“ชวน” ชี้ รัฐบาลห้ามการตรวจสอบของฝ่ายค้านไม่ได้ พร้อมย้ำ ถ้าไม่มีการโกงเกิดขึ้น ฝ่ายค้านคงฉวยโอกาสทำเรื่องขึ้นมาไม่ได้
นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า การตรวจสอบของ ส.ส.และคณะกรรมาธิการ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ อีกทั้ง รัฐบาลในอดีตไม่ได้ปกปิดข้อมูลการทุจริต แต่รัฐบาลนี้ด้วยซ้ำที่มีการปกปิด และไม่ยอมรับกติกาตามที่ควรจะเป็น พร้อมย้ำว่า การลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีของนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ไม่มีผลอะไรต่อการตรวจสอบ
นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทุจริตในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า จะสังคายนาระบบในกระทรวงหรือไม่ ต้องดูว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และปัญหาเกิดจากข้าราชการหรือนักการเมือง ถ้าเป็นเรื่องของนักการเมืองก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่ถ้าเกิดจากข้าราชการต้องให้ส่วนราชการดำเนินการ หรือต้องดูว่าเป็นการทุจริตเนื่องจากการบริหารหรือเกิดจากการกำหนดนโยบายและจัดโครงการเพื่อหวังผลประโยชน์ ซึ่งต้องดูจากข้อเท็จจริงของแต่ละเรื่อง
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องภายในของรัฐบาล แล้วแต่คนของรัฐบาลจะตัดสินใจ ซึ่งกรณีนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลอย่างไรหรือไม่นั้น ไม่ทราบว่าลาออกด้วยเหตุผลอะไร แต่จากข่าวว่าสุขภาพไม่ดี ส่วนจะทำให้การตรวจสอบการทุจริตปุ๋ยปลอมได้ง่ายขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่านายชูชีพจะลาออกหรือไม่ก็ตามไม่มีผลแตกต่างอะไร เพราะนายชูชีพไม่ได้อยู่ในฐานะรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนการเอาผิดนั้นไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ แต่หากทำไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เป็นเรื่องภายในพรรคมากกว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ภายนอก ส่วนที่มีการมองว่าการลาออกเป็นเพียงการแก้ปัญหาภายในพรรคไทยรักไทยนั้น คงต้องถามพรรครัฐบาล
นอกจากนี้ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อข้อถามที่ว่า ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ นี้จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ ว่า เป็นหน้าที่ของสภาฯ อยู่แล้วที่จะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ และความหมายของคำว่าสภาฯ ก็หมายถึงรัฐบาลเองด้วย เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก มีสมาชิกที่เป็นคณะกรรมาธิการในแต่ละชุดที่หากมีความประสงค์จะตรวจสอบก็สามารถทำได้โดยเชิญบุคคลมาให้ข้อมูล แต่ถ้ากรรมาธิการเข้าไปเพื่อปกป้องก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะเปิดอภิปรายฯ หรือไม่ ยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ปกติ ส.ส.ที่ทำหน้าที่อยู่ในคณะทำงานแต่ละชุดจะตรวจสอบไปตามหน้าที่ จะมีเรื่องทุจริตหรือไม่ก็มีหน้าที่ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่การดำเนินการทำได้เฉพาะข้าราชการเท่านั้น นายชวน กล่าวว่าขณะนี้ทุกเรื่องยังไม่จบ และคิดว่าจุดที่ดีคือหลายเรื่องฝ่ายค้านดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นการลงเอยง่ายๆ โดยการให้จบหรือสั่งห้ามพูดคงทำได้ระดับหนึ่งและในส่วนของคนในรัฐบาล แต่จะสั่งห้ามฝ่ายค้านไม่ให้ตรวจสอบคงสั่งไม่ได้
“อย่างน้อยก็ยังมีฝ่ายค้านคานอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าไม่มีฝ่ายค้านคานอยู่บางทีก็ยากเหมือนกัน เพราะว่าอาจจะสั่งหยุดไม่ให้พูดเรื่องนี้แล้วก็จบกันไป เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องใดที่มีข้อมูลชัดฝ่ายค้านก็คงจะเป็นหูเป็นตาแทนชาวบ้านได้” นายชวน กล่าว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมักพูดเสมอว่ารัฐบาลเป็นผู้ขุดคุ้ยเรื่องทุจริตขึ้นมาเองนั้น นายชวน กล่าวว่า การทุจริตเกิดขึ้นในวงรัฐบาล คนของรัฐบาล ถ้าเกิดขึ้นกับ ส.ส. ก็ ส.ส.ของรัฐบาล เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่คนทุจริตก็ต้องรู้ก่อนคนอื่นว่าตัวเองทุจริต รัฐบาลต้องรู้เรื่องก่อน เพราะคนทุจริตต้องรู้ก่อนคนอื่น เพียงแต่ว่าใครจะหาหลักฐานได้ก่อนหรือหลังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“แต่ที่จริงมันไม่ใช่เด็กที่มาแย่งว่าใครถึงก่อน แต่อยู่ที่ว่ามีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหาเรื่องนี้หรือไม่และจะดำเนินการจริงจังหรือไม่มากกว่า แต่ผมเรียนว่าหลายเรื่องถ้าฝ่ายค้านไม่จับด้วย การทุจริตเหล่านั้นคงจบไปนานแล้ว เหมือนที่เราเห็นว่าห้าม ส.ส.ออกมาพูดหลายเรื่อง ซึ่งนอกจากจะมีฝ่ายค้านแล้วยังมีองค์กรอื่นที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนในการช่วยตรวจสอบเช่นสื่อมวลชน สมาชิกวุฒิสภา”ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายชวน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลพยายามเบี่ยงเบนว่าฝ่ายค้านฉวยโอกาสในเรื่องนี้ ว่า ถ้าไม่มีการโกงเกิดขึ้น ฝ่ายค้านคงฉวยโอกาสทำเรื่องให้มีการโกงขึ้นมาคงทำไม่ได้ การตรวจสอบของฝ่ายค้านเป็นไปตามหน้าที่ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องพยายามทำความเข้าใจเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยมากกว่านี้ เพื่อที่จะรู้ว่าบทบาทของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่เข้าใจบทบาทแต่ละฝ่ายจะมีปัญหามาก และทำให้ไม่เข้าใจถึงหน้าที่และทำให้เกิดความเข้าใจไปว่าเป็นการเล่นการเมือง
“ที่เราได้ยินเวลาชี้แจงอะไรไม่ได้ก็บอกว่าอย่าเล่นการเมืองให้มากและก็พูดเหมือนกันหมดตั้งแต่หัวแถวถึงท้ายแถวคล้ายๆกันเลย” นายชวน กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองถึงกรณีที่รัฐบาลระบุว่าปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย แต่มาเปิดโปงในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งหมายความว่าที่ผ่านมามีความพยายามปกปิดใช่หรือไม่ ว่า ไม่คิดว่ารัฐบาลชุดใดจะปกปิด เว้นแต่นักการเมืองโกงเอง ความจริงรัฐบาลนี้ด้วยซ้ำที่มีหลายคนปกปิด และไม่ยอมรับกติกาตามที่ควรจะเป็น เช่น ปปช.ชี้มูลการทำผิดของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินหรือเรื่องหุ้น รัฐบาลชุดนี้ยังไม่ยอมรับ ซึ่งเห็นได้ชัดเจน
(ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์,30/11/2545)--จบ--
-สส-
นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า การตรวจสอบของ ส.ส.และคณะกรรมาธิการ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ อีกทั้ง รัฐบาลในอดีตไม่ได้ปกปิดข้อมูลการทุจริต แต่รัฐบาลนี้ด้วยซ้ำที่มีการปกปิด และไม่ยอมรับกติกาตามที่ควรจะเป็น พร้อมย้ำว่า การลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีของนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ไม่มีผลอะไรต่อการตรวจสอบ
นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทุจริตในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า จะสังคายนาระบบในกระทรวงหรือไม่ ต้องดูว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และปัญหาเกิดจากข้าราชการหรือนักการเมือง ถ้าเป็นเรื่องของนักการเมืองก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่ถ้าเกิดจากข้าราชการต้องให้ส่วนราชการดำเนินการ หรือต้องดูว่าเป็นการทุจริตเนื่องจากการบริหารหรือเกิดจากการกำหนดนโยบายและจัดโครงการเพื่อหวังผลประโยชน์ ซึ่งต้องดูจากข้อเท็จจริงของแต่ละเรื่อง
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องภายในของรัฐบาล แล้วแต่คนของรัฐบาลจะตัดสินใจ ซึ่งกรณีนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลอย่างไรหรือไม่นั้น ไม่ทราบว่าลาออกด้วยเหตุผลอะไร แต่จากข่าวว่าสุขภาพไม่ดี ส่วนจะทำให้การตรวจสอบการทุจริตปุ๋ยปลอมได้ง่ายขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่านายชูชีพจะลาออกหรือไม่ก็ตามไม่มีผลแตกต่างอะไร เพราะนายชูชีพไม่ได้อยู่ในฐานะรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนการเอาผิดนั้นไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ แต่หากทำไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เป็นเรื่องภายในพรรคมากกว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ภายนอก ส่วนที่มีการมองว่าการลาออกเป็นเพียงการแก้ปัญหาภายในพรรคไทยรักไทยนั้น คงต้องถามพรรครัฐบาล
นอกจากนี้ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อข้อถามที่ว่า ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ นี้จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ ว่า เป็นหน้าที่ของสภาฯ อยู่แล้วที่จะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ และความหมายของคำว่าสภาฯ ก็หมายถึงรัฐบาลเองด้วย เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก มีสมาชิกที่เป็นคณะกรรมาธิการในแต่ละชุดที่หากมีความประสงค์จะตรวจสอบก็สามารถทำได้โดยเชิญบุคคลมาให้ข้อมูล แต่ถ้ากรรมาธิการเข้าไปเพื่อปกป้องก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะเปิดอภิปรายฯ หรือไม่ ยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ปกติ ส.ส.ที่ทำหน้าที่อยู่ในคณะทำงานแต่ละชุดจะตรวจสอบไปตามหน้าที่ จะมีเรื่องทุจริตหรือไม่ก็มีหน้าที่ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่การดำเนินการทำได้เฉพาะข้าราชการเท่านั้น นายชวน กล่าวว่าขณะนี้ทุกเรื่องยังไม่จบ และคิดว่าจุดที่ดีคือหลายเรื่องฝ่ายค้านดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นการลงเอยง่ายๆ โดยการให้จบหรือสั่งห้ามพูดคงทำได้ระดับหนึ่งและในส่วนของคนในรัฐบาล แต่จะสั่งห้ามฝ่ายค้านไม่ให้ตรวจสอบคงสั่งไม่ได้
“อย่างน้อยก็ยังมีฝ่ายค้านคานอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าไม่มีฝ่ายค้านคานอยู่บางทีก็ยากเหมือนกัน เพราะว่าอาจจะสั่งหยุดไม่ให้พูดเรื่องนี้แล้วก็จบกันไป เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องใดที่มีข้อมูลชัดฝ่ายค้านก็คงจะเป็นหูเป็นตาแทนชาวบ้านได้” นายชวน กล่าว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมักพูดเสมอว่ารัฐบาลเป็นผู้ขุดคุ้ยเรื่องทุจริตขึ้นมาเองนั้น นายชวน กล่าวว่า การทุจริตเกิดขึ้นในวงรัฐบาล คนของรัฐบาล ถ้าเกิดขึ้นกับ ส.ส. ก็ ส.ส.ของรัฐบาล เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่คนทุจริตก็ต้องรู้ก่อนคนอื่นว่าตัวเองทุจริต รัฐบาลต้องรู้เรื่องก่อน เพราะคนทุจริตต้องรู้ก่อนคนอื่น เพียงแต่ว่าใครจะหาหลักฐานได้ก่อนหรือหลังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“แต่ที่จริงมันไม่ใช่เด็กที่มาแย่งว่าใครถึงก่อน แต่อยู่ที่ว่ามีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหาเรื่องนี้หรือไม่และจะดำเนินการจริงจังหรือไม่มากกว่า แต่ผมเรียนว่าหลายเรื่องถ้าฝ่ายค้านไม่จับด้วย การทุจริตเหล่านั้นคงจบไปนานแล้ว เหมือนที่เราเห็นว่าห้าม ส.ส.ออกมาพูดหลายเรื่อง ซึ่งนอกจากจะมีฝ่ายค้านแล้วยังมีองค์กรอื่นที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนในการช่วยตรวจสอบเช่นสื่อมวลชน สมาชิกวุฒิสภา”ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายชวน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลพยายามเบี่ยงเบนว่าฝ่ายค้านฉวยโอกาสในเรื่องนี้ ว่า ถ้าไม่มีการโกงเกิดขึ้น ฝ่ายค้านคงฉวยโอกาสทำเรื่องให้มีการโกงขึ้นมาคงทำไม่ได้ การตรวจสอบของฝ่ายค้านเป็นไปตามหน้าที่ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องพยายามทำความเข้าใจเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยมากกว่านี้ เพื่อที่จะรู้ว่าบทบาทของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่เข้าใจบทบาทแต่ละฝ่ายจะมีปัญหามาก และทำให้ไม่เข้าใจถึงหน้าที่และทำให้เกิดความเข้าใจไปว่าเป็นการเล่นการเมือง
“ที่เราได้ยินเวลาชี้แจงอะไรไม่ได้ก็บอกว่าอย่าเล่นการเมืองให้มากและก็พูดเหมือนกันหมดตั้งแต่หัวแถวถึงท้ายแถวคล้ายๆกันเลย” นายชวน กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองถึงกรณีที่รัฐบาลระบุว่าปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย แต่มาเปิดโปงในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งหมายความว่าที่ผ่านมามีความพยายามปกปิดใช่หรือไม่ ว่า ไม่คิดว่ารัฐบาลชุดใดจะปกปิด เว้นแต่นักการเมืองโกงเอง ความจริงรัฐบาลนี้ด้วยซ้ำที่มีหลายคนปกปิด และไม่ยอมรับกติกาตามที่ควรจะเป็น เช่น ปปช.ชี้มูลการทำผิดของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินหรือเรื่องหุ้น รัฐบาลชุดนี้ยังไม่ยอมรับ ซึ่งเห็นได้ชัดเจน
(ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์,30/11/2545)--จบ--
-สส-