ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.นนทบุรี ได้เข้าทำการตรวจค้นบริษัทเอเซี่ยน เจมส์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับ เลขที่ 9/37 ซอยงามวงศ์วาน 23 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี (โรงแรมเชี่ยวหัตถ์พงษ์ ชั้น 2) และบ้านเลขที่ 315 แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เพื่อจับกุมนายพิธาน เชี่ยวหัตถ์พงษ์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ และนางอนงค์นุช เชี่ยวหัตถ์พงษ์ ตามหมายจับของศาลจจังหวัดบุรีรัมย์ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหากระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่ไม่พบตัว และได้จับกุมนายบุญส่ง อิ่มพรหม ซึ่งถูกออกหมายจับในข้อหาเดียวกัน นั้น
กระทรวงการคลังร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ปัจจุบันมีบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับ อาหารเสริมสุขภาพ โดยการรับสมัครสมาชิกเพื่อขายสินค้า และต้องจ่ายเงินค่าสมัครและค่าซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง โดยอ้างว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูง แต่โดยข้อเท็จจริงบริษัทเหล่านี้ไม่มีวัตถุประสงค์ในการขายสินค้าแต่อย่างใด แต่จะเน้นการให้สมาชิกหาสมาชิกรายใหม่ เพื่อจะได้รับเงินค่าสมัครและค่าซื้อสินค้า และนำเงินที่ได้รับจากสมาชิกรายใหม่มาจ่ายเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสมาชิกรายเดิมหมุนเวียนเป็นระบบแชร์ลูกโซ่ต่อไปเรื่อย ๆ พฤติกรรมที่กล่าวเป็นการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ และนอกจากบริษัท กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทจะต้องได้รับโทษแล้ว พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทซึ่งเป็นผู้ร่วมดำเนินการกับบริษัทจะต้องได้รับโทษตามที่กล่าวด้วย
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า ขณะนี้บริษัทที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวได้ขยายตัวลุกลามไปดำเนินธุรกิจตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ จึงใคร่ขอเตือนประชาชนว่า อย่าได้หลงเชื่อบุคคลหรือบริษัทซึ่งมีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าว และหากประชาชนผู้ใดได้รับความเสียหายหรือถูกหลอกลวงหรือพบเห็นการกระทำหรือมีข้อมูล เบาะแสของบริษัทใด ๆ ที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าว ขอให้ร้องเรียน แจ้งความหรือร้องทุกข์ได้ที่
- กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามหก โทร. สายด่วนการเงินนอกระบบ หมายเลข 1359 หรือ 0-2273-9020 ต่อ 3282-6
- กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนสาทรเหนือ โทร. 0-2234-5721 และ
- กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ทำเนียบรัฐบาล ถนนราชดำเนินนอก โทร. 0-2629-7037-9
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 79/2546 13 พฤศจิกายน 2546--
-รก-
กระทรวงการคลังร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ปัจจุบันมีบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับ อาหารเสริมสุขภาพ โดยการรับสมัครสมาชิกเพื่อขายสินค้า และต้องจ่ายเงินค่าสมัครและค่าซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง โดยอ้างว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูง แต่โดยข้อเท็จจริงบริษัทเหล่านี้ไม่มีวัตถุประสงค์ในการขายสินค้าแต่อย่างใด แต่จะเน้นการให้สมาชิกหาสมาชิกรายใหม่ เพื่อจะได้รับเงินค่าสมัครและค่าซื้อสินค้า และนำเงินที่ได้รับจากสมาชิกรายใหม่มาจ่ายเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสมาชิกรายเดิมหมุนเวียนเป็นระบบแชร์ลูกโซ่ต่อไปเรื่อย ๆ พฤติกรรมที่กล่าวเป็นการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ และนอกจากบริษัท กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทจะต้องได้รับโทษแล้ว พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทซึ่งเป็นผู้ร่วมดำเนินการกับบริษัทจะต้องได้รับโทษตามที่กล่าวด้วย
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า ขณะนี้บริษัทที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวได้ขยายตัวลุกลามไปดำเนินธุรกิจตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ จึงใคร่ขอเตือนประชาชนว่า อย่าได้หลงเชื่อบุคคลหรือบริษัทซึ่งมีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าว และหากประชาชนผู้ใดได้รับความเสียหายหรือถูกหลอกลวงหรือพบเห็นการกระทำหรือมีข้อมูล เบาะแสของบริษัทใด ๆ ที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าว ขอให้ร้องเรียน แจ้งความหรือร้องทุกข์ได้ที่
- กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามหก โทร. สายด่วนการเงินนอกระบบ หมายเลข 1359 หรือ 0-2273-9020 ต่อ 3282-6
- กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนสาทรเหนือ โทร. 0-2234-5721 และ
- กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ทำเนียบรัฐบาล ถนนราชดำเนินนอก โทร. 0-2629-7037-9
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 79/2546 13 พฤศจิกายน 2546--
-รก-