กรุงเทพ--23 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริษัท CB Richard Ellis ซึ่งเป็นผู้แทนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ในนครโฮจิมินห์ ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Retail Opportunities in Vietnam”
เวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนด้านการขายปลีก เช่น การลงทุนด้านห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ต สูงมาก เนื่องจากเวียดนามมีอัตราการเพิ่มของประชากรที่สูงมาก สังคมเวียดนามกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมเมือง ครอบครัวเวียดนามส่วนใหญ่มีขนาดเล็กลงและชาวเวียดนามเลือกที่จะประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่าต่างจังหวัด รวมทั้งผู้บริโภคเวียดนาม ส่วนใหญ่มีกำลังการซื้อ และปัจจุบันสินค้าที่มีชื่อเสียงของต่างชาติก็เริ่มเป็นที่นิยมในเวียดนาม
สำหรับธุรกิจของไทยที่เข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่ม Central Pattana ซึ่งกำลัง อยู่ระหว่างการศึกษาลู่ทางการลงทุนด้านห้างสรรพสินค้าในนครโฮจิมินห์ และธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยที่ กำลังศึกษาลู่ทางการลงทุนในนครโฮจิมินห์ในขณะนี้ ได้แก่ หูฉลามเจ๊เล้ง และโคคาสุกี้
ภายในปี 2006-2007 จะมีห้างสรรพสินค้าและพื้นที่การขายปลีกสินค้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 9-10 แห่ง เช่น ห้าง Luxury Mall ในกรุงฮานอย ห้าง Vinh Trang Plaza ในนครดานัง ห้าง Artex, Saigon Pearl และห้าง SATRA ในนครโฮจิมินห์ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจขายปลีกในนครโฮจิมินห์ อย่างมาก ทั้งนี้ พื้นที่ห้างในนครโฮจิมินห์มีมากกว่าในกรุงฮานอย และอัตราค่าเช่าพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ก็สูงกว่า เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่กว่ากรุงฮานอย
พื้นที่การขายปลีกที่เพิ่มขึ้นในนครโฮจิมินห์ น่าจะเป็นลู่ทางอันดีสำหรับสินค้า และบริการไทยที่จะเข้าสู่ตลาดเวียดนามมากขึ้น โดยในส่วนของสินค้าธุรกิจไทยที่ลงทุนตั้งฐานการผลิตใน เวียดนามและมีใบอนุญาตให้สามารถขายปลีกสินค้าในเวียดนามก็จะมีช่องทางการกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น
และช่องทางในการเข้าสู่กลุ่มลูกค้าในพื้นที่ชานเมืองหรือจังหวัดโดยรอบนครโฮจิมินห์ นอกจากนี้
ธุรกิจแฟรนไชส์ด้านอาหาร และธุรกิจการให้การบริการเสริม เช่น รักษาความปลอดภัย การรักษาความสะอาด การออกแบบก่อสร้างและตกแต่งคูหาร้าน การให้บริการด้านการตกแต่งไฟ น่าจะเป็นลู่ทางธุรกิจที่ดี เนื่องจากธุรกิจด้านดังกล่าวยังเป็นที่ขาดแคลนในเวียดนาม และโดยที่คาดว่า อาคาร/ห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ตในนครโฮจิมินห์จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2006-2008 ดังนั้น จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการของไทยต้องเร่งวางแผนและดำเนินการเพื่อเข้ามามีส่วนแบ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งด้วยว่า สินค้าต่างประเทศจะมีโอกาสเข้าถึงแหล่งจำหน่ายในเวียดนามได้มากกว่า หากมีผู้นำเข้าเป็นชาวเวียดนาม หรือเป็นสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม นอกจากนี้ สินค้าต่างชาติค่อนข้างเป็นที่ต้องการของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนของต่างชาติและธุรกิจต่างชาติมีความสามารถในการจ่ายค่าเช่า รวมทั้งมีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์ของห้างดีในสายตาของผู้บริโภคชาวเวียดนาม
การสัมมนาดังกล่าวเป็นการสัมมนาที่ต่อเนื่องจากการสัมมนา “Ho Chi Minh City Investment Mart” เมื่อวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2548 และได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากธุรกิจต่างชาติด้านการขายปลีก และธุรกิจ สินค้ายี่ห้อต่างชาติ โดยการสัมมนาในครั้งนี้นอกจากจะกล่าวถึงความน่าสนใจของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์ ในระหว่างการสัมมนายังมีการอบรมให้ความรู้เรื่องยุทธศาสตร์การบริหารห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต เช่น การออกแบบห้าง การจัดวางสินค้า และการให้บริการลูกค้า แก่ผู้เข้าฟังสัมมนาด้วย ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับเวียดนามที่ยังไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารหางสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตมากนัก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริษัท CB Richard Ellis ซึ่งเป็นผู้แทนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ในนครโฮจิมินห์ ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Retail Opportunities in Vietnam”
เวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนด้านการขายปลีก เช่น การลงทุนด้านห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ต สูงมาก เนื่องจากเวียดนามมีอัตราการเพิ่มของประชากรที่สูงมาก สังคมเวียดนามกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมเมือง ครอบครัวเวียดนามส่วนใหญ่มีขนาดเล็กลงและชาวเวียดนามเลือกที่จะประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่าต่างจังหวัด รวมทั้งผู้บริโภคเวียดนาม ส่วนใหญ่มีกำลังการซื้อ และปัจจุบันสินค้าที่มีชื่อเสียงของต่างชาติก็เริ่มเป็นที่นิยมในเวียดนาม
สำหรับธุรกิจของไทยที่เข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่ม Central Pattana ซึ่งกำลัง อยู่ระหว่างการศึกษาลู่ทางการลงทุนด้านห้างสรรพสินค้าในนครโฮจิมินห์ และธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยที่ กำลังศึกษาลู่ทางการลงทุนในนครโฮจิมินห์ในขณะนี้ ได้แก่ หูฉลามเจ๊เล้ง และโคคาสุกี้
ภายในปี 2006-2007 จะมีห้างสรรพสินค้าและพื้นที่การขายปลีกสินค้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 9-10 แห่ง เช่น ห้าง Luxury Mall ในกรุงฮานอย ห้าง Vinh Trang Plaza ในนครดานัง ห้าง Artex, Saigon Pearl และห้าง SATRA ในนครโฮจิมินห์ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจขายปลีกในนครโฮจิมินห์ อย่างมาก ทั้งนี้ พื้นที่ห้างในนครโฮจิมินห์มีมากกว่าในกรุงฮานอย และอัตราค่าเช่าพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ก็สูงกว่า เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่กว่ากรุงฮานอย
พื้นที่การขายปลีกที่เพิ่มขึ้นในนครโฮจิมินห์ น่าจะเป็นลู่ทางอันดีสำหรับสินค้า และบริการไทยที่จะเข้าสู่ตลาดเวียดนามมากขึ้น โดยในส่วนของสินค้าธุรกิจไทยที่ลงทุนตั้งฐานการผลิตใน เวียดนามและมีใบอนุญาตให้สามารถขายปลีกสินค้าในเวียดนามก็จะมีช่องทางการกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น
และช่องทางในการเข้าสู่กลุ่มลูกค้าในพื้นที่ชานเมืองหรือจังหวัดโดยรอบนครโฮจิมินห์ นอกจากนี้
ธุรกิจแฟรนไชส์ด้านอาหาร และธุรกิจการให้การบริการเสริม เช่น รักษาความปลอดภัย การรักษาความสะอาด การออกแบบก่อสร้างและตกแต่งคูหาร้าน การให้บริการด้านการตกแต่งไฟ น่าจะเป็นลู่ทางธุรกิจที่ดี เนื่องจากธุรกิจด้านดังกล่าวยังเป็นที่ขาดแคลนในเวียดนาม และโดยที่คาดว่า อาคาร/ห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ตในนครโฮจิมินห์จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2006-2008 ดังนั้น จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการของไทยต้องเร่งวางแผนและดำเนินการเพื่อเข้ามามีส่วนแบ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งด้วยว่า สินค้าต่างประเทศจะมีโอกาสเข้าถึงแหล่งจำหน่ายในเวียดนามได้มากกว่า หากมีผู้นำเข้าเป็นชาวเวียดนาม หรือเป็นสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม นอกจากนี้ สินค้าต่างชาติค่อนข้างเป็นที่ต้องการของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนของต่างชาติและธุรกิจต่างชาติมีความสามารถในการจ่ายค่าเช่า รวมทั้งมีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์ของห้างดีในสายตาของผู้บริโภคชาวเวียดนาม
การสัมมนาดังกล่าวเป็นการสัมมนาที่ต่อเนื่องจากการสัมมนา “Ho Chi Minh City Investment Mart” เมื่อวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2548 และได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากธุรกิจต่างชาติด้านการขายปลีก และธุรกิจ สินค้ายี่ห้อต่างชาติ โดยการสัมมนาในครั้งนี้นอกจากจะกล่าวถึงความน่าสนใจของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์ ในระหว่างการสัมมนายังมีการอบรมให้ความรู้เรื่องยุทธศาสตร์การบริหารห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต เช่น การออกแบบห้าง การจัดวางสินค้า และการให้บริการลูกค้า แก่ผู้เข้าฟังสัมมนาด้วย ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับเวียดนามที่ยังไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารหางสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตมากนัก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-