แท็ก
ตลาดหลักทรัพย์
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี 8 เดือน ภาวะการซื้อขายหลัก
ทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 18 ธ.ค.46 ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ระดับ 702.12 จุด ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ
700.93 จุด เพิ่มขึ้น 13.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,915.28 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับดัชนีที่ปรับตัวขึ้นสูงสุด
ในรอบ 6 ปี 8 เดือน เป็นผลจากบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทมีการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทางการ
เงินสำเร็จ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้มีการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการปรับประมาณการรายได้
ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปอีก นอกจากนี้ เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในปี 47
จะอยู่ในภาวะเติบโตต่อเนื่อง จากการที่ราคาหุ้นหลายหมวดปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูงในปี 46 (โลกวันนี้)
2. ที่ปรึกษา สศช.ประเมินว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยและจีนในปี 47 จะยั่งยืน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เชื่อว่าอัตราการเติบทางเศรษฐกิจในแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนและไทยใน
ปี 47 จะยั่งยืนโดยจีดีพีจะอยู่ที่ 7-8% ขณะที่เศรษฐกิจโลกจะเติบโตประมาณ 4.1% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง สำหรับแรงขับ
เคลื่อนเศรษฐกิจไทยอยู่ที่สาธารณูปโภคของภาครัฐที่มีโครงการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์
คือ ภาคการก่อสร้าง เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงาน และภาคบริการ (โลกวันนี้)
3. คาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 47 จะลดลงจากปี 46 รองประธาน
สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า แนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 47 คาดว่าจะขยายตัวใน
อัตรา 10-15% หรือคิดเป็นยอดปล่อยสินเชื่อใหม่จาก 200,000 ล้านบาทในปี 46 เป็น 230,000 ล้านบาท
ในปี 47 ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวในปี 47 ลดลงจากปี 46 ที่ขยายตัวในระดับ 20-25% โดยคาดว่าการ
ขยายตัวดังกล่าวจะเห็นชัดเจนในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป เนื่องจากความไม่ชัดเจนเรื่องมาตรการด้านภาษี
ซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ สำหรับการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยจะมีการแข่งขันแบบอัตรา
ดอกเบี้ยกึ่งลอยตัวมากขึ้น โดยสถาบันการเงินจะไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ แต่จะใช้อัตราอ้างอิงมาเป็นตัว
กำหนด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับขึ้นภายในปี 48 (ไทย
โพสต์)
4. ไทยเตรียมจัดตั้งทีมเจรจาเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐฯ ปลัด ก.พาณิชย์ เปิดเผยว่า
จากการประชุมเพื่อเตรียมการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหรัฐฯ ร่วมกับผู้แทนระดับสูง
จากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ก.เกษตรและสหกรณ์ ก.คลัง ก.อุตสาหกรรม ก.การต่างประเทศ ก.กลาโหม
สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งทีมเจรจาเฉพาะเรื่องขึ้น 14
เรื่อง โดยแต่ละทีมประกอบด้วยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแต่งตั้งหัวหน้าทีมจากหน่วยงานเจ้าของเรื่อง
ทั้งนี้ คาดว่า การเจรจาเอฟทีเอ จะเริ่มได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 47 หลังจากที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ นำ
เรื่องเสนอต่อรัฐสภาในช่วงปลายเดือน ม.ค.47 ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการพิจาณา 90 วัน ในส่วนของแผน
การทำงานของไทย จะมีการจัดประชุมหน่วยงานและกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามความคิด
เห็นอย่างต่อเนื่อง (สยามรัฐ, ไทยโพสต์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. การส่งออก การลงทุนและการบริโภคในประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแต่การจ้างงานลดลง
รายงานจากโตเกียว เมื่อ 18 ธ.ค.46 การส่งออก การลงทุนของภาคเอกชนและการบริโภคในประเทศเพิ่ม
ขึ้น แต่การลดลงของจำนวนคนที่มีงานทำและการนำเข้าที่ชะลอตัว ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนแปลงการ
ประเมินภาวะเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค.46 จากเดือนก่อน รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขทางเศรษฐกิจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่แสดงว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.0 ในปีนี้
สิ้นสุดเดือน มี.ค.47 จากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 ในขณะที่ผู้ส่งออกแสดงความ
กังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่เพิ่มขึ้นว่าจะส่งผลให้ธุรกิจมีกำไรลดลง และการบริโภคส่วนบุคคลซึ่งเป็นองค์
ประกอบสำคัญและใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร ทำให้เกรงกันว่าการฟื้นตัวทาง
เศรษฐกิจอาจไม่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันตัวเลขการจ้างงานก็ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันซึ่งอาจส่งผล
กระทบต่อการบริโภคส่วนบุคคลได้ โดยอาจเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจยังหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง
งานไม่ได้ (รอยเตอร์)
2. เยอรมนีมีแผนปรับโครงสร้างภาษีซึ่งอาจทำให้ต้องลดงบประมาณขาดดุลลงในปี 47 รายงาน
จากเบอร์ลิน เมื่อ 18 ธ.ค. 46 รมว.คลังของเยอรมนี เปิดเผยว่า เยอรมนีมีแผนที่จะปรับลดภาษีในปี 47
ซึ่งทำให้เยอรมนีจะต้องลดการขาดดุลงบประมาณในปี 47 ลงด้วยเช่นกัน แต่อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มงบ
ประมาณขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ซึ่งภายหลังที่รัฐบาลตัดสินใจลดภาษีลงเพียงครึ่งหนึ่งของที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะทำ
ให้ในปี 47 เยอรมนีจะมีเงินได้จากภาษีมากกว่าที่คาดไว้จำนวน 5.07 พัน ล.ยูโร และทำให้การขาดดุลงบ
ประมาณของเยอรมนีลดลงได้ร้อยละ 0.23 ของจีดีพี สำหรับกรอบงบประมาณระยะปานกลางของเยอรมนีที่
นำเสนอต่อ European Commission นั้น ก.คลังของเยอรมนีคาดว่าการขาดดุลงบประมาณในปี 47 จะอยู่ที่
ระดับร้อยละ 3.5 ของจีดีพี และจะลดลงเหลือร้อยละ 2.5 ในปี 48 (รอยเตอร์)
3. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสรอ.ลดลง รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 46 ก.
แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสรอ. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ
353,000 คน จากระดับ 375,000 คนในสัปดาห์ก่อน (ตัวเลขหลังปรับ) ลดลง 22,000 คน นับเป็นการลด
ลงอย่างมากถึงระดับที่เคยทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปีเศษเมื่อต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์
จากวอลล์สตรีทคาดว่าผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ธ.ค.จะลดลงที่ระดับ 365,000
คนจากที่คาดได้เดิม 378,000 คนสะท้อนถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคง
แข็งแกร่ง ส่วนภาคอุตสาหกรรมการผลิตท้องถิ่นของสรอ.อาทิในแถบ mid-Atlantic ในเดือนธ.ค. อยู่ใน
ระดับที่แข็งแกร่งโดยยอดคำสั่งซื้อใหม่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 23 ปี ทั้งๆที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านั้นว่าภาค
อุตสาหกรรมการผลิตจะชะลอตัว เช่นเดียวกับฟิลาเดลเฟียที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตในเดือนธ.ค. ขยาย
ตัวอย่างก้าวกระโดดอยู่ที่ระดับ 32.1 จากระดับ 25.9 ในเดือน พ.ย. คาดว่าจะมีการปรับตัวเลขแนวโน้ม
ภาคอุตสาหกรรมการผลิตรวมทั้งประเทศให้ดีขึ้นจากเดิมที่ได้มีการสำรวจว่าภาคดังกล่าวจะชะลอตัว (รอย
เตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19/12/2546 18/12/2546 27/12/2545 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.649 43.24 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.4626/39.7653 42.9993/43.3039 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.2500 - 1.2800 1.8750-1.9375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 700.93/48.92 356.48/3.27 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,600/7,700 7,600/7,700 7,000/7,100 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 29.54 29.76 27.65 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่ม 30 ส.ต./สิตร เมื่อ 16 ธ.ค. 46 17.29*/14.39 17.29*/14.39 16.19/14.29 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี 8 เดือน ภาวะการซื้อขายหลัก
ทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 18 ธ.ค.46 ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ระดับ 702.12 จุด ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ
700.93 จุด เพิ่มขึ้น 13.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,915.28 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับดัชนีที่ปรับตัวขึ้นสูงสุด
ในรอบ 6 ปี 8 เดือน เป็นผลจากบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทมีการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทางการ
เงินสำเร็จ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้มีการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการปรับประมาณการรายได้
ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปอีก นอกจากนี้ เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในปี 47
จะอยู่ในภาวะเติบโตต่อเนื่อง จากการที่ราคาหุ้นหลายหมวดปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูงในปี 46 (โลกวันนี้)
2. ที่ปรึกษา สศช.ประเมินว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยและจีนในปี 47 จะยั่งยืน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เชื่อว่าอัตราการเติบทางเศรษฐกิจในแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนและไทยใน
ปี 47 จะยั่งยืนโดยจีดีพีจะอยู่ที่ 7-8% ขณะที่เศรษฐกิจโลกจะเติบโตประมาณ 4.1% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง สำหรับแรงขับ
เคลื่อนเศรษฐกิจไทยอยู่ที่สาธารณูปโภคของภาครัฐที่มีโครงการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์
คือ ภาคการก่อสร้าง เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงาน และภาคบริการ (โลกวันนี้)
3. คาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 47 จะลดลงจากปี 46 รองประธาน
สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า แนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 47 คาดว่าจะขยายตัวใน
อัตรา 10-15% หรือคิดเป็นยอดปล่อยสินเชื่อใหม่จาก 200,000 ล้านบาทในปี 46 เป็น 230,000 ล้านบาท
ในปี 47 ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวในปี 47 ลดลงจากปี 46 ที่ขยายตัวในระดับ 20-25% โดยคาดว่าการ
ขยายตัวดังกล่าวจะเห็นชัดเจนในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป เนื่องจากความไม่ชัดเจนเรื่องมาตรการด้านภาษี
ซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ สำหรับการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยจะมีการแข่งขันแบบอัตรา
ดอกเบี้ยกึ่งลอยตัวมากขึ้น โดยสถาบันการเงินจะไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ แต่จะใช้อัตราอ้างอิงมาเป็นตัว
กำหนด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับขึ้นภายในปี 48 (ไทย
โพสต์)
4. ไทยเตรียมจัดตั้งทีมเจรจาเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐฯ ปลัด ก.พาณิชย์ เปิดเผยว่า
จากการประชุมเพื่อเตรียมการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหรัฐฯ ร่วมกับผู้แทนระดับสูง
จากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ก.เกษตรและสหกรณ์ ก.คลัง ก.อุตสาหกรรม ก.การต่างประเทศ ก.กลาโหม
สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งทีมเจรจาเฉพาะเรื่องขึ้น 14
เรื่อง โดยแต่ละทีมประกอบด้วยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแต่งตั้งหัวหน้าทีมจากหน่วยงานเจ้าของเรื่อง
ทั้งนี้ คาดว่า การเจรจาเอฟทีเอ จะเริ่มได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 47 หลังจากที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ นำ
เรื่องเสนอต่อรัฐสภาในช่วงปลายเดือน ม.ค.47 ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการพิจาณา 90 วัน ในส่วนของแผน
การทำงานของไทย จะมีการจัดประชุมหน่วยงานและกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามความคิด
เห็นอย่างต่อเนื่อง (สยามรัฐ, ไทยโพสต์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. การส่งออก การลงทุนและการบริโภคในประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแต่การจ้างงานลดลง
รายงานจากโตเกียว เมื่อ 18 ธ.ค.46 การส่งออก การลงทุนของภาคเอกชนและการบริโภคในประเทศเพิ่ม
ขึ้น แต่การลดลงของจำนวนคนที่มีงานทำและการนำเข้าที่ชะลอตัว ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนแปลงการ
ประเมินภาวะเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค.46 จากเดือนก่อน รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขทางเศรษฐกิจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่แสดงว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.0 ในปีนี้
สิ้นสุดเดือน มี.ค.47 จากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 ในขณะที่ผู้ส่งออกแสดงความ
กังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่เพิ่มขึ้นว่าจะส่งผลให้ธุรกิจมีกำไรลดลง และการบริโภคส่วนบุคคลซึ่งเป็นองค์
ประกอบสำคัญและใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร ทำให้เกรงกันว่าการฟื้นตัวทาง
เศรษฐกิจอาจไม่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันตัวเลขการจ้างงานก็ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันซึ่งอาจส่งผล
กระทบต่อการบริโภคส่วนบุคคลได้ โดยอาจเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจยังหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง
งานไม่ได้ (รอยเตอร์)
2. เยอรมนีมีแผนปรับโครงสร้างภาษีซึ่งอาจทำให้ต้องลดงบประมาณขาดดุลลงในปี 47 รายงาน
จากเบอร์ลิน เมื่อ 18 ธ.ค. 46 รมว.คลังของเยอรมนี เปิดเผยว่า เยอรมนีมีแผนที่จะปรับลดภาษีในปี 47
ซึ่งทำให้เยอรมนีจะต้องลดการขาดดุลงบประมาณในปี 47 ลงด้วยเช่นกัน แต่อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มงบ
ประมาณขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ซึ่งภายหลังที่รัฐบาลตัดสินใจลดภาษีลงเพียงครึ่งหนึ่งของที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะทำ
ให้ในปี 47 เยอรมนีจะมีเงินได้จากภาษีมากกว่าที่คาดไว้จำนวน 5.07 พัน ล.ยูโร และทำให้การขาดดุลงบ
ประมาณของเยอรมนีลดลงได้ร้อยละ 0.23 ของจีดีพี สำหรับกรอบงบประมาณระยะปานกลางของเยอรมนีที่
นำเสนอต่อ European Commission นั้น ก.คลังของเยอรมนีคาดว่าการขาดดุลงบประมาณในปี 47 จะอยู่ที่
ระดับร้อยละ 3.5 ของจีดีพี และจะลดลงเหลือร้อยละ 2.5 ในปี 48 (รอยเตอร์)
3. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสรอ.ลดลง รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 46 ก.
แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสรอ. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ
353,000 คน จากระดับ 375,000 คนในสัปดาห์ก่อน (ตัวเลขหลังปรับ) ลดลง 22,000 คน นับเป็นการลด
ลงอย่างมากถึงระดับที่เคยทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปีเศษเมื่อต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์
จากวอลล์สตรีทคาดว่าผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ธ.ค.จะลดลงที่ระดับ 365,000
คนจากที่คาดได้เดิม 378,000 คนสะท้อนถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคง
แข็งแกร่ง ส่วนภาคอุตสาหกรรมการผลิตท้องถิ่นของสรอ.อาทิในแถบ mid-Atlantic ในเดือนธ.ค. อยู่ใน
ระดับที่แข็งแกร่งโดยยอดคำสั่งซื้อใหม่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 23 ปี ทั้งๆที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านั้นว่าภาค
อุตสาหกรรมการผลิตจะชะลอตัว เช่นเดียวกับฟิลาเดลเฟียที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตในเดือนธ.ค. ขยาย
ตัวอย่างก้าวกระโดดอยู่ที่ระดับ 32.1 จากระดับ 25.9 ในเดือน พ.ย. คาดว่าจะมีการปรับตัวเลขแนวโน้ม
ภาคอุตสาหกรรมการผลิตรวมทั้งประเทศให้ดีขึ้นจากเดิมที่ได้มีการสำรวจว่าภาคดังกล่าวจะชะลอตัว (รอย
เตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19/12/2546 18/12/2546 27/12/2545 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.649 43.24 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.4626/39.7653 42.9993/43.3039 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.2500 - 1.2800 1.8750-1.9375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 700.93/48.92 356.48/3.27 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,600/7,700 7,600/7,700 7,000/7,100 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 29.54 29.76 27.65 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่ม 30 ส.ต./สิตร เมื่อ 16 ธ.ค. 46 17.29*/14.39 17.29*/14.39 16.19/14.29 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-