ปัญหาการส่งออกของไทย รัฐบาลควรส่งเสริมภาคเอกชน จากการที่รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขของการส่งออกปีนี้ว่าจะขยายตัวประมาณ 3-5 % นั้น นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะประธานคณะทำงานด้านการค้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในด้านการส่งออกของไทยยังมีปัญหาอยู่มาก จึงต้องมีการปรับลดเป้าการส่งออกลง เพราะอย่าลืมว่าปีที่ผ่านมาการส่งออกลดลง ส่วนกรณีที่จะหวังพึ่งการส่งออกจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้น ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวขึ้นได้ขนาดไหนในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมทั้งยังได้ฝากข้อเสนอแนะว่า ดังนั้นหน้าที่ของรัฐคือ ทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีการส่งออกได้มากขึ้น ทำอย่างไรให้ภาคเอกชนสามารถที่จะแข่งขันได้ ไม่ใช่ค่อยไปดึงขาภาคเอกชนอยู่ตลอดเวลา
จากการที่นายอดิศัย โพธารามิก รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขของการส่งออกปีนี้ว่าจะเป็นบวกอย่างแน่นอนโดยคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 3-5 % ซึ่งมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดการณ์ว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวเพียง 1.7% นั้น นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะประธานคณะทำงานด้านการค้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในด้านการส่งออกของประเทศไทยยังมีปัญหาอยู่มาก จึงต้องมีการปรับลดเป้าการส่งออกลงซึ่งอาจจะทำได้ยาก แต่ถ้าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเราดีขึ้นก็อาจจะเป็นไปได้ ดังนั้นเราต้องดูปัจจัยภายนอกด้วย เพราะอย่าลืมว่าปีที่ผ่านมาการส่งออกลดลง จึงทำให้เกิดฐานต่ำซึ่งการเพิ่มการส่งออก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะยากเกินไป
นายโพธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่จะหวังพึ่งการส่งออกจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้น ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวขึ้นได้ขนาดไหนในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะสำคัญ และอย่าลืมว่าเศรษฐกิจของเราส่วนใหญ่ต้องส่งไปยังประเทศสหรัฐ ฯ ส่วนการที่บอกว่าจะส่งออกไปยังประเทศที่ 3 นั้นตนจึงอยากถามว่าประเทศนั้น ได้แก่ประเทศไหน ระบุให้ชัดเจนด้วย
ประธานคณะทำงานด้านการค้า พรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ฝากข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลว่า ผู้นำในการส่งออกขณะนี้ความจริงแล้ว ไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นภาคเอกชน ดังนั้นเรื่องที่สำคัญของรัฐบาล คือจะทำอย่างไรให้ภาคเอกชนสามารถที่จะแข่งขันได้ ไม่ทำให้การส่งออกของภาคเอกชนอยู่ในด้านลบและเกิดอุปสรรค ดังนั้นหน้าที่ของรัฐคือ ทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีการส่งออกได้มากขึ้น อำนวยความสะดวกให้มากขึ้น ไม่ใช่คอยไปดึงขาภาคเอกชนอยู่ตลอดเวลา--จบ--
-สส-
จากการที่นายอดิศัย โพธารามิก รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขของการส่งออกปีนี้ว่าจะเป็นบวกอย่างแน่นอนโดยคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 3-5 % ซึ่งมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดการณ์ว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวเพียง 1.7% นั้น นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะประธานคณะทำงานด้านการค้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในด้านการส่งออกของประเทศไทยยังมีปัญหาอยู่มาก จึงต้องมีการปรับลดเป้าการส่งออกลงซึ่งอาจจะทำได้ยาก แต่ถ้าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเราดีขึ้นก็อาจจะเป็นไปได้ ดังนั้นเราต้องดูปัจจัยภายนอกด้วย เพราะอย่าลืมว่าปีที่ผ่านมาการส่งออกลดลง จึงทำให้เกิดฐานต่ำซึ่งการเพิ่มการส่งออก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะยากเกินไป
นายโพธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่จะหวังพึ่งการส่งออกจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้น ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวขึ้นได้ขนาดไหนในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะสำคัญ และอย่าลืมว่าเศรษฐกิจของเราส่วนใหญ่ต้องส่งไปยังประเทศสหรัฐ ฯ ส่วนการที่บอกว่าจะส่งออกไปยังประเทศที่ 3 นั้นตนจึงอยากถามว่าประเทศนั้น ได้แก่ประเทศไหน ระบุให้ชัดเจนด้วย
ประธานคณะทำงานด้านการค้า พรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ฝากข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลว่า ผู้นำในการส่งออกขณะนี้ความจริงแล้ว ไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นภาคเอกชน ดังนั้นเรื่องที่สำคัญของรัฐบาล คือจะทำอย่างไรให้ภาคเอกชนสามารถที่จะแข่งขันได้ ไม่ทำให้การส่งออกของภาคเอกชนอยู่ในด้านลบและเกิดอุปสรรค ดังนั้นหน้าที่ของรัฐคือ ทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีการส่งออกได้มากขึ้น อำนวยความสะดวกให้มากขึ้น ไม่ใช่คอยไปดึงขาภาคเอกชนอยู่ตลอดเวลา--จบ--
-สส-