รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเดินทางไปเยือนประเทศบาห์เรนระหว่างวันที่ 29 เมษายน — 1 พฤษภาคม 2545 เพื่อประชุมเจรจาการค้าและดำเนินการต่อเนื่องจากการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางการค้า (Memorandum of Understanding on Commercial Cooperation) ซึ่งได้ลงนามระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับอุตสาหกรรมบาห์เรน ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ 4 ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อปลายปีที่แล้ว
บาห์เรนเป็นประเทศที่สำคัญ ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กและมีประชากรไม่มากนัก แต่เป็นสมาชิกในกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council — GCC) ซึ่งมีประเทศในกลุ่มความร่วมมือนี้ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทั้ง 6 ประเทศนี้มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรวมกันถึง (GDP) 298,317 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีรายได้ต่อหัวเฉลี่ย 14,277 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงมาก นอกจากการทำการค้ากับไทยโดยตรงแล้วบาห์เรนยังจะเป็นประตูทางการค้า (Gateway) ที่ไทยสามารถจะขยายตลาดไปสู่กลุ่ม GCC ได้
การเดินทางไปเยือนบาห์เรนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่การกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการสานต่อความตกลงจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีบาห์เรนได้เคยหารือกับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในคราวที่เดินทางเยือนไทยเมื่อปลายปีที่แล้วด้วย
นอกจากนี้ จะได้มีการหารือดังนี้
* จะมีการจัดตั้ง Trade Center ของไทยในประเทศบาห์เรนโดยเร็ว เพื่อให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าของไทยไปยังกลุ่ม GCC และมีการจัดงานแสดงสินค้าปีละครั้ง โดยนำสินค้าที่มีโอกาสในตลาดนี้ไปแสดงในงานดังกล่าว
* จัดตั้ง Task Force ขึ้นมาเพื่อดำเนินการให้แนวคิดเรื่อง Gateway และเขตการค้าเสรีบังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาประเด็นต่างๆ ดังนี้
- แก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกทางการค้า เช่น ลดขั้นตอนพิธีการศุลกากร อำนวยความสะดวกในการใช้ท่าเรือ การขนส่ง รวมทั้งการจัดตั้งคลังสินค้า
- หารือในการจัดทำวิธีการขั้นตอนเกี่ยวกับการเปิดเสรีทางการค้า รวมถึง แผนปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม
* จะมีการหารือระหว่างนักธุรกิจของทั้งสองฝ่ายเพื่อพิจารณาลู่ทางในการกระจายชนิดของสินค้าและบริการระหว่างกัน
กระทรวงพาณิชย์ได้มีการศึกษาเบื้องต้น โดยเฉพาะการจัดตั้ง Trade Center และการเปิด Gateway / เขตการค้าเสรีแล้ว จะเพิ่มโอกาสทางการค้าแก่ไทย โดยประมาณว่าการส่งออกของไทยไปกลุ่มประเทศ GCC น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ถึงร้อยละ 20
ในการเดินทางเยือนบาห์เรนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ ได้นำภาคเอกชนร่วมคณะเดินทางไปด้วย ได้แก่ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า สหพันธ์ธุรกิจออกแบบและก่อสร้างแห่งประเทศไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าสิ่งทอและอัญมณี โดยจะได้จัดให้มีการประชุมหารือกับสภาหอการค้าบาห์เรน และ ผู้นำเข้าของบาห์เรน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้ากันต่อไป
สำนักงานโฆษกกระทรวงพาณิชย์
--สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เมษายน 2545--
-ปส-
บาห์เรนเป็นประเทศที่สำคัญ ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กและมีประชากรไม่มากนัก แต่เป็นสมาชิกในกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council — GCC) ซึ่งมีประเทศในกลุ่มความร่วมมือนี้ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทั้ง 6 ประเทศนี้มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรวมกันถึง (GDP) 298,317 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีรายได้ต่อหัวเฉลี่ย 14,277 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงมาก นอกจากการทำการค้ากับไทยโดยตรงแล้วบาห์เรนยังจะเป็นประตูทางการค้า (Gateway) ที่ไทยสามารถจะขยายตลาดไปสู่กลุ่ม GCC ได้
การเดินทางไปเยือนบาห์เรนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่การกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการสานต่อความตกลงจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีบาห์เรนได้เคยหารือกับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในคราวที่เดินทางเยือนไทยเมื่อปลายปีที่แล้วด้วย
นอกจากนี้ จะได้มีการหารือดังนี้
* จะมีการจัดตั้ง Trade Center ของไทยในประเทศบาห์เรนโดยเร็ว เพื่อให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าของไทยไปยังกลุ่ม GCC และมีการจัดงานแสดงสินค้าปีละครั้ง โดยนำสินค้าที่มีโอกาสในตลาดนี้ไปแสดงในงานดังกล่าว
* จัดตั้ง Task Force ขึ้นมาเพื่อดำเนินการให้แนวคิดเรื่อง Gateway และเขตการค้าเสรีบังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาประเด็นต่างๆ ดังนี้
- แก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกทางการค้า เช่น ลดขั้นตอนพิธีการศุลกากร อำนวยความสะดวกในการใช้ท่าเรือ การขนส่ง รวมทั้งการจัดตั้งคลังสินค้า
- หารือในการจัดทำวิธีการขั้นตอนเกี่ยวกับการเปิดเสรีทางการค้า รวมถึง แผนปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม
* จะมีการหารือระหว่างนักธุรกิจของทั้งสองฝ่ายเพื่อพิจารณาลู่ทางในการกระจายชนิดของสินค้าและบริการระหว่างกัน
กระทรวงพาณิชย์ได้มีการศึกษาเบื้องต้น โดยเฉพาะการจัดตั้ง Trade Center และการเปิด Gateway / เขตการค้าเสรีแล้ว จะเพิ่มโอกาสทางการค้าแก่ไทย โดยประมาณว่าการส่งออกของไทยไปกลุ่มประเทศ GCC น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ถึงร้อยละ 20
ในการเดินทางเยือนบาห์เรนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ ได้นำภาคเอกชนร่วมคณะเดินทางไปด้วย ได้แก่ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า สหพันธ์ธุรกิจออกแบบและก่อสร้างแห่งประเทศไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าสิ่งทอและอัญมณี โดยจะได้จัดให้มีการประชุมหารือกับสภาหอการค้าบาห์เรน และ ผู้นำเข้าของบาห์เรน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้ากันต่อไป
สำนักงานโฆษกกระทรวงพาณิชย์
--สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เมษายน 2545--
-ปส-