สรุปสถานการณ์ส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนประจำเดือน ก.ค.2548

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 26, 2005 16:47 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          การส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนในเดือนกรกฎาคมปี 2548 มีมูลค่า 702.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนมิถุนายน  คิดเป็น ร้อยละ 5.34 และคาดว่าเดือนสิงหาคม 2548 จะมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 105.46 ล้านเหรียญสหรัฐ
การส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ ในเดือนกรกฎาคมมีมูลค่า 52.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนมิถุนายนร้อยละ6.31 เฟอร์นิเจอร์ไม้ของไทยมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 52.50 และคาดว่าเดือนสิงหาคม 2548 จะมีมูลค่าส่งออกประมาณ 57.02 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในเดือนกรกฎาคม การส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ มูลค่าส่งออกเป็นอันดับ 2 มีมูลค่า 23.31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 23.85 ของเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด สินค้าชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ มีมูลค่า 13.99 ล้านเหรียญสหรัฐเฟอร์นิเจอร์โลหะมีมูลค่า 5.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่นอนหมอนฟูก มีมูลค่า 4.49 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภาพรวมการส่งออกเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน
การส่งออกเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ม.ค.-ก.ค. 2548 มีมูลค่ารวม 702.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ4.18
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 โดยชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ มีอัตราการขยายตัวมากที่สุดคือ ร้อยละ 26.57 โดยเฉพาะตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และอินเดีย ซึ่งไทยส่งออกชิ้นส่วนไปเพื่อประกอบเป็นสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านค่าแรงถูก ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท mass product ตลาดหลักที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คือ สหราชอาณาจักร มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 เนื่องจากตลาดมีกำลังซื้อสูง และพึงพอใจในดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็นตะวันออกและตะวันตกได้อย่างเหมาะสม และตลาดออสเตรเลีย อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.87 ในประเภทสินค้าเฟอร์นิเจอร์โลหะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.33 และที่นอนหมอนฟูก เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.97 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 เนื่องจากชาวออสเตรเลีย ยอมรับคุณภาพของสินค้าไทยมากกว่าประเทศจีน แม้นว่า ราคาของไทยจะสูงกว่า ซึ่งราคาเฟอร์นิเจอร์ไทยจะถูกลง จากผลการเจรจา FTA ไทย-ออสเตรเลีย ลดอัตราภาษีนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนเหลือ 5 % ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548
อนึ่ง เฟอร์นิเจอร์ไม้ มีอัตราขยายตัวลดลง ร้อยละ 3.52 เนื่องจาก ราคาน้ำยางข้นในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงตันละ 70 บาท เป็นเหตุให้เกษตรกรยางพาราไม่ตัดไม้ กอปรกับราคาน้ำมันสูงขึ้นเป็นเหตุให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของไทยลดลง เมื่อเทียบกับประเทศจีน ผู้ส่งออกจึงควรพัฒนารูปแบบเฟอร์นิเจอร์ ผสมผสานวัสดุไม้กับวัสดุอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบไม้ยางพาราอย่างเดียว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทฮังการีได้แจ้งว่า วัสดุบรรจุหีบห่อและวัสดุรองสินค้าที่ทำจากไม้ดิบ ต้องมีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนหรือรมควันด้วย mythyl bromide ตามมาตรฐานที่กำหนด หากไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ จะถูกปฏิเสธมิให้นำเข้าประเทศฮังการี ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
คาดว่าจะมีมูลค่า 1,455 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 20
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ