วันนี้ (1 ก.ค.50) เวลา 10.30 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ น่าจะอยู่ในระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้คือช่วงเดือนธันวาคม ฉะนั้นใน 5 — 6 เดือนจากนี้เป็นต้นไปซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมกิจกรรมสำคัญที่จะต้องดำเนินการไว้ 3 เรื่อง คือ
1. การกำหนดนโยบายของพรรค ซึ่งขณะนี้กระบวนการเชิงข้อมูลที่มาจากการศึกษารับฟังมีความพร้อมแล้ว กระบวนการที่เหลือคือสรุปจัดทำร่าง และนำเสนอกลุ่มต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก่อนที่จะมีการประกาศและจัดพิมพ์นโยบายต่อไป
2. การเตรียมความพร้อมภายในของพรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระดมทุน การจัดบุคคลลงเลือกตั้ง และการวางแผนระดมทุน ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการจัดแบ่งบุคคลเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกิจกรรมที่ 3 นายสาทิตย์กล่าวว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นการคิกออฟแคมเปญครั้งแรก ถือเป็นกิจกรรมแนวทางใหม่ที่เรียกว่าเป็นการ “ผลักดันวาระประชาชน” โดยจะเป็นการปฏิบัติการทางนโยบาย ร่วมกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับประชาชนกลุ่มปัญหาต่างๆ
สำหรับกิจกรรมแรกของกิจกรรมกลุ่มนี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.50 ที่จังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “มันสำปะหลังแก้จน” เนื่องจากการศึกษาของฝ่ายนโยบายแล้ว พบว่าปัญหาดังกล่าวมีความสำคัญลำดับต้น ซึ่งในวันดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้พบกับผู้ประกอบการโรงงาน ผู้ประกอบการลานมัน มูลนิธิพัฒนามันสำปะหลัง และชาวไร่มัน โดยกิจกรรมที่พบกัน เป็นรูปแบบของการพูดคุยแลกเปลี่ยน และนำเสนอการแก้ปัญหาทั้งของพรรคกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะสรุปร่วมกัน โดยข้อสรุปจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะถือเป็นพันธะสัญญาทางนโยบายร่วมกัน ที่เรียกว่า “วาระประชาชน”
กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในวันที่ 5 ก.ค.50 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปประเทศฮ่องกง ตามคำเชิญของธนาคาร HSBC เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ในเดือนกรกฎาคม ส่วนกิจกรรมต่อไปของพรรคฯนั้นในช่วงระหว่างวันที่ 12 — 13 ก.ค. จะเดินทางไปที่จังหวัดทางภาคเหนือ จากนั้นในระหว่างวันที่ 14 — 15 ก.ค. จะเดินทางไปจังหวัดทางภาคใต้ โดยทุกกิจกรรม จะเป็นลักษณะเดียวกับที่จังหวัดชัยภูมิ และเมื่อผ่านการประชุมใหญ่กับงานระดมทุนในช่วง 20 — 21 ก.ค.แล้ว ช่วงปลายเดือนจะเป็นพื้นที่ภาคกลาง หลังจากนั้นจะได้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องก่อนการเลือกตั้งต่อไป
‘ทั้งหมดนี้เป็นการทำงานของพรรค ภายใต้แนวคิดที่ว่า เราต้องทำงานหนักต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า พรรคฯไม่เคยคิดว่าสถานการณ์การเมืองทั้งหมด จะมีแผนบันได 3 ขั้น 4 ขั้น ของใคร เพื่อที่จะทำให้พรรคได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน โดยที่พรรคไม่ได้ทำอะไรเลย เราคิดว่าเราต้องทำงานหนักต่อไป และนำเสนอแนวทางนโยบาย ต้องเสนอแนวทางใหม่ในการทำงาน ก็คือการผลักดันร่วมกับประชาชน มากกว่าที่พรรคการเมือง จะเป็นฝ่ายกำหนดนโยบาย แต่เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นกิจกรรมของพรรคจากนี้ก็คงเป็นเรื่องที่จะต้องทำงานหนัก และผมเองจะแจ้งทราบให้เป็นระยะ’ นายสาทิตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ก.ค. 2550--จบ--
1. การกำหนดนโยบายของพรรค ซึ่งขณะนี้กระบวนการเชิงข้อมูลที่มาจากการศึกษารับฟังมีความพร้อมแล้ว กระบวนการที่เหลือคือสรุปจัดทำร่าง และนำเสนอกลุ่มต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก่อนที่จะมีการประกาศและจัดพิมพ์นโยบายต่อไป
2. การเตรียมความพร้อมภายในของพรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระดมทุน การจัดบุคคลลงเลือกตั้ง และการวางแผนระดมทุน ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการจัดแบ่งบุคคลเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกิจกรรมที่ 3 นายสาทิตย์กล่าวว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นการคิกออฟแคมเปญครั้งแรก ถือเป็นกิจกรรมแนวทางใหม่ที่เรียกว่าเป็นการ “ผลักดันวาระประชาชน” โดยจะเป็นการปฏิบัติการทางนโยบาย ร่วมกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับประชาชนกลุ่มปัญหาต่างๆ
สำหรับกิจกรรมแรกของกิจกรรมกลุ่มนี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.50 ที่จังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “มันสำปะหลังแก้จน” เนื่องจากการศึกษาของฝ่ายนโยบายแล้ว พบว่าปัญหาดังกล่าวมีความสำคัญลำดับต้น ซึ่งในวันดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้พบกับผู้ประกอบการโรงงาน ผู้ประกอบการลานมัน มูลนิธิพัฒนามันสำปะหลัง และชาวไร่มัน โดยกิจกรรมที่พบกัน เป็นรูปแบบของการพูดคุยแลกเปลี่ยน และนำเสนอการแก้ปัญหาทั้งของพรรคกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะสรุปร่วมกัน โดยข้อสรุปจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะถือเป็นพันธะสัญญาทางนโยบายร่วมกัน ที่เรียกว่า “วาระประชาชน”
กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในวันที่ 5 ก.ค.50 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปประเทศฮ่องกง ตามคำเชิญของธนาคาร HSBC เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ในเดือนกรกฎาคม ส่วนกิจกรรมต่อไปของพรรคฯนั้นในช่วงระหว่างวันที่ 12 — 13 ก.ค. จะเดินทางไปที่จังหวัดทางภาคเหนือ จากนั้นในระหว่างวันที่ 14 — 15 ก.ค. จะเดินทางไปจังหวัดทางภาคใต้ โดยทุกกิจกรรม จะเป็นลักษณะเดียวกับที่จังหวัดชัยภูมิ และเมื่อผ่านการประชุมใหญ่กับงานระดมทุนในช่วง 20 — 21 ก.ค.แล้ว ช่วงปลายเดือนจะเป็นพื้นที่ภาคกลาง หลังจากนั้นจะได้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องก่อนการเลือกตั้งต่อไป
‘ทั้งหมดนี้เป็นการทำงานของพรรค ภายใต้แนวคิดที่ว่า เราต้องทำงานหนักต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า พรรคฯไม่เคยคิดว่าสถานการณ์การเมืองทั้งหมด จะมีแผนบันได 3 ขั้น 4 ขั้น ของใคร เพื่อที่จะทำให้พรรคได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน โดยที่พรรคไม่ได้ทำอะไรเลย เราคิดว่าเราต้องทำงานหนักต่อไป และนำเสนอแนวทางนโยบาย ต้องเสนอแนวทางใหม่ในการทำงาน ก็คือการผลักดันร่วมกับประชาชน มากกว่าที่พรรคการเมือง จะเป็นฝ่ายกำหนดนโยบาย แต่เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นกิจกรรมของพรรคจากนี้ก็คงเป็นเรื่องที่จะต้องทำงานหนัก และผมเองจะแจ้งทราบให้เป็นระยะ’ นายสาทิตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ก.ค. 2550--จบ--