นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคระชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ข่าวยามเช้า ทางคลื่นวิทยุ101.0 เมกะเฮิรต์ ถึงกรณีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญรับตีความพรก.ก่อการร้าย เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ว่า เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้านอยู่แล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนสนับสนุนการปราบปรามการก่อการร้าย แต่ก็ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลถึงความจำเป็นที่ต้องออกเป็น พรก.เพราะเมื่อพิจารณาการจับกุมผู้ก่อการร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้ว จะเห็นได้ว่ารัฐบาลใช้กฎหมายฉบับเดิมคือ พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้ใช้ พรก.ฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อไปศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตีความ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานว่ากฎหมายลักษณะนี้ควรออกเป็นพระราชกำหนดหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอการพิจารณาของศาลว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรัฐบาลคงไม่สามารถชี้แจงถึงเหตุผลในตอนนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้กฎหมายดังกล่าวก็ยังมีผลบังคับใช้อยู่ เพราะตามรัฐธรรมนูญ การยื่นตีความไม่ได้มีผลทำให้การบังคับใช้กฎหมายหยุดชะงักแต่ประการใด ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้คือ การที่รัฐบาลออกเป็น พรก. โดยไม่เปิดโอกาสให้สภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิจารณาแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เพราะถ้อยคำบางมาตราอาจถูกนำไปตีความ ซึ่งอาจจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเคลื่อนไหวตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยได้
อย่าลืมว่ารัฐบาลมีเวลามานานพอสมควรตั้งแต่ 11 ก.ย.44 ที่จะเสนอกฎหมายเป็นพระราชบัญญัติ แล้วเราก็จะได้ช่วยกันดูให้รัดกุม ผมย้ำอีกครั้งว่าในช่วงที่ผ่านมา เกิดปัญหาที่เจ้าหน้าที่ตีความกฎหมายในลักษณะที่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน มีให้เห็นอยู่ทั่วไปอยู่ และการไปเพิ่มโทษแล้วเสี่ยงต่อความไม่รัดกุมก็จะเป็นปัญหาได้ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นการใช้กฎหมายฟอกเงิน ที่ผมคิดว่าผิดเจตนารมย์และไม่ได้มีการแก้ไขชัดเจน ซึ่งในกฎหมายฉบับนี้หากมีการใช้ในทางที่ผิดอีกก็จะเป็นอันตรายได้ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ - 20/8/2546--จบ--
-สส-
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อไปศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตีความ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานว่ากฎหมายลักษณะนี้ควรออกเป็นพระราชกำหนดหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอการพิจารณาของศาลว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรัฐบาลคงไม่สามารถชี้แจงถึงเหตุผลในตอนนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้กฎหมายดังกล่าวก็ยังมีผลบังคับใช้อยู่ เพราะตามรัฐธรรมนูญ การยื่นตีความไม่ได้มีผลทำให้การบังคับใช้กฎหมายหยุดชะงักแต่ประการใด ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้คือ การที่รัฐบาลออกเป็น พรก. โดยไม่เปิดโอกาสให้สภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิจารณาแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เพราะถ้อยคำบางมาตราอาจถูกนำไปตีความ ซึ่งอาจจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเคลื่อนไหวตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยได้
อย่าลืมว่ารัฐบาลมีเวลามานานพอสมควรตั้งแต่ 11 ก.ย.44 ที่จะเสนอกฎหมายเป็นพระราชบัญญัติ แล้วเราก็จะได้ช่วยกันดูให้รัดกุม ผมย้ำอีกครั้งว่าในช่วงที่ผ่านมา เกิดปัญหาที่เจ้าหน้าที่ตีความกฎหมายในลักษณะที่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน มีให้เห็นอยู่ทั่วไปอยู่ และการไปเพิ่มโทษแล้วเสี่ยงต่อความไม่รัดกุมก็จะเป็นปัญหาได้ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นการใช้กฎหมายฟอกเงิน ที่ผมคิดว่าผิดเจตนารมย์และไม่ได้มีการแก้ไขชัดเจน ซึ่งในกฎหมายฉบับนี้หากมีการใช้ในทางที่ผิดอีกก็จะเป็นอันตรายได้ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ - 20/8/2546--จบ--
-สส-