“ชวน” แสดงความคิดเห็น มาตรการปราบยาเสพติดขั้นเด็ดขาด หวั่น ผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบกรณีฆ่าผิดตัว และอาจเป็นปัญหาที่ไม่จบสิ้น แนะ ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง เชื่อ หากมีข้อมูลก็สามารถจัดการผู้กระทำผิดตามกฎหมายได้
นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การวัดความสำเร็จในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ทางจังหวัดต้องดูตามข้อเท็จจริงว่าเกิดจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือตำรวจไม่เอาใจใส่จริงหรือไม่ ถ้าเกิดจากกความไม่เอาใจใส่จริงก็ควรโดนตำหนิ แต่ถ้าจะไม่เอาตัวเลขของคนที่ถูกยิงทิ้งมาวัดก็คงจะไม่ได้ เพราะในบางจังหวัดมีการรณรงค์ในเรื่องอย่างนี้มาเป็นเวลานาน พยายามที่จะให้เยาวชนและประชาชนรู้ถึงปัญหาและหลีกเลี่ยงยาเสพติดทุกชนิด จึงส่งผลให้ปัญหาความรุนแรงลดลงไปเรื่อยๆ แต่บางจังหวัดไม่สนใจรณรงค์แล้วมายิงทิ้งเยอะๆ ตอนที่มีนโยบายแก้ปัญหาแล้วก็ถือว่าสิ่งที่ทำคือความสำเร็จ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ก็คงผิด เพราะฉะนั้นอยู่ที่ข้อเท็จจริงของแต่ละพื้นที่
“อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าสัญญาณการยิงทิ้งมันผิดแน่ๆ เพราะจะทำให้คนบริสุทธิ์มีปัญหาในอนาคตและจะกลายเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้น แต่ถ้าใช้วิธีตามกระบวนการยุติธรรมก็จะช่วยป้องกันสุจริตชนได้ เพราะโดยหลักแล้วถือว่า หากมีข้อสงสัยหรือข้องใจอะไร ควรที่จะมีการตรวจสอบที่ชัดเจน ถ้ารู้ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแน่ๆ ก็ต้องจับกุมและให้อัยการเป็นผู้ฟ้อง และศาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าควรจะประหารชีวิตหรือไม่” นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่า หากการปราบปรามยึดหลักกฎหมายอย่างเดียว บางครั้งหลักฐานพยานไม่มีแต่ว่ามีข้อมูลยืนยันว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด นายชวน กล่าวว่า ถ้าข้อมูลยืนยันได้ก็ต้องเอาข้อมูลที่มีมายืนยัน แต่ถ้าหากกระบวนการกฎหมายเอาผิดไม่ได้ จะยึดหลักการใด เพราะหากปฏิบัติตามความเชื่อเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ หากแน่ใจว่าบุคคลนั้นกระทำความผิด ตนคิดว่าก็สามารถนำข้อมูลมายืนยันได้ หากวันนี้หลักฐานยังไม่พอ แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาดู ตนคิดว่าไม่วันใดวันหนึ่งผู้กระทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ
“แต่หากบุคคลนั้นสุจริตแล้วเราไปยิงทิ้ง เราจะไปเอาชีวิตคืนมาก็คงจะไม่ได้ ถ้าเราไม่ใช้หลักกฎหมายบ้านเมืองมาปกป้อง แล้วเราเอาความรู้สึกปกป้อง เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องยึดหลักด้วย ในขณะนี้ไม่มีใครที่กล้าจะออกมาพูดสวนกระแส เพราะมีความรู้สึกว่าคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นควรจะตาย แต่ว่าความตายต้องเกิดมาจากคำพิพากษา” นายชวนกล่าว
(ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์,21/2/2546)--จบ--
-สส-
นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การวัดความสำเร็จในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ทางจังหวัดต้องดูตามข้อเท็จจริงว่าเกิดจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือตำรวจไม่เอาใจใส่จริงหรือไม่ ถ้าเกิดจากกความไม่เอาใจใส่จริงก็ควรโดนตำหนิ แต่ถ้าจะไม่เอาตัวเลขของคนที่ถูกยิงทิ้งมาวัดก็คงจะไม่ได้ เพราะในบางจังหวัดมีการรณรงค์ในเรื่องอย่างนี้มาเป็นเวลานาน พยายามที่จะให้เยาวชนและประชาชนรู้ถึงปัญหาและหลีกเลี่ยงยาเสพติดทุกชนิด จึงส่งผลให้ปัญหาความรุนแรงลดลงไปเรื่อยๆ แต่บางจังหวัดไม่สนใจรณรงค์แล้วมายิงทิ้งเยอะๆ ตอนที่มีนโยบายแก้ปัญหาแล้วก็ถือว่าสิ่งที่ทำคือความสำเร็จ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ก็คงผิด เพราะฉะนั้นอยู่ที่ข้อเท็จจริงของแต่ละพื้นที่
“อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าสัญญาณการยิงทิ้งมันผิดแน่ๆ เพราะจะทำให้คนบริสุทธิ์มีปัญหาในอนาคตและจะกลายเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้น แต่ถ้าใช้วิธีตามกระบวนการยุติธรรมก็จะช่วยป้องกันสุจริตชนได้ เพราะโดยหลักแล้วถือว่า หากมีข้อสงสัยหรือข้องใจอะไร ควรที่จะมีการตรวจสอบที่ชัดเจน ถ้ารู้ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแน่ๆ ก็ต้องจับกุมและให้อัยการเป็นผู้ฟ้อง และศาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าควรจะประหารชีวิตหรือไม่” นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่า หากการปราบปรามยึดหลักกฎหมายอย่างเดียว บางครั้งหลักฐานพยานไม่มีแต่ว่ามีข้อมูลยืนยันว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด นายชวน กล่าวว่า ถ้าข้อมูลยืนยันได้ก็ต้องเอาข้อมูลที่มีมายืนยัน แต่ถ้าหากกระบวนการกฎหมายเอาผิดไม่ได้ จะยึดหลักการใด เพราะหากปฏิบัติตามความเชื่อเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ หากแน่ใจว่าบุคคลนั้นกระทำความผิด ตนคิดว่าก็สามารถนำข้อมูลมายืนยันได้ หากวันนี้หลักฐานยังไม่พอ แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาดู ตนคิดว่าไม่วันใดวันหนึ่งผู้กระทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ
“แต่หากบุคคลนั้นสุจริตแล้วเราไปยิงทิ้ง เราจะไปเอาชีวิตคืนมาก็คงจะไม่ได้ ถ้าเราไม่ใช้หลักกฎหมายบ้านเมืองมาปกป้อง แล้วเราเอาความรู้สึกปกป้อง เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องยึดหลักด้วย ในขณะนี้ไม่มีใครที่กล้าจะออกมาพูดสวนกระแส เพราะมีความรู้สึกว่าคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นควรจะตาย แต่ว่าความตายต้องเกิดมาจากคำพิพากษา” นายชวนกล่าว
(ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์,21/2/2546)--จบ--
-สส-