ไทย-สิงคโปร์ โชว์ศักยภาพการผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ในงาน STEER Automotive Forum จับมือ 60 บริษัทร่วมแสดงผลงาน พร้อมเปิดโอกาสให้เอกชนใช้เป็นเวทีร่วมลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม และเตรียมความพร้อมสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจใกล้ชิดของ 2 ประเทศ
นายดำริ สุโขธนัง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้( 24 กรกฎาคม) นับเป็นก้าวใหม่ของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทยและสิงคโปร์อย่างแท้จริง โดยมีภาครัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่าย ได้แก่ สศอ. สถาบันยานยนต์ และ IE Singapore และตัวแทนภาคเอกชนไทย ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย(TAPMA) ให้ความสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศได้ร่วมแสดงผลงานและศักยภาพการผลิตของผู้ประกอบการในสาขาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ และเป็นเวทีให้แต่ละฝ่ายได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาภาคการผลิตของอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน และการพัฒนาศักยภาพในการส่งออกไปยังประเทศอื่น
การจัดงานในครั้งนี้ มีผลสืบเนื่องมาจากการที่นายกรัฐมนตรีไทยและสิงคโปร์ ได้พบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของการเร่งการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งประชาคมทางเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในอนาคต โดยการเร่งให้เกิดการเปิดเสรีการค้า การบริการ และการลงทุน การสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเกื้อกูลกัน โดยเริ่มจากการนำจุดแข็งของแต่ละประเทศมาร่วมกันพิจารณาเพื่อหาทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเริ่มจากกอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ และอุตสาหกรรมอาหาร
ความร่วมมือไทย-สิงคโปร์ที่มีขึ้น นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาเพื่อนำไปสู่กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่เข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศนำโดย TAPMA ของไทยและ SPETA ซึ่งเป็นหน่วยงานของสิงคโปร์ที่รับผิดชอบงานด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนประกอบยังได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดตั้ง Singapore — Thailand Automotive Club เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการสานต่อการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ของทั้งสองประเทศ และเป็นเวทีของภาคเอกชนในการขยายความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานขององค์กรร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ไทยจะได้ประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยีและเครือข่ายในด้านการตลาดที่กว้างขวางของสิงคโปร์
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
นายดำริ สุโขธนัง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้( 24 กรกฎาคม) นับเป็นก้าวใหม่ของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทยและสิงคโปร์อย่างแท้จริง โดยมีภาครัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่าย ได้แก่ สศอ. สถาบันยานยนต์ และ IE Singapore และตัวแทนภาคเอกชนไทย ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย(TAPMA) ให้ความสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศได้ร่วมแสดงผลงานและศักยภาพการผลิตของผู้ประกอบการในสาขาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ และเป็นเวทีให้แต่ละฝ่ายได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาภาคการผลิตของอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน และการพัฒนาศักยภาพในการส่งออกไปยังประเทศอื่น
การจัดงานในครั้งนี้ มีผลสืบเนื่องมาจากการที่นายกรัฐมนตรีไทยและสิงคโปร์ ได้พบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของการเร่งการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งประชาคมทางเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในอนาคต โดยการเร่งให้เกิดการเปิดเสรีการค้า การบริการ และการลงทุน การสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเกื้อกูลกัน โดยเริ่มจากการนำจุดแข็งของแต่ละประเทศมาร่วมกันพิจารณาเพื่อหาทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเริ่มจากกอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ และอุตสาหกรรมอาหาร
ความร่วมมือไทย-สิงคโปร์ที่มีขึ้น นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาเพื่อนำไปสู่กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่เข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศนำโดย TAPMA ของไทยและ SPETA ซึ่งเป็นหน่วยงานของสิงคโปร์ที่รับผิดชอบงานด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนประกอบยังได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดตั้ง Singapore — Thailand Automotive Club เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการสานต่อการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ของทั้งสองประเทศ และเป็นเวทีของภาคเอกชนในการขยายความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานขององค์กรร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ไทยจะได้ประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยีและเครือข่ายในด้านการตลาดที่กว้างขวางของสิงคโปร์
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-