กระทรวงอุตสาหกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการกรุงเทพฯ: เมืองแฟชั่น โดยวางเป้าหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางแฟชั่นในเอเชียภายใน 3 ปี ขยายมูลค่าการส่งออกสินค้าแฟชั่นทั้งระบบ ชู 3 แผนงาน พัฒนาอุตสาหกรรม ทั้งด้านสร้งภาพลักษณ์ ตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้า และ พัฒนานักออกแบบ หวังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการกรุงเทพฯ: เมืองแฟชั่น ซึ่งเป็นการระดมความคิดเห็นระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแฟชั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการดังกล่าวเชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งระบบให้ขยายตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสิ่งทอ และ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และเครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ อีกทั้งยังเชื่อมต่อไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งระบบให้ขยายตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ผลที่คาดว่าได้รับ จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์แฟชั่น และลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก อีกทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการของแต่ละอุตสาหกรรมจะช่วยลดการนำเข้าวัตถุดิบ และหันมาใช้วัตถุดิบภายในประเทศมากขึ้น รวมถึงจะพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้จัดทำในรายละเอียดของแผนงานตามโครงการ กรุงเทพฯเมืองแฟชั่น โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงแผนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากในแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเดิมมีเพียงอุตสาหกรรมบางรายการเท่านั้น แต่เนื่องในแผนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมทั้งระบบเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกันมากที่สุด
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้เชิญภาคเอกชนมาให้ความเห็น เพื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ 1. แผนงานสร้างภาพลักษณ์ 2.แผนส่งเสริมศูนย์ธุรกิจแฟชั่น และ3.แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจแฟชั่น เพื่อให้อุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกันมีทิศทางเดียวกัน
สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำยุทธศาสตร์กรุงเทพฯเมืองแฟชั่น ที่จะเห็นเป็นรูปธรรในระยะแรกก่อน คือการสร้างศูนย์ธุรกิจแฟชั่น โดยใช้ ห้างสรรพสินค้า"โซโก้ " คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนเมษายน 2546 นี้ โดยจะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของตราสินค้าไทย นอกจากนี้ในแผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจแฟชั่น ได้วางเป้าหมายจะพัฒนาศักยภาพนักออกแบบไทย ให้มีความสามารถออกแบบสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากลได้ และเป้าหมายสุดท้าย คือทำให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งระบบ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-สส-
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการกรุงเทพฯ: เมืองแฟชั่น ซึ่งเป็นการระดมความคิดเห็นระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแฟชั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการดังกล่าวเชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งระบบให้ขยายตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสิ่งทอ และ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และเครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ อีกทั้งยังเชื่อมต่อไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งระบบให้ขยายตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ผลที่คาดว่าได้รับ จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์แฟชั่น และลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก อีกทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการของแต่ละอุตสาหกรรมจะช่วยลดการนำเข้าวัตถุดิบ และหันมาใช้วัตถุดิบภายในประเทศมากขึ้น รวมถึงจะพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้จัดทำในรายละเอียดของแผนงานตามโครงการ กรุงเทพฯเมืองแฟชั่น โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงแผนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากในแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเดิมมีเพียงอุตสาหกรรมบางรายการเท่านั้น แต่เนื่องในแผนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมทั้งระบบเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกันมากที่สุด
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้เชิญภาคเอกชนมาให้ความเห็น เพื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ 1. แผนงานสร้างภาพลักษณ์ 2.แผนส่งเสริมศูนย์ธุรกิจแฟชั่น และ3.แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจแฟชั่น เพื่อให้อุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกันมีทิศทางเดียวกัน
สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำยุทธศาสตร์กรุงเทพฯเมืองแฟชั่น ที่จะเห็นเป็นรูปธรรในระยะแรกก่อน คือการสร้างศูนย์ธุรกิจแฟชั่น โดยใช้ ห้างสรรพสินค้า"โซโก้ " คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนเมษายน 2546 นี้ โดยจะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของตราสินค้าไทย นอกจากนี้ในแผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจแฟชั่น ได้วางเป้าหมายจะพัฒนาศักยภาพนักออกแบบไทย ให้มีความสามารถออกแบบสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากลได้ และเป้าหมายสุดท้าย คือทำให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งระบบ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-สส-