ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท. ระบุยังไม่สามารถประเมินผลมาตรการป้องกันการเก็งกำไรได้อย่างชัดเจน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ยังไม่สามารถประเมินผลมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทได้อย่างชัดเจนหลังจากใช้
มาตรการล่าสุดเมื่อ 14 ต.ค. 46 ที่ผ่านมา เนื่องจากยังเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไปควรจะต้องรอประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จาก
การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวแล้วส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับกรณีการออกมาตรการทาง
ภาษีเพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทนั้นจะต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งไม่สามารทำพร้อมกันหลายมาตรการได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่า ธปท. จะสามารถดูแลจัดการในเรื่องการเก็งกำไรได้ (บ้านเมือง, ไทยรัฐ, กรุงเทพธุรกิจ, เดลิ
นิวส์, แนวหน้า)
2. มูดี้ส์เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ ธ.ไทยพาณิชย์ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (มูดี้ส์) เผยแพร่เอกสารผลการ
พิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของ ธ.ไทยพาณิชย์ โดยปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารจาก
D- เป็น D ส่งผลให้อันดับแนวโน้มความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารมีเสถียรภาพตามไปด้วย ขณะที่ยังคงอันดับความน่าเชื่อ
ถือหุ้นกู้และเงินฝากของธนาคาร นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มปรับอันดับฯ ให้แก่ ธพ. อื่นอีก 4 แห่งในเร็ว ๆ นี้ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ก.ล.ต. เร่งเสริมประสิทธิภาพความมั่นคงแก่ บลจ. ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. จะดำเนินการขยายฐานนักลงทุนให้มากขึ้น โดยการให้ความรู้เกี่ยว
กับกองทุนรวมผ่านสื่อต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) ให้มีการบริหารจัดการอย่างมั่นคง
และมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต. ได้จัดทำหลักเกณฑ์มาใช้ในการกำกับดูแลฐานะของ บลจ. ซึ่งอยู่ระหว่างการทำประชา
พิจารณ์กับ บลจ. ต่าง ๆ ในเบื้องต้นมีความเห็นว่า บลจ. ควรมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการทำธุรกิจต่อเนื่องได้ถึง 6 เดือน
หรือมีส่วนผู้ถือหุ้นขั้นต่ำ 20 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ต้นปี 47 (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
4. สศอ. เปิดผลศึกษาโครงสร้างอุตสาหกรรมหลังวิกฤตพบการแข่งขัน-มูลค่าเพิ่มลด สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
(สศอ.) จัดสัมมนาผลวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมช่วงก่อนและหลังวิกฤติเศรษฐกิจ จากทีมนักวิชาการ
คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรม 13 ประเภท พบว่า โครงสร้างเกี่ยวกับมูลค่าเพิ่มในช่วง
หลังวิกฤตินับแต่ปี 42 เป็นต้นมา เทียบกับช่วงก่อนวิกฤติมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก คือจากระดับ 9.12 เป็นระดับ 10.06 โดยมี
อัตราการเปลี่ยนแปลงติดลบ 17.91 โดยมีปัจจัยจากการที่ผู้ประกอบการต้องเร่งส่งออกมากขึ้น เพราะหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ
ในประเทศหดตัวรุนแรง นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้นในตลาดส่งออกโดยเฉพาะด้านราคา (กรุงเทพธุรกิจ, แนว
หน้า)
5. คณะกรรมการค่าจ้างกลางมีมติให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1-4 บาท ปลัด ก.แรงงาน เปิดเผยว่า ที่
ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลางมีมติให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1-4 บาทใน 41 จังหวัด จากที่การเสนอทั้งสิ้น 48
จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้ปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นสูงสุดวันละ 4 บาทคือ สมุทรสงคราม และอีก 40 จังหวัดได้เพิ่มขึ้น 1-3 บาท ส่วน 7
จังหวัดที่ยังหาข้อยุติไม่ได้เนื่องจากคณะกรรมการค่าจ้างฝ่ายลูกจ้างไม่เห็นด้วย (โพสต์ทูเดย์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ธนาคารกลางสรอ.กล่าวว่าเศรษฐกิจสรอ.ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 46
ธนาคารกลางสรอ. เปิดเผยว่าเศรษฐกิจ สรอ .อยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยอย่างแข็งแกร่ง
และภาคอุตสาหกรรรมการผลิตขยายตัว แม้ว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ ก็ตาม แต่มีการปรับตัวดีขึ้นในบางรัฐ ธพ.
ท้องถิ่นของสรอ. กล่าวว่าเศรษฐกิจ สรอ.ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ.ในไตรมาสที่
3 ขยายตัวในอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่หลังปี 42 และคาดว่าธนาคารกลาง สรอ. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า แต่หลังจากที่รัฐ
บาลสรอ. ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ธ.กลางสรอ.กล่าวว่าอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในอยู่ในระดับต่ำในช่วงที่มีความสำคัญนี้โดย
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนปัจจุบันอยู่ในระดับร้อยละ 1 ต่ำสุดในรอบ 45 ปี นอกจากนั้นยังพบว่า ไม่มีแรงกดดันเกี่ยวกับภาวะเงิน
เฟ้อ ราคาสินค้าสำเร็จรูปโดยทั่วไปมีเสถียรภาพ ขณะที่ค่าจ้างเริ่มสูงขึ้นพอประมาณ (รอยเตอร์)
2. ยอดการค้าปลีกโดยรวมของ สรอ.ในเดือน ก.ย.46 ลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน เม.ย.46 รายงานจาก
วอชิงตัน เมื่อ 15 ต.ค.46 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกโดยรวมของ สรอ.ในเดือน ก.ย.46 ซึ่งไม่นับรวม
หมวดรถยนต์ มีมูลค่า 320.58 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือลดลงร้อยละ 0.2 นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน เม.ย.46
อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่แท้จริงเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้
ยอดขายในเดือน ส.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ขณะที่ยอดขายในเดือน ก.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ
1.4 จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 สำหรับยอดขายหมวดรถยนต์ในเดือน ก.ย.46 ลดลงร้อยละ 1.6 ซึ่งลดลงมากที่สุดตั้งแต่
เดือน ก.พ.46 แต่ในหมวดอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งหมวดวัสดุก่อสร้างและเครื่องแต่งกายกลับเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้นักวิเคราะห์
เฝ้าติดตามตัวเลขยอดการค้าปลีกโดยรวมอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 2
ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ สรอ.(รอยเตอร์)
3. คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยในปี 46 และ ปี 47 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 15 ต.ค.46 ผล
สำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยร้อยละ 2.0 ในปี 46 และขยาย
ตัวช้าลงเหลือร้อยละ 1.1 ในปี 47 โดยยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืดและอัตราการว่างงานที่คาดว่าจะอยู่ในระดับร้อยละ 5.3 ทั้ง
ในปี 46 และ ปี 47 แม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม แต่การใช้จ่ายของผู้
บริโภคซึ่งเป็นองค์ประกอบใหญ่สุดของเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงชะลอตัว ค่าเงินเยนซึ่งแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 7 ตั้งแต่เดือนที่แล้วเมื่อเทียบ
กับเงินดอลลาร์ สรอ. ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออกและทำให้สินค้าส่งออกมีราคาสูงขึ้น และเป็นประเด็นที่ทำให้ทั้ง ธ.
กลางและรัฐบาลกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งมีการส่งออกเป็นตัวนำในขณะนี้ (รอยเตอร์)
4. ดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลเซียในเดือน ก.ย.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบต่อปี รายงานจากกัวลาลัมเปอร์ เมื่อ
15 ต.ค.46 สำนักงานสถิติมาเลเซีย เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลซียในเดือน ก.ย.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับ
เดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในหมวดยารักษาโรค และ
หมวดการขนส่ง ติดต่อสื่อสารที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.9 ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคในรอบ 9 เดือนของปี 46 (ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบต่อปี โดยสำนักงานสถิติคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียจะอยู่ประมาณร้อยละ 1.5 ในปี 46 จากร้อยละ
1.8 ในปีก่อน (รอยเตอร์)
5. อัตราการว่างงานเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.46 อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 22 รายงานจากโซล เมื่อ 16
ต.ค.46 สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.46 อยู่ที่ระดับร้อยละ 3.5
(ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) นับว่าอยู่ในระดับต่ำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 จากที่เคยอยู่ในระดับสูงสุดที่ร้อยละ 3.6 เมื่อเดือน ก.ค.46
และในระดับต่ำสุดเมื่อเดือน ก.ย.45 ที่ระดับร้อยละ 2.9 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้กำลังฟื้นตัว ส่วนตัวเลข
ก่อนปรับฤดูกาล เกาหลีใต้มีอัตราการว่างงานในเดือน ก.ย.46 ลดลงเหลือร้อยละ 3.2 จากร้อยละ 3.3 ในเดือนก่อนหน้า นอก
จากนี้ จำนวนผู้มีงานทำในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 22.30 ล้านคน จากจำนวน 22.13 ล้านคน เนื่องจากมีจำนวนผู้มีงานทำมากขึ้น
ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ จากตัวเลขในตลาดแรงงานทำให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะ
ขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของร้อยละ 6.3 ที่เป็นอัตราการเติบโตทั้งปี 45 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16/10/46 15/10/46 27/12/45 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.972 43.24 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.8289/40.1290 42.9993/43.3039 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.25 1.8750-1.9375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 576.10/25.26 356.48/3.27 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,050/7,150 7,050/7,150 7,000/7,100 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.72 29.42 27.65 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่ม เมื่อ 15 ต.ค. 46 16.39*/13.79* 16.39*/13.79* 16.19/14.29 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. ระบุยังไม่สามารถประเมินผลมาตรการป้องกันการเก็งกำไรได้อย่างชัดเจน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ยังไม่สามารถประเมินผลมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทได้อย่างชัดเจนหลังจากใช้
มาตรการล่าสุดเมื่อ 14 ต.ค. 46 ที่ผ่านมา เนื่องจากยังเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไปควรจะต้องรอประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จาก
การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวแล้วส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับกรณีการออกมาตรการทาง
ภาษีเพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทนั้นจะต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งไม่สามารทำพร้อมกันหลายมาตรการได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่า ธปท. จะสามารถดูแลจัดการในเรื่องการเก็งกำไรได้ (บ้านเมือง, ไทยรัฐ, กรุงเทพธุรกิจ, เดลิ
นิวส์, แนวหน้า)
2. มูดี้ส์เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ ธ.ไทยพาณิชย์ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (มูดี้ส์) เผยแพร่เอกสารผลการ
พิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของ ธ.ไทยพาณิชย์ โดยปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารจาก
D- เป็น D ส่งผลให้อันดับแนวโน้มความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารมีเสถียรภาพตามไปด้วย ขณะที่ยังคงอันดับความน่าเชื่อ
ถือหุ้นกู้และเงินฝากของธนาคาร นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มปรับอันดับฯ ให้แก่ ธพ. อื่นอีก 4 แห่งในเร็ว ๆ นี้ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ก.ล.ต. เร่งเสริมประสิทธิภาพความมั่นคงแก่ บลจ. ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. จะดำเนินการขยายฐานนักลงทุนให้มากขึ้น โดยการให้ความรู้เกี่ยว
กับกองทุนรวมผ่านสื่อต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) ให้มีการบริหารจัดการอย่างมั่นคง
และมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต. ได้จัดทำหลักเกณฑ์มาใช้ในการกำกับดูแลฐานะของ บลจ. ซึ่งอยู่ระหว่างการทำประชา
พิจารณ์กับ บลจ. ต่าง ๆ ในเบื้องต้นมีความเห็นว่า บลจ. ควรมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการทำธุรกิจต่อเนื่องได้ถึง 6 เดือน
หรือมีส่วนผู้ถือหุ้นขั้นต่ำ 20 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ต้นปี 47 (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
4. สศอ. เปิดผลศึกษาโครงสร้างอุตสาหกรรมหลังวิกฤตพบการแข่งขัน-มูลค่าเพิ่มลด สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
(สศอ.) จัดสัมมนาผลวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมช่วงก่อนและหลังวิกฤติเศรษฐกิจ จากทีมนักวิชาการ
คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรม 13 ประเภท พบว่า โครงสร้างเกี่ยวกับมูลค่าเพิ่มในช่วง
หลังวิกฤตินับแต่ปี 42 เป็นต้นมา เทียบกับช่วงก่อนวิกฤติมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก คือจากระดับ 9.12 เป็นระดับ 10.06 โดยมี
อัตราการเปลี่ยนแปลงติดลบ 17.91 โดยมีปัจจัยจากการที่ผู้ประกอบการต้องเร่งส่งออกมากขึ้น เพราะหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ
ในประเทศหดตัวรุนแรง นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้นในตลาดส่งออกโดยเฉพาะด้านราคา (กรุงเทพธุรกิจ, แนว
หน้า)
5. คณะกรรมการค่าจ้างกลางมีมติให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1-4 บาท ปลัด ก.แรงงาน เปิดเผยว่า ที่
ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลางมีมติให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1-4 บาทใน 41 จังหวัด จากที่การเสนอทั้งสิ้น 48
จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้ปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นสูงสุดวันละ 4 บาทคือ สมุทรสงคราม และอีก 40 จังหวัดได้เพิ่มขึ้น 1-3 บาท ส่วน 7
จังหวัดที่ยังหาข้อยุติไม่ได้เนื่องจากคณะกรรมการค่าจ้างฝ่ายลูกจ้างไม่เห็นด้วย (โพสต์ทูเดย์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ธนาคารกลางสรอ.กล่าวว่าเศรษฐกิจสรอ.ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 46
ธนาคารกลางสรอ. เปิดเผยว่าเศรษฐกิจ สรอ .อยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยอย่างแข็งแกร่ง
และภาคอุตสาหกรรรมการผลิตขยายตัว แม้ว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ ก็ตาม แต่มีการปรับตัวดีขึ้นในบางรัฐ ธพ.
ท้องถิ่นของสรอ. กล่าวว่าเศรษฐกิจ สรอ.ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ.ในไตรมาสที่
3 ขยายตัวในอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่หลังปี 42 และคาดว่าธนาคารกลาง สรอ. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า แต่หลังจากที่รัฐ
บาลสรอ. ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ธ.กลางสรอ.กล่าวว่าอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในอยู่ในระดับต่ำในช่วงที่มีความสำคัญนี้โดย
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนปัจจุบันอยู่ในระดับร้อยละ 1 ต่ำสุดในรอบ 45 ปี นอกจากนั้นยังพบว่า ไม่มีแรงกดดันเกี่ยวกับภาวะเงิน
เฟ้อ ราคาสินค้าสำเร็จรูปโดยทั่วไปมีเสถียรภาพ ขณะที่ค่าจ้างเริ่มสูงขึ้นพอประมาณ (รอยเตอร์)
2. ยอดการค้าปลีกโดยรวมของ สรอ.ในเดือน ก.ย.46 ลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน เม.ย.46 รายงานจาก
วอชิงตัน เมื่อ 15 ต.ค.46 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกโดยรวมของ สรอ.ในเดือน ก.ย.46 ซึ่งไม่นับรวม
หมวดรถยนต์ มีมูลค่า 320.58 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือลดลงร้อยละ 0.2 นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน เม.ย.46
อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่แท้จริงเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้
ยอดขายในเดือน ส.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ขณะที่ยอดขายในเดือน ก.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ
1.4 จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 สำหรับยอดขายหมวดรถยนต์ในเดือน ก.ย.46 ลดลงร้อยละ 1.6 ซึ่งลดลงมากที่สุดตั้งแต่
เดือน ก.พ.46 แต่ในหมวดอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งหมวดวัสดุก่อสร้างและเครื่องแต่งกายกลับเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้นักวิเคราะห์
เฝ้าติดตามตัวเลขยอดการค้าปลีกโดยรวมอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 2
ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ สรอ.(รอยเตอร์)
3. คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยในปี 46 และ ปี 47 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 15 ต.ค.46 ผล
สำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยร้อยละ 2.0 ในปี 46 และขยาย
ตัวช้าลงเหลือร้อยละ 1.1 ในปี 47 โดยยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืดและอัตราการว่างงานที่คาดว่าจะอยู่ในระดับร้อยละ 5.3 ทั้ง
ในปี 46 และ ปี 47 แม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม แต่การใช้จ่ายของผู้
บริโภคซึ่งเป็นองค์ประกอบใหญ่สุดของเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงชะลอตัว ค่าเงินเยนซึ่งแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 7 ตั้งแต่เดือนที่แล้วเมื่อเทียบ
กับเงินดอลลาร์ สรอ. ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออกและทำให้สินค้าส่งออกมีราคาสูงขึ้น และเป็นประเด็นที่ทำให้ทั้ง ธ.
กลางและรัฐบาลกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งมีการส่งออกเป็นตัวนำในขณะนี้ (รอยเตอร์)
4. ดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลเซียในเดือน ก.ย.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบต่อปี รายงานจากกัวลาลัมเปอร์ เมื่อ
15 ต.ค.46 สำนักงานสถิติมาเลเซีย เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลซียในเดือน ก.ย.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับ
เดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในหมวดยารักษาโรค และ
หมวดการขนส่ง ติดต่อสื่อสารที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.9 ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคในรอบ 9 เดือนของปี 46 (ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบต่อปี โดยสำนักงานสถิติคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียจะอยู่ประมาณร้อยละ 1.5 ในปี 46 จากร้อยละ
1.8 ในปีก่อน (รอยเตอร์)
5. อัตราการว่างงานเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.46 อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 22 รายงานจากโซล เมื่อ 16
ต.ค.46 สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.46 อยู่ที่ระดับร้อยละ 3.5
(ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) นับว่าอยู่ในระดับต่ำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 จากที่เคยอยู่ในระดับสูงสุดที่ร้อยละ 3.6 เมื่อเดือน ก.ค.46
และในระดับต่ำสุดเมื่อเดือน ก.ย.45 ที่ระดับร้อยละ 2.9 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้กำลังฟื้นตัว ส่วนตัวเลข
ก่อนปรับฤดูกาล เกาหลีใต้มีอัตราการว่างงานในเดือน ก.ย.46 ลดลงเหลือร้อยละ 3.2 จากร้อยละ 3.3 ในเดือนก่อนหน้า นอก
จากนี้ จำนวนผู้มีงานทำในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 22.30 ล้านคน จากจำนวน 22.13 ล้านคน เนื่องจากมีจำนวนผู้มีงานทำมากขึ้น
ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ จากตัวเลขในตลาดแรงงานทำให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะ
ขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของร้อยละ 6.3 ที่เป็นอัตราการเติบโตทั้งปี 45 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16/10/46 15/10/46 27/12/45 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.972 43.24 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.8289/40.1290 42.9993/43.3039 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.25 1.8750-1.9375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 576.10/25.26 356.48/3.27 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,050/7,150 7,050/7,150 7,000/7,100 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.72 29.42 27.65 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่ม เมื่อ 15 ต.ค. 46 16.39*/13.79* 16.39*/13.79* 16.19/14.29 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-