กรุงเทพ--23 ม.ค.--กระทรวงต่างประเทศ
วันนี้ (22 มกราคม 2546) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในกรณีที่สหรัฐฯ อาจปฏิบัติการทางทหารต่ออิรัก เพื่อให้การดูแลและรักษาความปลอดภัยให้แก่คนไทยและแรงงานไทยที่เดินทางไปศึกษาและทำงานในภูมิภาคตะวันออกกลาง ดังนี้
1. การเตรียมการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ และรายงานความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อคนไทยและประเทศไทย ต่อสื่อมวลชน และประชาชนไทยที่มีความห่วงใยต่อบุตรหลาน ญาติพี่น้อง และแรงงานไทยที่พำนักอาศัยและทำงานในตะวันออกกลาง ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงฯ 3 คน ดูแลรับผิดชอบงานในด้านต่างๆ (นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ดูแลด้านแรงงานไทย นายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ ดูแลด้านการเตรียมการเคลื่อนย้ายคนไทยและแรงงานไทยไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย และนายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ ดูแลด้านการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน หรือ logistic) โดยให้รองปลัดกระทรวงฯ คนใดคนหนึ่งที่ไม่ติดภารกิจใดๆ ผลัดกันเป็นผู้สั่งการในการปฏิบัติงานของศูนย์ดังกล่าว ซึ่งจะเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกำหนดการในการเปิดศูนย์ฯ นั้น จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป เนื่องจากต้องพิจารณาติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวในตะวันออกกลางว่าจะมีทิศทางและแนวโน้มเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานกับกระทรวงแรงงานฯ อย่างใกล้ชิดในการเตรียมการให้ความช่วยเหลือ และเป็นศูนย์กลางติดต่อในส่วนที่เป็นแรงงานด้วย
2. การเตรียมความพร้อมด้านการดูแลและรักษาความปลอดภัยให้แก่คนไทยและแรงงานไทย ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้ไว้แล้วอย่างเต็มที่ โดยการประสานกับสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศที่คาดว่า จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ได้แก่ อิรัก คูเวต และอิสราเอล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยในการเดินทางไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย และเชื่อว่าจะสามารถทำการเคลื่อนย้ายคนไทยได้โดยทันที ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
อนึ่ง ในอิรักมีคนไทยพำนักอาศัยอยู่ประมาณ 107 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในอิรักจำนวน 70 คน และกำหนดจะสอบเสร็จประมาณวันที่ 28-29 มกราคม 2546 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแบกแดดได้จัดทำรายชื่อ สถานที่ติดต่อ และหมายเลขโทรศัพท์ไว้แล้ว เพื่อติดต่อและให้ความช่วยเหลือในทันทีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอลจำนวนประมาณ 26,000 คน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เตรียมการรักษาความปลอดภัย โดยเตรียมเช่าพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับแรงงานไทยเพื่อใช้ในการหลบภัยในกรณีที่อิรักอาจยิงขีปนาวุธเข้าไปยังอิสราเอล รวมทั้งได้เตรียมจัดซื้อหน้ากากป้องกันพิษสำหรับแจกจ่ายให้แก่ชาวไทยไว้ด้วยแล้ว และในกรณีของคนไทยในคูเวตซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 คน กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวตใช้มาตรการในการดูแลและรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกันกับในอิสราเอล
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-ศน-
วันนี้ (22 มกราคม 2546) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในกรณีที่สหรัฐฯ อาจปฏิบัติการทางทหารต่ออิรัก เพื่อให้การดูแลและรักษาความปลอดภัยให้แก่คนไทยและแรงงานไทยที่เดินทางไปศึกษาและทำงานในภูมิภาคตะวันออกกลาง ดังนี้
1. การเตรียมการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ และรายงานความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อคนไทยและประเทศไทย ต่อสื่อมวลชน และประชาชนไทยที่มีความห่วงใยต่อบุตรหลาน ญาติพี่น้อง และแรงงานไทยที่พำนักอาศัยและทำงานในตะวันออกกลาง ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงฯ 3 คน ดูแลรับผิดชอบงานในด้านต่างๆ (นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ดูแลด้านแรงงานไทย นายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ ดูแลด้านการเตรียมการเคลื่อนย้ายคนไทยและแรงงานไทยไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย และนายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ ดูแลด้านการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน หรือ logistic) โดยให้รองปลัดกระทรวงฯ คนใดคนหนึ่งที่ไม่ติดภารกิจใดๆ ผลัดกันเป็นผู้สั่งการในการปฏิบัติงานของศูนย์ดังกล่าว ซึ่งจะเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกำหนดการในการเปิดศูนย์ฯ นั้น จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป เนื่องจากต้องพิจารณาติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวในตะวันออกกลางว่าจะมีทิศทางและแนวโน้มเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานกับกระทรวงแรงงานฯ อย่างใกล้ชิดในการเตรียมการให้ความช่วยเหลือ และเป็นศูนย์กลางติดต่อในส่วนที่เป็นแรงงานด้วย
2. การเตรียมความพร้อมด้านการดูแลและรักษาความปลอดภัยให้แก่คนไทยและแรงงานไทย ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้ไว้แล้วอย่างเต็มที่ โดยการประสานกับสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศที่คาดว่า จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ได้แก่ อิรัก คูเวต และอิสราเอล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยในการเดินทางไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย และเชื่อว่าจะสามารถทำการเคลื่อนย้ายคนไทยได้โดยทันที ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
อนึ่ง ในอิรักมีคนไทยพำนักอาศัยอยู่ประมาณ 107 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในอิรักจำนวน 70 คน และกำหนดจะสอบเสร็จประมาณวันที่ 28-29 มกราคม 2546 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแบกแดดได้จัดทำรายชื่อ สถานที่ติดต่อ และหมายเลขโทรศัพท์ไว้แล้ว เพื่อติดต่อและให้ความช่วยเหลือในทันทีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอลจำนวนประมาณ 26,000 คน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เตรียมการรักษาความปลอดภัย โดยเตรียมเช่าพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับแรงงานไทยเพื่อใช้ในการหลบภัยในกรณีที่อิรักอาจยิงขีปนาวุธเข้าไปยังอิสราเอล รวมทั้งได้เตรียมจัดซื้อหน้ากากป้องกันพิษสำหรับแจกจ่ายให้แก่ชาวไทยไว้ด้วยแล้ว และในกรณีของคนไทยในคูเวตซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 คน กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวตใช้มาตรการในการดูแลและรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกันกับในอิสราเอล
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-ศน-