รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ดร.อดิศัย โพธารามิก) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Ministers : AEM) ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 12 15 กันยายน 2545 ณ กรุงบันดาร์ เสรี ประเทศบรูไนดารุสซาลาม
สรุปผลการประชุมที่สำคัญในวันที่ 12 กันยายน 2545 มีดังนี้
1. กรณีมาเลเซียชะลอการลดภาษีสินค้ายานยนต์ในอาฟต้า
ไทยได้ติดตามทวงถามความคืบหน้าการพิจารณามาตรการที่มาเลเซียจะชดเชยความเสียหายให้กับไทย อันเนื่องมาจากที่มาเลเซียไม่ได้นำสินค้ายานยนต์เข้ามาลดภาษีตามกำหนดเวลาในวันที่ 1 มกราคม 2543 ซึ่งมาเลเซียได้ให้คำตอบที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าจะต้องมีการชดเชยแก่ไทย โดยคาดว่าจะเป็นการดำเนินการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- มาเลเซียจะนำสินค้ารถยนต์ขนาดใหญ่เกินกว่า 2000cc. เข้ามาลดภาษีโดยเร็วก่อนสินค้ายานยนต์อื่น ๆ ที่ได้ขอชะลอไว้
- ไทยเสนอทำสัญญาซื้อขายน้ำตาลระยะยาวระหว่างผู้นำเข้าของมาเลเซียและผู้ส่งออกของไทย ซึ่งไทยพิจารณาแล้ว เห็นว่ามีโอกาสที่บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทยจะขายโดยตรงกับผู้นำเข้าของมาเลเซีย โดยไม่ต้องขายผ่านคนกลาง ตามที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด
- มาเลเซียจะนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น
- มาเลเซียจะซื้อข้าวเพิ่มจากไทย ซึ่งอาจเป็นการซื้อขายระหว่างรัฐกับรัฐ
2. กรณีการโอนย้ายสินค้าน้ำตาลในอาฟต้าของอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
จากการที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้ขอโอนย้ายบัญชีสินค้าน้ำตาลในอาฟต้า จากบัญชียกเว้นภาษีชั่วคราวไปไว้ในบัญชีอ่อนไหวสูงและอ่อนไหวตามลำดับ อันมีผลให้ทั้งสองประเทศสามารถลดภาษีลงเหลือ 0-5 % ช้าออกไปจากเดิมในปี 2546 เป็น 2553 โดยเฉพาะอินโดนีเซีย จะมีอัตราภาษีสุดท้ายสูงกว่า 0-5 % ได้
ในการนี้ไทยได้เสนอให้อินโดนีเซียดำเนินการดังนี้
- ขอให้คงอัตราภาษีภายใต้ ASEAN Preferential Trade Arrangement (PTA) ซึ่งต่ำกว่าอัตราภาษีปกติ 50%
- ขอให้มีการซื้อขายน้ำตาลโดยตรงระหว่างสมาคมผู้นำเข้าน้ำตาลของอินโดนีเซียกับผู้ส่งออกของไทย
- ขอให้มีการซื้อขายน้ำตาลโดยตรงระหว่างอุตสาหกรรมอาหารอินโดนีเซียกับผู้ส่งออกของไทย ซึ่งอัตราภาษีนำเข้าจะต่ำกว่าอัตราภาษีปกติ
สำหรับฟิลิปปินส์ กำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อตกลงปริมาณนำเข้าน้ำตาลและอัตราภาษีนำเข้า โดยไทยเสนอให้ฟิลิปปินส์ลดภาษีให้กับไทยต่ำกว่าอัตราปกติ
ผลการหารือปรากฎว่า มีแนวโน้มสูงที่ทั้งสองประเทศจะรับข้อเสนอของไทย ทั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการหารือหน่วยงานภายในประเทศขั้นสุดท้าย
3. แผนงานการรวมกลุ่มของอาเซียน (Roadmap for Integration of ASEAN : RIA)
3.1 ที่ประชุม AEM มีมติให้จัดตั้งคณะทำงานระดับนโยบายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอาเซียน เพื่อเสนอความเห็นเรื่องการรวมตัวของอาเซียนต่อไปหลังการดำเนินการอาฟต้าสมบูรณ์แล้ว
3.2 รัฐมนตรีมีความเห็นว่า อาฟต้ากำลังสมบูรณ์ในเร็ววันนี้ แต่การค้าระหว่างอาเซียนใช้ประโยชน์จากการลดภาษีในอาฟต้าประมาณ 5% เนื่องจากมีปัญหาในการปฏิบัติ ดังนั้นจึงมีมติให้ตั้งหน่วยงานขึ้นกำกับและแก้ไขปัญหาการดำเนินการของอาฟต้า ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบให้เจ้าหน้าที่อาวุโสพิจารณากำหนดกรอบการทำงานขององค์กรต่อไป
4. การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีน
ที่ประชุม AEM ได้พิจารณาร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีน (ASEAN - China Framework Agreement on Economic Cooperation) ซึ่งครอบคลุมเรื่องการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีน โดยที่ประชุมมีความเห็นว่า อาเซียนควรเจรจากับจีนทั้งเรื่องการลดภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษี รวมทั้งเรียกร้องให้จีนพิจารณาลดภาษีให้สินค้าที่อาเซียนมีผลประโยชน์เพิ่มเติมใน Early Harvest Package ในการนี้ ที่ประชุม AEM มีมติให้คณะเจรจาอาเซียน - จีน ดำเนินการเจรจา Framework Agreement ให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนพฤศจิกายน 2545 โดยคำนึงถึงความเห็นของ AEM ดังกล่าว
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 280-0775--จบ--
-สส-
สรุปผลการประชุมที่สำคัญในวันที่ 12 กันยายน 2545 มีดังนี้
1. กรณีมาเลเซียชะลอการลดภาษีสินค้ายานยนต์ในอาฟต้า
ไทยได้ติดตามทวงถามความคืบหน้าการพิจารณามาตรการที่มาเลเซียจะชดเชยความเสียหายให้กับไทย อันเนื่องมาจากที่มาเลเซียไม่ได้นำสินค้ายานยนต์เข้ามาลดภาษีตามกำหนดเวลาในวันที่ 1 มกราคม 2543 ซึ่งมาเลเซียได้ให้คำตอบที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าจะต้องมีการชดเชยแก่ไทย โดยคาดว่าจะเป็นการดำเนินการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- มาเลเซียจะนำสินค้ารถยนต์ขนาดใหญ่เกินกว่า 2000cc. เข้ามาลดภาษีโดยเร็วก่อนสินค้ายานยนต์อื่น ๆ ที่ได้ขอชะลอไว้
- ไทยเสนอทำสัญญาซื้อขายน้ำตาลระยะยาวระหว่างผู้นำเข้าของมาเลเซียและผู้ส่งออกของไทย ซึ่งไทยพิจารณาแล้ว เห็นว่ามีโอกาสที่บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทยจะขายโดยตรงกับผู้นำเข้าของมาเลเซีย โดยไม่ต้องขายผ่านคนกลาง ตามที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด
- มาเลเซียจะนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น
- มาเลเซียจะซื้อข้าวเพิ่มจากไทย ซึ่งอาจเป็นการซื้อขายระหว่างรัฐกับรัฐ
2. กรณีการโอนย้ายสินค้าน้ำตาลในอาฟต้าของอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
จากการที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้ขอโอนย้ายบัญชีสินค้าน้ำตาลในอาฟต้า จากบัญชียกเว้นภาษีชั่วคราวไปไว้ในบัญชีอ่อนไหวสูงและอ่อนไหวตามลำดับ อันมีผลให้ทั้งสองประเทศสามารถลดภาษีลงเหลือ 0-5 % ช้าออกไปจากเดิมในปี 2546 เป็น 2553 โดยเฉพาะอินโดนีเซีย จะมีอัตราภาษีสุดท้ายสูงกว่า 0-5 % ได้
ในการนี้ไทยได้เสนอให้อินโดนีเซียดำเนินการดังนี้
- ขอให้คงอัตราภาษีภายใต้ ASEAN Preferential Trade Arrangement (PTA) ซึ่งต่ำกว่าอัตราภาษีปกติ 50%
- ขอให้มีการซื้อขายน้ำตาลโดยตรงระหว่างสมาคมผู้นำเข้าน้ำตาลของอินโดนีเซียกับผู้ส่งออกของไทย
- ขอให้มีการซื้อขายน้ำตาลโดยตรงระหว่างอุตสาหกรรมอาหารอินโดนีเซียกับผู้ส่งออกของไทย ซึ่งอัตราภาษีนำเข้าจะต่ำกว่าอัตราภาษีปกติ
สำหรับฟิลิปปินส์ กำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อตกลงปริมาณนำเข้าน้ำตาลและอัตราภาษีนำเข้า โดยไทยเสนอให้ฟิลิปปินส์ลดภาษีให้กับไทยต่ำกว่าอัตราปกติ
ผลการหารือปรากฎว่า มีแนวโน้มสูงที่ทั้งสองประเทศจะรับข้อเสนอของไทย ทั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการหารือหน่วยงานภายในประเทศขั้นสุดท้าย
3. แผนงานการรวมกลุ่มของอาเซียน (Roadmap for Integration of ASEAN : RIA)
3.1 ที่ประชุม AEM มีมติให้จัดตั้งคณะทำงานระดับนโยบายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอาเซียน เพื่อเสนอความเห็นเรื่องการรวมตัวของอาเซียนต่อไปหลังการดำเนินการอาฟต้าสมบูรณ์แล้ว
3.2 รัฐมนตรีมีความเห็นว่า อาฟต้ากำลังสมบูรณ์ในเร็ววันนี้ แต่การค้าระหว่างอาเซียนใช้ประโยชน์จากการลดภาษีในอาฟต้าประมาณ 5% เนื่องจากมีปัญหาในการปฏิบัติ ดังนั้นจึงมีมติให้ตั้งหน่วยงานขึ้นกำกับและแก้ไขปัญหาการดำเนินการของอาฟต้า ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบให้เจ้าหน้าที่อาวุโสพิจารณากำหนดกรอบการทำงานขององค์กรต่อไป
4. การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีน
ที่ประชุม AEM ได้พิจารณาร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีน (ASEAN - China Framework Agreement on Economic Cooperation) ซึ่งครอบคลุมเรื่องการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีน โดยที่ประชุมมีความเห็นว่า อาเซียนควรเจรจากับจีนทั้งเรื่องการลดภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษี รวมทั้งเรียกร้องให้จีนพิจารณาลดภาษีให้สินค้าที่อาเซียนมีผลประโยชน์เพิ่มเติมใน Early Harvest Package ในการนี้ ที่ประชุม AEM มีมติให้คณะเจรจาอาเซียน - จีน ดำเนินการเจรจา Framework Agreement ให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนพฤศจิกายน 2545 โดยคำนึงถึงความเห็นของ AEM ดังกล่าว
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 280-0775--จบ--
-สส-