นายตรีพล เจาะจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของนายอดิศัย โพธารามิก รมว.พาณิชย์ โดยกล่าวว่า ตนไม่สามารถที่จะไว้วางใจรมว.พาณิชย์ได้ในหลายประการ อย่างเช่น 1.การบริหารราชการแผ่นดินที่บกพร่องและล้มเหลว 2.ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงาน 3. ไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายที่เคยแถลงไว้ต่อสภาฯ 4. บางนโยบายเอื้อประโยชน์พวกพ้อง 5.ละเลยการกำกับ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า รมว.พาณิชย์บริหารงานแบบ “ล้มเหลวครบวงจร”
ประเด็นที่รมว.พาณิชย์ ไม่สามารถทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาและสิ่งที่สัญญากับประชาชนได้ นายตรีพล ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่า จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรของประเทศให้ดีขึ้น แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการประชาสัมพันธ์เฉพาะสินค้าเกาตรที่มีราคาสูงขึ้นให้ประชาชนได้รับทราบ แต่มีสินค้าเกษตรหลายชนิดที่ราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่นราคาลำไย ลิ้นจี่ กุ้งกุลาดำ ไข่ไก่ และอีกหลายชนิด ซึ่งรัฐบาลไม่เคยกล่าวถึง ซึ่งหากรัฐบาลจะอ้างว่า ได้ตั้งกรรมการสอบในเรื่องของราคาแล้ว ตนคิดว่าไม่ใช่พฤติกรรมของคนที่เป็นผู้นำ เพราะจะต้องมีการตรวจสอบแต่ต้น ไม่ใช่เกิดเรื่องแล้วค่อยมาตรวจสอบ
นายตรีพล ยังได้ยกตัวอย่างสินค้าเกษตรที่ประสบปัญหาในภาคเหนือคือ ลำไยที่มีราคาตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลได้แก้ปัญหาโดยจัดโครงการ รับจำนำลำไยอบแห้งปี 2545 รัฐบาลได้กำหนดวิธีการรับจำนำที่ผิดพลาด ทำให้เกิดการทุจริตถึง 14 รายการคิดเป็นจำนวนลำไยที่โดนคดี 42 ล้านกิโลกรัม จากการรับจำนำทั้งหมด 80 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้ตนคิดว่าปัญหาทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้น หากกระทรวงพาณิชย์วางแผนการตลาดที่ดี ในจำนวน 80 ล้านกิโลกรัม มีเกษตรกรมาไถ่ถอน 18 กิโลกรัม จะเหลือลำไยที่หลุดจำนวนจำนวน 61 ล้านกิโลกรัม โดยจะต้องเอาลำไยที่หลุดจำนำไปขาย แต่กระทรวงพาณิชย์ได้จำกัดคุณสมบัติของผู้รับซื้อไว้สูงมาก ซึ่งมีเพียง 1 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งรับซื้อไปจำนวน 40 ล้านกิโลกรัม ทำให้สินค้าล้นตลาด ตนจึงอยากขอคำยืนยันจากรมว.พาณิชย์ ว่าจะจัดการกับลำไยที่ล้นตลาดให้ได้ภายใน 3 เดือน เพราะลำไยฤดูกาลใหม่กำลังจะออกผลผลิต และจะทำให้พ่อค้ากดราคาให้ตกต่ำลง นอกจากนี้ตนต้องการให้รมว.พาณิชย์ระบุถึงตัวเลขสัญญาค้ำประกันที่ทำไว้กับบริษัทดังกล่าวว่าเป็นจำนวนเท่าใด และขณะนี้เงินประกันอยู่ที่ใด
สำหรับปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน นายตรีพล กล่าวว่า จากคำพูดของนายอดิศัย ที่กล่าวปราศรัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าปาล์มจะต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ชาวบ้านระดมปลูกปาล์มเพราะหวังว่าราคาจะสูงขึ้นดังที่รมว.พาณิชย์ให้สัญญาไว้ แต่หลังจากนั้นได้มีการอนุญาตให้ปาล์มน้ำมันนำเข้ามาในประเทศแบบนอกโควต้าจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีราคาถูกกว่าปาล์มที่ผลิตในประเทศไทย โดยไม่มีการควบคุมหรือเข้ามาดูแล ทำให้ปาล์มน้ำมันในประเทศไม่มีบริษัทรับซื้อ ทำให้ราคายิ่งตกต่ำลงไป นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งบริษัทแบบเอาแต่พวกพ้อง โดยมีการจัดตั้ง หจก.สุธาทิพ ในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีไม่ต้องจ่ายถึง 144.6% แต่เมื่อตนไปตรวจสอบพบว่ามีเพียงโกดังและนำเพียงป้ายชื่อไปติดไว้ แสดงเห็นถึงพฤติกรรมที่ส่อความไม่ชอบมาพากล และด้วยเหตุผลดังกล่าวตนจึงไม่สามารถที่จะไว้ใจ นายอดิศัย โพธารามิก รมว.พาณิชย์ได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ - 28/5/2546--จบ--
-นค-
ประเด็นที่รมว.พาณิชย์ ไม่สามารถทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาและสิ่งที่สัญญากับประชาชนได้ นายตรีพล ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่า จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรของประเทศให้ดีขึ้น แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการประชาสัมพันธ์เฉพาะสินค้าเกาตรที่มีราคาสูงขึ้นให้ประชาชนได้รับทราบ แต่มีสินค้าเกษตรหลายชนิดที่ราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่นราคาลำไย ลิ้นจี่ กุ้งกุลาดำ ไข่ไก่ และอีกหลายชนิด ซึ่งรัฐบาลไม่เคยกล่าวถึง ซึ่งหากรัฐบาลจะอ้างว่า ได้ตั้งกรรมการสอบในเรื่องของราคาแล้ว ตนคิดว่าไม่ใช่พฤติกรรมของคนที่เป็นผู้นำ เพราะจะต้องมีการตรวจสอบแต่ต้น ไม่ใช่เกิดเรื่องแล้วค่อยมาตรวจสอบ
นายตรีพล ยังได้ยกตัวอย่างสินค้าเกษตรที่ประสบปัญหาในภาคเหนือคือ ลำไยที่มีราคาตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลได้แก้ปัญหาโดยจัดโครงการ รับจำนำลำไยอบแห้งปี 2545 รัฐบาลได้กำหนดวิธีการรับจำนำที่ผิดพลาด ทำให้เกิดการทุจริตถึง 14 รายการคิดเป็นจำนวนลำไยที่โดนคดี 42 ล้านกิโลกรัม จากการรับจำนำทั้งหมด 80 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้ตนคิดว่าปัญหาทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้น หากกระทรวงพาณิชย์วางแผนการตลาดที่ดี ในจำนวน 80 ล้านกิโลกรัม มีเกษตรกรมาไถ่ถอน 18 กิโลกรัม จะเหลือลำไยที่หลุดจำนวนจำนวน 61 ล้านกิโลกรัม โดยจะต้องเอาลำไยที่หลุดจำนำไปขาย แต่กระทรวงพาณิชย์ได้จำกัดคุณสมบัติของผู้รับซื้อไว้สูงมาก ซึ่งมีเพียง 1 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งรับซื้อไปจำนวน 40 ล้านกิโลกรัม ทำให้สินค้าล้นตลาด ตนจึงอยากขอคำยืนยันจากรมว.พาณิชย์ ว่าจะจัดการกับลำไยที่ล้นตลาดให้ได้ภายใน 3 เดือน เพราะลำไยฤดูกาลใหม่กำลังจะออกผลผลิต และจะทำให้พ่อค้ากดราคาให้ตกต่ำลง นอกจากนี้ตนต้องการให้รมว.พาณิชย์ระบุถึงตัวเลขสัญญาค้ำประกันที่ทำไว้กับบริษัทดังกล่าวว่าเป็นจำนวนเท่าใด และขณะนี้เงินประกันอยู่ที่ใด
สำหรับปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน นายตรีพล กล่าวว่า จากคำพูดของนายอดิศัย ที่กล่าวปราศรัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าปาล์มจะต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ชาวบ้านระดมปลูกปาล์มเพราะหวังว่าราคาจะสูงขึ้นดังที่รมว.พาณิชย์ให้สัญญาไว้ แต่หลังจากนั้นได้มีการอนุญาตให้ปาล์มน้ำมันนำเข้ามาในประเทศแบบนอกโควต้าจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีราคาถูกกว่าปาล์มที่ผลิตในประเทศไทย โดยไม่มีการควบคุมหรือเข้ามาดูแล ทำให้ปาล์มน้ำมันในประเทศไม่มีบริษัทรับซื้อ ทำให้ราคายิ่งตกต่ำลงไป นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งบริษัทแบบเอาแต่พวกพ้อง โดยมีการจัดตั้ง หจก.สุธาทิพ ในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีไม่ต้องจ่ายถึง 144.6% แต่เมื่อตนไปตรวจสอบพบว่ามีเพียงโกดังและนำเพียงป้ายชื่อไปติดไว้ แสดงเห็นถึงพฤติกรรมที่ส่อความไม่ชอบมาพากล และด้วยเหตุผลดังกล่าวตนจึงไม่สามารถที่จะไว้ใจ นายอดิศัย โพธารามิก รมว.พาณิชย์ได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ - 28/5/2546--จบ--
-นค-