จากกรณีที่นายวีระศักดิ์ ช่วยพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร ( ชสท.) ระบุว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายค้าน เพราะไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับ ชสท.นั้น นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตพันธุ์ข้าว ที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ( วิปฝ่ายค้าน ) ระบุว่า ไม่ติดใจอะไร เพราะก่อนหน้านี้นนายวีระศักดิ์ ก็มีความพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูล
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้ติดใจอะไร อย่างไรก็ตามตนไม่เคยกล่าวถึงเรื่อง “ ล้างบาง ” แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านทำไป ก็เป็นไปตามกระบวนการเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เพราะขณะนี้มีการไม่ได้ดูแลผลประโยชน์ต่อเกษตรกรเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเพิ่มภาระเพิ่มงบประมาณ เพื่อไปจ่ายเป็นค่านายหน้า ให้ ชสท. หรือการที่ไปซ้ำเติมเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ จากการที่ส่งปุ๋ยก็ดี ส่งข้าวก็ดี ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งในส่วนนี้ก็กระทบต่อชื่อเสียง เกียรติภูมิ ของขบวนการสหกรณ์การเกษตรทั้งระบบ จำเป็นที่จะต้องมีการสะสางปัญหาเหล่านี้
“ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประกวดราคานั้น ก็มีพฤติกรรมส่อว่า ชสท.จะทำผิดกฎหมาย ป้องกันการฮั้ว ถึง 2 โครงการ คือ โครงการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ กับโครงการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว แต่ก็เข้าใจว่า คุณ วีระศักดิ์ ช่วยพัฒน์ มีความตั้งใจที่จะไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว และเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ เพราะว่าพยายามบ่ายเบี่ยงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ”
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการตรวจสอบการทุจริตพันธุ์ข้าวด้วยว่า วันนี้ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปยังศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 12 จ.อุดรธานี ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์ฯ ก็ยอมรับว่าได้มีการตรวจรับและแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกรไปแล้ว จำนวน 2 ล้านกิโลกรัม. โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวซึ่งได้รับมา ก็เป็นลักษณะของข้าวเปลือกธรรมดาที่ไม่ใช่เมล็ดพันธุ์ และก็ไม่ทราบด้วยว่าส่งมาจากแหล่งไหน ซึ่งก็ตรงกับคำให้การของผู้ประกอบการโรงสีหนองหาร พรายง่วน ที่ระบุว่าได้ขายข้าวเปลือกที่ซื้อจากชาวนา ไม่ได้เป็นเมล็ดพันธุ์ แต่อย่างใด โดยขายไปในราคา ตันละ 6000 บาท ส่วนในช่วงบ่ายตนก็จะไปตรวจสอบที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 18 จ.สกลนคร ต่อไป
(ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์,17/12/2545)--จบ--
-สส-
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้ติดใจอะไร อย่างไรก็ตามตนไม่เคยกล่าวถึงเรื่อง “ ล้างบาง ” แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านทำไป ก็เป็นไปตามกระบวนการเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เพราะขณะนี้มีการไม่ได้ดูแลผลประโยชน์ต่อเกษตรกรเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเพิ่มภาระเพิ่มงบประมาณ เพื่อไปจ่ายเป็นค่านายหน้า ให้ ชสท. หรือการที่ไปซ้ำเติมเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ จากการที่ส่งปุ๋ยก็ดี ส่งข้าวก็ดี ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งในส่วนนี้ก็กระทบต่อชื่อเสียง เกียรติภูมิ ของขบวนการสหกรณ์การเกษตรทั้งระบบ จำเป็นที่จะต้องมีการสะสางปัญหาเหล่านี้
“ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประกวดราคานั้น ก็มีพฤติกรรมส่อว่า ชสท.จะทำผิดกฎหมาย ป้องกันการฮั้ว ถึง 2 โครงการ คือ โครงการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ กับโครงการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว แต่ก็เข้าใจว่า คุณ วีระศักดิ์ ช่วยพัฒน์ มีความตั้งใจที่จะไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว และเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ เพราะว่าพยายามบ่ายเบี่ยงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ”
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการตรวจสอบการทุจริตพันธุ์ข้าวด้วยว่า วันนี้ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปยังศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 12 จ.อุดรธานี ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์ฯ ก็ยอมรับว่าได้มีการตรวจรับและแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกรไปแล้ว จำนวน 2 ล้านกิโลกรัม. โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวซึ่งได้รับมา ก็เป็นลักษณะของข้าวเปลือกธรรมดาที่ไม่ใช่เมล็ดพันธุ์ และก็ไม่ทราบด้วยว่าส่งมาจากแหล่งไหน ซึ่งก็ตรงกับคำให้การของผู้ประกอบการโรงสีหนองหาร พรายง่วน ที่ระบุว่าได้ขายข้าวเปลือกที่ซื้อจากชาวนา ไม่ได้เป็นเมล็ดพันธุ์ แต่อย่างใด โดยขายไปในราคา ตันละ 6000 บาท ส่วนในช่วงบ่ายตนก็จะไปตรวจสอบที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 18 จ.สกลนคร ต่อไป
(ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์,17/12/2545)--จบ--
-สส-