กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--ปชป.
นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านโยบายของรัฐบาลเป็นนโยบายที่ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจจริง อีกทั้งยังสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม นำประเทศไปสู่ความเสี่ยง นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลยังล่องหน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิ ก็จะตอบโต้อย่างรุนแรง
นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณที่ชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวว่า นโยบายของรัฐบาลเป็นนโยบายไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจจริง อีกทั้งยังสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม นำประเทศไปสู่ความเสี่ยง ดังนั้นต้องถามว่าเศรษฐกิจจะฟื้นได้อย่างไร เพราะไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่จะมาลงทุนในระยะยาว อีกทั้งเอสแอนด์พี ยังออกมาระบุว่า หากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศไทยยังดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจเช่นนี้อยู่ อีก 3 ปีเศรษฐกิจจะพัง เพราะการบริหารประเทศและทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ต้องดำเนินการบริหารประเทศโดยใช้หลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษาต้องทำให้ได้ เพราะหากต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ ประชาชนในประเทศต้องมีความรู้ มีการศึกษา หากคนไม่มีความรู้ไม่เก่งจะพัฒนาประเทศได้อย่างไร นอกจากนี้ที่ห่วงมากที่สุดคือนโยบายที่จะทำให้ประชาชนทั่วประเทศทั้งคนจนและคนรวยเป็นผู้แบมือขอ และเป็นการสร้างค่านิยมให้ประชาชนเห็นว่าการคอรัปชั่นเป็นเรื่องที่ดี
นายธารินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้การที่รัฐบาลบอกว่า เมื่อเข้ามาบริหารประเทศ จีดีพีจะขึ้นร้อยละ 5 หุ้นจะขึ้นถึง 600 จุด และหลังจากที่เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนจะมีเงินกระเป๋าเพิ่มขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของเงินในประเป๋าต้องไม่ใช้เงินที่ได้มาแล้วเป็นหนี้ ต้องถามว่ารัฐบาลทำได้หรือไม่ ส่วนที่หุ้นขึ้นขณะนี้ก็เป็นเพียงระยะสั้นซึ่งจะวัดจากตรงนี้ไม่ได้ หากจะเพิ่มต้องเป็นระยะยาวมีการลงทุนที่แท้จริง แต่รัฐบาลยังมีจุดแข็งอยู่ก็คือ เปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตลอดเวลา เป็นนโยบายล่องหน วันนี้พูดอย่างอีกวันหนึ่งกลับพูดอีกอย่าง ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่ต้องการต่างชาติมาลงทุนในประเทศ แต่ขณะนี้จะเปลี่ยนแปลงให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี--จบ--
-สส-
นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านโยบายของรัฐบาลเป็นนโยบายที่ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจจริง อีกทั้งยังสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม นำประเทศไปสู่ความเสี่ยง นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลยังล่องหน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิ ก็จะตอบโต้อย่างรุนแรง
นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณที่ชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวว่า นโยบายของรัฐบาลเป็นนโยบายไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจจริง อีกทั้งยังสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม นำประเทศไปสู่ความเสี่ยง ดังนั้นต้องถามว่าเศรษฐกิจจะฟื้นได้อย่างไร เพราะไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่จะมาลงทุนในระยะยาว อีกทั้งเอสแอนด์พี ยังออกมาระบุว่า หากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศไทยยังดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจเช่นนี้อยู่ อีก 3 ปีเศรษฐกิจจะพัง เพราะการบริหารประเทศและทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ต้องดำเนินการบริหารประเทศโดยใช้หลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษาต้องทำให้ได้ เพราะหากต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ ประชาชนในประเทศต้องมีความรู้ มีการศึกษา หากคนไม่มีความรู้ไม่เก่งจะพัฒนาประเทศได้อย่างไร นอกจากนี้ที่ห่วงมากที่สุดคือนโยบายที่จะทำให้ประชาชนทั่วประเทศทั้งคนจนและคนรวยเป็นผู้แบมือขอ และเป็นการสร้างค่านิยมให้ประชาชนเห็นว่าการคอรัปชั่นเป็นเรื่องที่ดี
นายธารินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้การที่รัฐบาลบอกว่า เมื่อเข้ามาบริหารประเทศ จีดีพีจะขึ้นร้อยละ 5 หุ้นจะขึ้นถึง 600 จุด และหลังจากที่เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนจะมีเงินกระเป๋าเพิ่มขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของเงินในประเป๋าต้องไม่ใช้เงินที่ได้มาแล้วเป็นหนี้ ต้องถามว่ารัฐบาลทำได้หรือไม่ ส่วนที่หุ้นขึ้นขณะนี้ก็เป็นเพียงระยะสั้นซึ่งจะวัดจากตรงนี้ไม่ได้ หากจะเพิ่มต้องเป็นระยะยาวมีการลงทุนที่แท้จริง แต่รัฐบาลยังมีจุดแข็งอยู่ก็คือ เปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตลอดเวลา เป็นนโยบายล่องหน วันนี้พูดอย่างอีกวันหนึ่งกลับพูดอีกอย่าง ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่ต้องการต่างชาติมาลงทุนในประเทศ แต่ขณะนี้จะเปลี่ยนแปลงให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี--จบ--
-สส-