้อยละ 15 10 และ 10 ตามลำดับ ขณะที่ สินค้าที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ไดโอด/ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำ วงจรพิมพ์ (Printed Circuit) และวงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integrated Circuit) ชะลอตัวลงร้อยละ 10 8 และ 6 ตามลำดับ ตลาดส่งออกที่มีการขยายตัวในเดือนธ.ค.49 ได้แก่ ตลาดสหรัฐ อียู และตะวันออกกลาง ที่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวสูงขึ้น ร้อยละ 13 10 และ 41 ตามลำดับ
3. แนวโน้ม
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2550 คาดว่าน่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ปี 2549 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มเครื่องรับโทรทัศน์และเครื่องเสียงและสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยจะมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาในช่วงหน้าร้อนปีหน้า ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 1 ปี 2550 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภท HDD และ IC ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเป็นสำคัญ
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 มีค่า 165.82 ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 (167.46) ร้อยละ 1.0 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (158.51) ร้อยละ 4.6
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นมูลฐาน เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนธันวาคม 2549 มีค่า 64.55 ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 (66.71) และลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (66.42)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการ แปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม 2549
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 332 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 443 รายหรือน้อยกว่าร้อยละ -25.1 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 7,989.37 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งมีการลงทุน 23,366.63 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ -65.8 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 8,082 คน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 17,256 คน หรือลดลงร้อยละ -53.2
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนธันวาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 419 ราย หรือคิดเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ —20.8 และมีการจ้างงานลดลงจากเดือนธันวาคม 2548 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 9,390 คน ร้อยละ -13.9 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนธันวาคม 2548 ซึ่งมีการลงทุน 11,486.49 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ -30.4
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 34 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมดูดทราย จำนวน 16 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ
อุตสาหกรรมทำไม้ขีดไฟ วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง 2,165 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมผลิต ส่ง หรือจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า มีเงินทุน 874 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมฟอก ย้อมสี หรือแต่งสำเร็จด้ายหรือสิ่งทอ คนงาน 990 คน รองลงมา
คือ อุตสาหกรรมทำเครื่องประดับโดยใช้เพชร พลอย ไข่มุก ทองคำ ทองขาว เงิน คนงาน 430 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 107 ราย น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 174 ราย คิดเป็นร้อยละ -38.5 ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 1,813.17 ล้านบาท น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายนที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 3,573.02 ล้านบาท สำหรับการเลิกจ้างงานมีจำนวน 2,544 คน น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 3,501 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนน้อยกว่าเดือนธันวาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 147 ราย คิดเป็นร้อยละ -27.2 ในส่วนการเลิกจ้างงานน้อยกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวน 3,512 คน แต่ในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการมากกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,555.76 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือส่วนประกอบ จำนวน 13 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ จำนวน 10 ราย
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549 คืออุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือส่วนประกอบ เงินทุน 326 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เงินทุน 315 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549
คือ อุตสาหกรรมทำถุงกระสอบ ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติก คนงาน 733 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำแป้ง คนงาน 162 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 168 โครงการ มากกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่มีจำนวน 81 โครงการ ร้อยละ 107.40 และมีเงินลงทุน 67,700 ล้านบาท มากกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่มีเงินลงทุน 32,900 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 105.78
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.มากกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่มีจำนวน 115 โครงการ ร้อยละ 46.09 และมีเงินลงทุนมากกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่มีเงินลงทุน 32,900 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 105.78
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค.2549
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 436 91,200
2.โครงการต่างชาติ 100% 404 124,300
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 380 158,100
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค.2549 คือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติกมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 145,200 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 61,900 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ส่วนมูลค่าส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออก 83,211 ล้านบาท ชะลอตัวลง ร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ได้แก่ วงจรพิมพ์ (Printed Circuit) ไดโอด/ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำ และ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ปรับตัวลดลงในเดือนนี้ร้อยละ 15 10 และ 10 ตามลำดับ ขณะที่ สินค้าที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ไดโอด/ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำ วงจรพิมพ์ (Printed Circuit) และวงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integrated Circuit) ชะลอตัวลงร้อยละ 10 8 และ 6 ตามลำดับ ตลาดส่งออกที่มีการขยายตัวในเดือนธ.ค.49 ได้แก่ ตลาดสหรัฐ อียู และตะวันออกกลาง ที่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวสูงขึ้น ร้อยละ 13 10 และ 41 ตามลำดับ
3. แนวโน้ม
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2550 คาดว่าน่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ปี 2549 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มเครื่องรับโทรทัศน์และเครื่องเสียงและสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยจะมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาในช่วงหน้าร้อนปีหน้า ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 1 ปี 2550 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภท HDD และ IC ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเป็นสำคัญ
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 มีค่า 165.82 ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 (167.46) ร้อยละ 1.0 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (158.51) ร้อยละ 4.6
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นมูลฐาน เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนธันวาคม 2549 มีค่า 64.55 ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 (66.71) และลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (66.42)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการ แปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม 2549
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 332 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 443 รายหรือน้อยกว่าร้อยละ -25.1 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 7,989.37 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งมีการลงทุน 23,366.63 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ -65.8 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 8,082 คน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 17,256 คน หรือลดลงร้อยละ -53.2
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนธันวาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 419 ราย หรือคิดเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ —20.8 และมีการจ้างงานลดลงจากเดือนธันวาคม 2548 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 9,390 คน ร้อยละ -13.9 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนธันวาคม 2548 ซึ่งมีการลงทุน 11,486.49 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ -30.4
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 34 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมดูดทราย จำนวน 16 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ
อุตสาหกรรมทำไม้ขีดไฟ วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง 2,165 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมผลิต ส่ง หรือจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า มีเงินทุน 874 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมฟอก ย้อมสี หรือแต่งสำเร็จด้ายหรือสิ่งทอ คนงาน 990 คน รองลงมา
คือ อุตสาหกรรมทำเครื่องประดับโดยใช้เพชร พลอย ไข่มุก ทองคำ ทองขาว เงิน คนงาน 430 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 107 ราย น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 174 ราย คิดเป็นร้อยละ -38.5 ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 1,813.17 ล้านบาท น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายนที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 3,573.02 ล้านบาท สำหรับการเลิกจ้างงานมีจำนวน 2,544 คน น้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 3,501 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนน้อยกว่าเดือนธันวาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 147 ราย คิดเป็นร้อยละ -27.2 ในส่วนการเลิกจ้างงานน้อยกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวน 3,512 คน แต่ในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการมากกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,555.76 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนธันวาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือส่วนประกอบ จำนวน 13 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ จำนวน 10 ราย
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549 คืออุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือส่วนประกอบ เงินทุน 326 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เงินทุน 315 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนธันวาคม 2549
คือ อุตสาหกรรมทำถุงกระสอบ ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติก คนงาน 733 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำแป้ง คนงาน 162 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 168 โครงการ มากกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่มีจำนวน 81 โครงการ ร้อยละ 107.40 และมีเงินลงทุน 67,700 ล้านบาท มากกว่าเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่มีเงินลงทุน 32,900 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 105.78
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.มากกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่มีจำนวน 115 โครงการ ร้อยละ 46.09 และมีเงินลงทุนมากกว่าเดือนธันวาคม 2548 ที่มีเงินลงทุน 32,900 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 105.78
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค.2549
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 436 91,200
2.โครงการต่างชาติ 100% 404 124,300
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 380 158,100
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค.2549 คือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติกมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 145,200 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 61,900 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-