แท็ก
ธปท.
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เผยในเดือน มี.ค.50 มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,036 ล้านดอลลาร์ สรอ. รายงานจากสายนโยบายการเงิน ธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิล่าสุด ณ สิ้นเดือน มี.ค.50 ว่า มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,036 ล้านดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 880 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเงินทุนไหลเข้าส่วนใหญ่มาจากเงินลงทุนโดยตรง
จากต่างประเทศ และการได้รับสินเชื่อการค้าของภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารเป็นสำคัญ ทั้งนี้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนของแต่ละภาคในเดือน มี.ค.
ที่ผ่านมาเป็นดังนี้ ภาครัฐบาลมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 492 ล้านดอลลาร์ สรอ. และภาคธนาคารมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 143 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 1,464 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนภาครัฐวิสาหกิจมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 23 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ขณะที่ภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารที่มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,694 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเป็นภาคธุรกิจเดียวที่มีเงินทุนไหลเข้ามา โดยเกิดจาก
การไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในรูปของทุนเรือนหุ้นและเงินกู้ในเครือที่อนุญาตให้สามารถประกันความเสี่ยงเต็มจำนวน
แทนการกันเงินสำรอง 1,315 ล้านดอลลาร์ สรอ. นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนไหลเข้าจากเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในหลักทรัพย์ทั้งในรูป
ตราสารทุนและตราสารหนี้ 182 ล้านดอลลาร์ สรอ. และการได้รับสินเชื่อการค้าของธุรกิจน้ำมัน 469 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนเงินกู้นอกเครือ
ยังเป็นการชำระคืนต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยมีเงินทุนไหลออก 233 ล้านดอลลาร์ สรอ. (ผู้จัดการรายวัน, แนวหน้า)
2. สศช.เผยจีดีพีไตรมาสแรกปี 50 ขยายตัวร้อยละ 4.3 เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปี 50 ว่าขยายตัวร้อยละ 4.3 เท่ากับ
ไตรมาส 4 ปี 49 แต่นับว่าเป็นการขยายตัวที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่องจากปี 49 สาเหตุจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่อ่อนตัวลงมาก โดยขยายตัว
เพียงร้อยละ 1.3 จากไตรมาส 4 ปี 49 ที่เติบโตร้อยละ 2.5 รวมถึงการลงทุนโดยรวมที่ติดลบร้อยละ 1.4 จากไตรมาส 4 ปี 49 ที่ขยายตัว
ร้อยละ 2.4 เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนติดลบถึงร้อยละ 2.4 จากไตรมาส 4 ปี 49 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.3 ส่วนหนี้สาธารณะ ณ
สิ้นเดือน มี.ค.อยู่ที่ 3.21 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38.10 ของจีดีพี ลดลงเมื่อเทียบกับร้อยละ 40.48 ณ สิ้นเดือน ธ.ค.49 ส่วน
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสิ้นเดือน เม.ย.เท่ากับ 71,700 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้ สศช.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั้งปี 50 จะขยายตัว
ที่ร้อยละ 4-4.5 ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ในช่วงเดือน มี.ค.ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวร้อยละ 4-5 (โลกวันนี้, เดลินิวส์, บ้านเมือง,
มติชน, สยามรัฐ, แนวหน้า, ข่าวสด)
3. ครม.มีมติเห็นชอบและส่งร่าง พ.ร.บ.ยุบเลิกทุนรักษาระดับฯต่อ สนช.ตามที่ ก.คลังเสนอ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล
เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบและส่งร่าง พ.ร.บ.ยุบเลิกทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ...ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ตามที่ ก.คลังเสนอแล้ว ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเสนอให้ยุบทุนรักษาระดับฯ เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหน้าที่
ดำเนินการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทได้อย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว
และเห็นว่าควรมีการจัดการทรัพย์สินที่ยังเหลืออยู่ให้เสร็จสิ้น โดยกำหนดให้ ธปท.มีอำนาจในการดำเนินคดีแทนทุนรักษาระดับฯ สำหรับคดี
ที่ค้างอยู่ในการพิจารณาอยู่ในศาล รวมทั้งให้เป็นผู้รับโอนสิทธิและความรับผิดของทุนรักษาระดับฯ ที่เกิดจากคดีดังกล่าว และให้โอนเงินทุน
รักษาระดับฯ ให้กับ ธปท. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบำนาญและสวัสดิการของพนักงาน ทั้งนี้ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ กำหนดให้
รมว.คลังแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาคณะหนึ่งจำนวนไม่เกิน 7 คน เป็นกรรมการชำระบัญชีของทุนรักษาระดับฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจาก ก.คลัง
ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนจาก ธปท. โดยได้รับผลตอบแทนตามที่ รมว.คลังกำหนด และจ่ายจากทรัพย์สินของทุนรักษาระดับ
อัตราแลกเปลี่ยน (โพสต์ทูเดย์)
4. เครดิตบูโรเผยมีแนวโน้มในการปรับลดเวลาจัดเก็บข้อมูลแบล็คลิสต์เป็น 2 ปี ผู้จัดการใหญ่ บ.ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ
เครดิตบูโร กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าบริษัทจะเชิญตัวแทนสมาชิกเข้าหารือในประเด็นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลเครดิตของลูกค้าที่ติดบัญชีดำ
หรือแบล็คลิสต์จากเดิมที่จัดเก็บข้อมูลนาน 3 ปี อาจจะลดเหลือเพียง 2 ปี คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนนี้ ก่อนจะนำเรื่องเสนอไปยัง
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธาน หากผ่านขั้นตอนนี้ก็จะมีผลบังคับ
ใช้ภายใน 45 วัน โดยไม่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายใด ๆ (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, บ้านเมือง)
5. กองทุนแอลทีเอฟเดือน พ.ค.50 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1,291.82 ล้านบาท สมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า เงินลงทุน
ในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ณ เดือน พ.ค.50 มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1,291.82 ล้านบาท ทำให้เงินลงทุนรวมทั้งระบบ
อยู่ที่ 29,112.09 ล้านบาท จากเดือน เม.ย.50 ที่มีเงินลงทุนรวมประมาณ 27,820.27 ล้านบาท ทั้งนี้ หากคิดเป็นอัตราการขยายตัว
ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 3,925.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 15 โดยสาเหตุของ
การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งมาจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้ดัชนีปรับลงไป
ต่ำกว่าพื้นฐาน ประกอบกับในช่วงเดือน พ.ค.มีกองทุนแอลทีเอฟกองใหม่ออกมาระดมทุนเพิ่มขึ้น หลังจากมีข้อกำหนดให้บริษัทจัดการ
กองทุนสามารถจัดตั้งกองทุนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้เท่านั้น (ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ในเดือน เม.ย.50 ราคาผู้ผลิตใน Euro zone เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 4 มิ.ย.50
Eurostat ซึ่งเป็น สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานราคาผู้ผลิตหรือราคาสินค้า ณ ประตูโรงงานใน 13 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลัก
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เทียบต่อเดือนและร้อยละ 2.4 เทียบต่อปีในเดือน เม.ย.50 สูงกว่าที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ
0.3 ต่อเดือนและร้อยละ 2.3 ต่อปี ทั้งนี้เป็นผลจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อเดือน และราคาสินค้าขั้นกลางเพื่อนำไปผลิตต่อ
เป็นสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ต่อเดือนและร้อยละ 5.8 ต่อปี โดยราคาผู้ผลิตพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 0.4 ต่อเดือนและร้อยละ 3.4 ต่อปี หลังจากในเดือน มี.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ต่อเดือนและร้อยละ 3.4 ต่อปี ราคาผู้ผลิตที่
สูงขึ้นดังกล่าวสร้างความกังวลให้ ธ.กลางยุโรปหรือ ECB ว่าผู้ผลิตอาจถือโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่ความต้องการสินค้ากำลังขยายตัว
ในขณะที่ตลาดแรงงานและสินเชื่อก็อยู่ในช่วงขยายตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อในขณะที่ ECB ต้องการให้อัตราเงินเฟ้อ
อยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 2.0 ต่อปี โดยจากประมาณการเบื้องต้นอัตราเงินเฟ้อในเดือน พ.ค.50 อยู่ที่ร้อยละ 1.9 ต่อปี ตลาดจึงคาดว่า ECB
จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 4.0 ต่อปีในการประชุมในวันที่ 6 มิ.ย.50 นี้ และอาจมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
เป็นร้อยละ 4.25 ต่อปีในเดือน ก.ย.50 (รอยเตอร์)
2. ตลาดหลักทรัพย์จีนอนุมัติกองทุนหุ้นใหม่ 4 กองทุนเพื่อลงทุนในตลาดหุ้น รายงานจากเชียงไฮ้ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 50
ตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้อนุมัติให้ 4 กองทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นให้แก่
นักลงทุนได้ ทั้งนี้การอนุมัติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงถึงร้อยละ 8.26 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลดลงมากที่สุดเป็นอันดับสอง
ในรอบทศวรรษ เนื่องจากทางการจีนเพิ่มภาษีที่จัดเก็บจากการซื้อ-ขายหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อลดความร้อนแรงในตลาดหลักทรัพย์ของจีน ทั้งนี้
บริษัทจัดการกองทุน 4 บริษัทที่ได้รับการอนุมัติคือบริษัทร่วมทุนของฝรั่งเศส (Societe Generale) และบริษัทบริหารสินทรัพย์ของ สรอ.
(Invesco) ส่วนอีก 2 บริษัทเป็นบริษัทจัดการกองทุนในประเทศคือ GF Fund Management ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัด Guangdong
ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ Yimin ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Chongqing โดยแต่ละกองทุนใหม่ได้รับอนุญาตให้เพิ่ม
เงินลงทุนในเงินสกุลท้องถิ่นในตลาดหุ้นเป็น 10 พัน ล. หยวน (1.31 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้เร่งให้กองทุนทั้ง 4
ใช้สิทธิ์ให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นจีน ที่ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 340 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. นับตั้งแต่การปรับเพิ่มภาษี
ที่จัดเก็บจากการซื้อ-ขายใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นตลาดหลักทรัพย์ยังหวังว่าจะเร่งอนุมัติกองทุนรวมต่างๆ เพื่อเข้าลงทุนในตลาด
หลักทรัพย์อีกภายในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี (รอยเตอร์)
3. การส่งออกของมาเลเซียในเดือน เม.ย.50 ขยายตัวร้อยละ 0.9 เทียบต่อปี รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อ 4 มิ.ย.50
ทางการมาเลเซียเปิดเผยว่า การส่งออกของมาเลเซียในเดือน เม.ย.50 มีมูลค่า 46.1 พัน ล.ริงกิต หรือขยายตัวร้อยละ 0.9 เทียบต่อปี
โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันปาล์ม และเคมีภัณฑ์ แต่ต่ำกว่ามากจากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 4.6 อย่างไรก็ตาม ยังคงดีกว่าเดือนก่อนหน้าซึ่งมูลค่าการส่งออกลดลงถึงร้อยละ 4.3 เทียบต่อปี
เป็นผลจากความต้องการสินค้าด้านการผลิตชะลอตัว สำหรับการนำเข้าของมาเลเซียในเดือนเดียวกันมีมูลค่า 40.1 พัน ล.ริงกิต หรือขยายตัว
ร้อยละ 2.6 เทียบต่อปี ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.3 ส่งผลให้มาเลเซียเกินดุลการค้าเป็น
จำนวน 6 พัน ล.ริงกิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุลการค้าจำนวน 6.63 พัน ล.ริงกิต และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์
ว่าจะเกินดุลการค้าจำนวน 6.4 พัน ล.ริงกิต ทั้งนี้ การส่งออกของมาเลเซียในระยะนี้ขยายตัวไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากความต้องการสินค้า
อิเล็กทรอนิกส์จาก สรอ. ซึ่งมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกโดยรวมของมาเลเซียประสบภาวะชะลอตัว (รอยเตอร์)
4. ทุนสำรองฯ ของเกาหลีใต้เดือน พ.ค.50 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อ
วันที่ 4 มิ.ย.50 ธ.กลางเกาหลีใต้ แถลงการณ์ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน พ.ค.50 อยู่ที่ระดับ
250.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 3.48 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 1.4 จาก 247.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน
เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่การเพิ่มขึ้น 4.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.49 ซึ่งนักวิเคราะห์และนักค้าเงิน
กล่าวว่าน่าจะมาจากการที่ ธ.กลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงโดยการซื้อเงินดอลลาร์ สรอ. เพื่อไม่ให้เงินวอนแข็งค่าเกินไป ขณะที่
ธ.กลางเกาหลีใต้ถือว่าการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองฯ ในเดือน พ.ค. เป็นผลประโยชน์จากการลงทุน ทั้งนี้ ทุนสำรองฯ ของเกาหลีใต้เฉพาะ
ในปีนี้เพิ่มขึ้น 11.78 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 4.9 และมีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และไต้หวัน
อนึ่ง ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ร้อยละ 88.2 ของยอดรวมทุนสำรองฯ ในเดือน เม.ย. เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ ขณะที่ร้อยละ 11.6
ฝากไว้ในสถาบันการเงินหลายแห่ง (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 5 มิ.ย. 50 4 มิ.ย. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 34.522 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 34.3229/34.6617 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.69094 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 770.61/37.07 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,900/11,000 10,900/11,000 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 64.89 63.72 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 29.99*/25.34** 29.99*/25.34** 26.49/23.34 ปตท.
* ปรับเลดเมื่อ 2 มิ.ย. 50 ,** ปรับเพิ่มเมื่อ 26 เม.ย. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.เผยในเดือน มี.ค.50 มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,036 ล้านดอลลาร์ สรอ. รายงานจากสายนโยบายการเงิน ธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิล่าสุด ณ สิ้นเดือน มี.ค.50 ว่า มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,036 ล้านดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 880 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเงินทุนไหลเข้าส่วนใหญ่มาจากเงินลงทุนโดยตรง
จากต่างประเทศ และการได้รับสินเชื่อการค้าของภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารเป็นสำคัญ ทั้งนี้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนของแต่ละภาคในเดือน มี.ค.
ที่ผ่านมาเป็นดังนี้ ภาครัฐบาลมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 492 ล้านดอลลาร์ สรอ. และภาคธนาคารมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 143 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 1,464 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนภาครัฐวิสาหกิจมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 23 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ขณะที่ภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารที่มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,694 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเป็นภาคธุรกิจเดียวที่มีเงินทุนไหลเข้ามา โดยเกิดจาก
การไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในรูปของทุนเรือนหุ้นและเงินกู้ในเครือที่อนุญาตให้สามารถประกันความเสี่ยงเต็มจำนวน
แทนการกันเงินสำรอง 1,315 ล้านดอลลาร์ สรอ. นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนไหลเข้าจากเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในหลักทรัพย์ทั้งในรูป
ตราสารทุนและตราสารหนี้ 182 ล้านดอลลาร์ สรอ. และการได้รับสินเชื่อการค้าของธุรกิจน้ำมัน 469 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนเงินกู้นอกเครือ
ยังเป็นการชำระคืนต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยมีเงินทุนไหลออก 233 ล้านดอลลาร์ สรอ. (ผู้จัดการรายวัน, แนวหน้า)
2. สศช.เผยจีดีพีไตรมาสแรกปี 50 ขยายตัวร้อยละ 4.3 เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปี 50 ว่าขยายตัวร้อยละ 4.3 เท่ากับ
ไตรมาส 4 ปี 49 แต่นับว่าเป็นการขยายตัวที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่องจากปี 49 สาเหตุจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่อ่อนตัวลงมาก โดยขยายตัว
เพียงร้อยละ 1.3 จากไตรมาส 4 ปี 49 ที่เติบโตร้อยละ 2.5 รวมถึงการลงทุนโดยรวมที่ติดลบร้อยละ 1.4 จากไตรมาส 4 ปี 49 ที่ขยายตัว
ร้อยละ 2.4 เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนติดลบถึงร้อยละ 2.4 จากไตรมาส 4 ปี 49 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.3 ส่วนหนี้สาธารณะ ณ
สิ้นเดือน มี.ค.อยู่ที่ 3.21 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38.10 ของจีดีพี ลดลงเมื่อเทียบกับร้อยละ 40.48 ณ สิ้นเดือน ธ.ค.49 ส่วน
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสิ้นเดือน เม.ย.เท่ากับ 71,700 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้ สศช.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั้งปี 50 จะขยายตัว
ที่ร้อยละ 4-4.5 ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ในช่วงเดือน มี.ค.ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวร้อยละ 4-5 (โลกวันนี้, เดลินิวส์, บ้านเมือง,
มติชน, สยามรัฐ, แนวหน้า, ข่าวสด)
3. ครม.มีมติเห็นชอบและส่งร่าง พ.ร.บ.ยุบเลิกทุนรักษาระดับฯต่อ สนช.ตามที่ ก.คลังเสนอ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล
เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบและส่งร่าง พ.ร.บ.ยุบเลิกทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ...ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ตามที่ ก.คลังเสนอแล้ว ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเสนอให้ยุบทุนรักษาระดับฯ เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหน้าที่
ดำเนินการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทได้อย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว
และเห็นว่าควรมีการจัดการทรัพย์สินที่ยังเหลืออยู่ให้เสร็จสิ้น โดยกำหนดให้ ธปท.มีอำนาจในการดำเนินคดีแทนทุนรักษาระดับฯ สำหรับคดี
ที่ค้างอยู่ในการพิจารณาอยู่ในศาล รวมทั้งให้เป็นผู้รับโอนสิทธิและความรับผิดของทุนรักษาระดับฯ ที่เกิดจากคดีดังกล่าว และให้โอนเงินทุน
รักษาระดับฯ ให้กับ ธปท. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบำนาญและสวัสดิการของพนักงาน ทั้งนี้ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ กำหนดให้
รมว.คลังแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาคณะหนึ่งจำนวนไม่เกิน 7 คน เป็นกรรมการชำระบัญชีของทุนรักษาระดับฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจาก ก.คลัง
ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนจาก ธปท. โดยได้รับผลตอบแทนตามที่ รมว.คลังกำหนด และจ่ายจากทรัพย์สินของทุนรักษาระดับ
อัตราแลกเปลี่ยน (โพสต์ทูเดย์)
4. เครดิตบูโรเผยมีแนวโน้มในการปรับลดเวลาจัดเก็บข้อมูลแบล็คลิสต์เป็น 2 ปี ผู้จัดการใหญ่ บ.ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ
เครดิตบูโร กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าบริษัทจะเชิญตัวแทนสมาชิกเข้าหารือในประเด็นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลเครดิตของลูกค้าที่ติดบัญชีดำ
หรือแบล็คลิสต์จากเดิมที่จัดเก็บข้อมูลนาน 3 ปี อาจจะลดเหลือเพียง 2 ปี คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนนี้ ก่อนจะนำเรื่องเสนอไปยัง
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธาน หากผ่านขั้นตอนนี้ก็จะมีผลบังคับ
ใช้ภายใน 45 วัน โดยไม่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายใด ๆ (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, บ้านเมือง)
5. กองทุนแอลทีเอฟเดือน พ.ค.50 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1,291.82 ล้านบาท สมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า เงินลงทุน
ในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ณ เดือน พ.ค.50 มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1,291.82 ล้านบาท ทำให้เงินลงทุนรวมทั้งระบบ
อยู่ที่ 29,112.09 ล้านบาท จากเดือน เม.ย.50 ที่มีเงินลงทุนรวมประมาณ 27,820.27 ล้านบาท ทั้งนี้ หากคิดเป็นอัตราการขยายตัว
ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 3,925.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 15 โดยสาเหตุของ
การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งมาจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้ดัชนีปรับลงไป
ต่ำกว่าพื้นฐาน ประกอบกับในช่วงเดือน พ.ค.มีกองทุนแอลทีเอฟกองใหม่ออกมาระดมทุนเพิ่มขึ้น หลังจากมีข้อกำหนดให้บริษัทจัดการ
กองทุนสามารถจัดตั้งกองทุนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้เท่านั้น (ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ในเดือน เม.ย.50 ราคาผู้ผลิตใน Euro zone เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 4 มิ.ย.50
Eurostat ซึ่งเป็น สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานราคาผู้ผลิตหรือราคาสินค้า ณ ประตูโรงงานใน 13 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลัก
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เทียบต่อเดือนและร้อยละ 2.4 เทียบต่อปีในเดือน เม.ย.50 สูงกว่าที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ
0.3 ต่อเดือนและร้อยละ 2.3 ต่อปี ทั้งนี้เป็นผลจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อเดือน และราคาสินค้าขั้นกลางเพื่อนำไปผลิตต่อ
เป็นสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ต่อเดือนและร้อยละ 5.8 ต่อปี โดยราคาผู้ผลิตพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 0.4 ต่อเดือนและร้อยละ 3.4 ต่อปี หลังจากในเดือน มี.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ต่อเดือนและร้อยละ 3.4 ต่อปี ราคาผู้ผลิตที่
สูงขึ้นดังกล่าวสร้างความกังวลให้ ธ.กลางยุโรปหรือ ECB ว่าผู้ผลิตอาจถือโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่ความต้องการสินค้ากำลังขยายตัว
ในขณะที่ตลาดแรงงานและสินเชื่อก็อยู่ในช่วงขยายตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อในขณะที่ ECB ต้องการให้อัตราเงินเฟ้อ
อยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 2.0 ต่อปี โดยจากประมาณการเบื้องต้นอัตราเงินเฟ้อในเดือน พ.ค.50 อยู่ที่ร้อยละ 1.9 ต่อปี ตลาดจึงคาดว่า ECB
จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 4.0 ต่อปีในการประชุมในวันที่ 6 มิ.ย.50 นี้ และอาจมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
เป็นร้อยละ 4.25 ต่อปีในเดือน ก.ย.50 (รอยเตอร์)
2. ตลาดหลักทรัพย์จีนอนุมัติกองทุนหุ้นใหม่ 4 กองทุนเพื่อลงทุนในตลาดหุ้น รายงานจากเชียงไฮ้ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 50
ตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้อนุมัติให้ 4 กองทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นให้แก่
นักลงทุนได้ ทั้งนี้การอนุมัติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงถึงร้อยละ 8.26 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลดลงมากที่สุดเป็นอันดับสอง
ในรอบทศวรรษ เนื่องจากทางการจีนเพิ่มภาษีที่จัดเก็บจากการซื้อ-ขายหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อลดความร้อนแรงในตลาดหลักทรัพย์ของจีน ทั้งนี้
บริษัทจัดการกองทุน 4 บริษัทที่ได้รับการอนุมัติคือบริษัทร่วมทุนของฝรั่งเศส (Societe Generale) และบริษัทบริหารสินทรัพย์ของ สรอ.
(Invesco) ส่วนอีก 2 บริษัทเป็นบริษัทจัดการกองทุนในประเทศคือ GF Fund Management ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัด Guangdong
ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ Yimin ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Chongqing โดยแต่ละกองทุนใหม่ได้รับอนุญาตให้เพิ่ม
เงินลงทุนในเงินสกุลท้องถิ่นในตลาดหุ้นเป็น 10 พัน ล. หยวน (1.31 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้เร่งให้กองทุนทั้ง 4
ใช้สิทธิ์ให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นจีน ที่ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 340 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. นับตั้งแต่การปรับเพิ่มภาษี
ที่จัดเก็บจากการซื้อ-ขายใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นตลาดหลักทรัพย์ยังหวังว่าจะเร่งอนุมัติกองทุนรวมต่างๆ เพื่อเข้าลงทุนในตลาด
หลักทรัพย์อีกภายในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี (รอยเตอร์)
3. การส่งออกของมาเลเซียในเดือน เม.ย.50 ขยายตัวร้อยละ 0.9 เทียบต่อปี รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อ 4 มิ.ย.50
ทางการมาเลเซียเปิดเผยว่า การส่งออกของมาเลเซียในเดือน เม.ย.50 มีมูลค่า 46.1 พัน ล.ริงกิต หรือขยายตัวร้อยละ 0.9 เทียบต่อปี
โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันปาล์ม และเคมีภัณฑ์ แต่ต่ำกว่ามากจากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 4.6 อย่างไรก็ตาม ยังคงดีกว่าเดือนก่อนหน้าซึ่งมูลค่าการส่งออกลดลงถึงร้อยละ 4.3 เทียบต่อปี
เป็นผลจากความต้องการสินค้าด้านการผลิตชะลอตัว สำหรับการนำเข้าของมาเลเซียในเดือนเดียวกันมีมูลค่า 40.1 พัน ล.ริงกิต หรือขยายตัว
ร้อยละ 2.6 เทียบต่อปี ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.3 ส่งผลให้มาเลเซียเกินดุลการค้าเป็น
จำนวน 6 พัน ล.ริงกิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุลการค้าจำนวน 6.63 พัน ล.ริงกิต และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์
ว่าจะเกินดุลการค้าจำนวน 6.4 พัน ล.ริงกิต ทั้งนี้ การส่งออกของมาเลเซียในระยะนี้ขยายตัวไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากความต้องการสินค้า
อิเล็กทรอนิกส์จาก สรอ. ซึ่งมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกโดยรวมของมาเลเซียประสบภาวะชะลอตัว (รอยเตอร์)
4. ทุนสำรองฯ ของเกาหลีใต้เดือน พ.ค.50 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อ
วันที่ 4 มิ.ย.50 ธ.กลางเกาหลีใต้ แถลงการณ์ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน พ.ค.50 อยู่ที่ระดับ
250.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 3.48 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 1.4 จาก 247.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน
เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่การเพิ่มขึ้น 4.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.49 ซึ่งนักวิเคราะห์และนักค้าเงิน
กล่าวว่าน่าจะมาจากการที่ ธ.กลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงโดยการซื้อเงินดอลลาร์ สรอ. เพื่อไม่ให้เงินวอนแข็งค่าเกินไป ขณะที่
ธ.กลางเกาหลีใต้ถือว่าการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองฯ ในเดือน พ.ค. เป็นผลประโยชน์จากการลงทุน ทั้งนี้ ทุนสำรองฯ ของเกาหลีใต้เฉพาะ
ในปีนี้เพิ่มขึ้น 11.78 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 4.9 และมีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และไต้หวัน
อนึ่ง ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ร้อยละ 88.2 ของยอดรวมทุนสำรองฯ ในเดือน เม.ย. เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ ขณะที่ร้อยละ 11.6
ฝากไว้ในสถาบันการเงินหลายแห่ง (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 5 มิ.ย. 50 4 มิ.ย. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 34.522 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 34.3229/34.6617 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.69094 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 770.61/37.07 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,900/11,000 10,900/11,000 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 64.89 63.72 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 29.99*/25.34** 29.99*/25.34** 26.49/23.34 ปตท.
* ปรับเลดเมื่อ 2 มิ.ย. 50 ,** ปรับเพิ่มเมื่อ 26 เม.ย. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--