จากเหตุการณ์คนร้ายเข้าปล้นคลังแสงที่ค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ โดยคนร้ายได้สังหารทหารไป 4 นาย ปล้นเอาอาวุธปืนสงครามไปได้ประมาณ 100 กระบอก และเผาโรงเรียน 18 แห่ง ที่ จ.นราธิวาสนั้น นายเจะอามิง โตะตาหยง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลที่ประเมินสถานการณ์ภาคใต้ต่ำไป ทั้งๆที่ฝ่ายค้านได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้มาโดยตลอด เมื่อถึงวันนี้รัฐบาลต้องยอมรับความจริงว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่สงบ ยังมีความร้ายแรงอยู่ตลอด รัฐบาลยังแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้หรือแก้ไม่ตรงจุด ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องยอมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาต่อไป อย่าถือเป็นการเสียหน้า ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาในทางที่ดีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
นายเจะอามิง กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้คือรัฐบาลต้องเรียกขวัญกำลังใจของประชาชนกลับคืนมา ลดความขัดแย้งในพื้นที่ลงให้ได้ โดยเฉพาะความหวาดระแวงระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างความเป็นเอกภาพของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเองให้ได้โดยเร็วที่สุด สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยช่องว่างสร้างสถานการณ์ขึ้นมา อย่างไรก็ตามนายเจะอามิงเชื่อว่าสถานการณ์ที่ไม่สามารถตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะนี้เกิดจากปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง ที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานด้อยลงไปมาก
‘ฝ่ายค้านได้แสดงข้อคิดเห็นในเรื่องสถานการณ์มาตลอด แต่บางครั้งกลับถูกฝ่ายรัฐบาลตำหนิกลับมา รัฐบาลต้องอย่าลืมว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแต่บ้านเมืองเป็นของทุกคนที่สามารถแสดงข้อคิดเห็นและหวงแหนผืนแผ่นดินนี้ได้ไม่แตกต่างกันไปจากรัฐบาล ซึ่งสิ่งสำคัญคือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องลดความระแวงซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ตำรวจถูกลอบทำร้ายแล้วไปโทษหรือระแวงฝ่ายทหาร เมื่อทหารโดนก็โทษตำรวจ อย่างนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหา มีแต่สร้างเงื่อนไขเพิ่ม รัฐบาลต้องไม่หูเบา ใครสนิทกับฝ่ายรัฐบาลมาเล่าเรื่องร้ายอีกฝ่ายหนึ่งก่อนแล้วฝ่ายบอกก่อนนั้นถูกต้องเสมอมันไม่ใช่ ตราบใดที่มีข้อขัดแย้งกันเอง มันจะเกิดช่องว่างระหว่างกลาง เมื่อมีใครมาแทรกตรงกลางช่องว่าง อาศัยสถานการณ์ได้ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ขัดแย้งกันเอง ฝ่ายไม่หวังดีก็นั่งตบมือหัวเราะดูเจ้าหน้าที่ขัดแย้งกัน อย่างนี้ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ระดับนโยบายแน่นอน’ นายเจะอามิงกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 01/01/47--จบ--
-สส-
นายเจะอามิง กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้คือรัฐบาลต้องเรียกขวัญกำลังใจของประชาชนกลับคืนมา ลดความขัดแย้งในพื้นที่ลงให้ได้ โดยเฉพาะความหวาดระแวงระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างความเป็นเอกภาพของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเองให้ได้โดยเร็วที่สุด สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยช่องว่างสร้างสถานการณ์ขึ้นมา อย่างไรก็ตามนายเจะอามิงเชื่อว่าสถานการณ์ที่ไม่สามารถตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะนี้เกิดจากปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง ที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานด้อยลงไปมาก
‘ฝ่ายค้านได้แสดงข้อคิดเห็นในเรื่องสถานการณ์มาตลอด แต่บางครั้งกลับถูกฝ่ายรัฐบาลตำหนิกลับมา รัฐบาลต้องอย่าลืมว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแต่บ้านเมืองเป็นของทุกคนที่สามารถแสดงข้อคิดเห็นและหวงแหนผืนแผ่นดินนี้ได้ไม่แตกต่างกันไปจากรัฐบาล ซึ่งสิ่งสำคัญคือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องลดความระแวงซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ตำรวจถูกลอบทำร้ายแล้วไปโทษหรือระแวงฝ่ายทหาร เมื่อทหารโดนก็โทษตำรวจ อย่างนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหา มีแต่สร้างเงื่อนไขเพิ่ม รัฐบาลต้องไม่หูเบา ใครสนิทกับฝ่ายรัฐบาลมาเล่าเรื่องร้ายอีกฝ่ายหนึ่งก่อนแล้วฝ่ายบอกก่อนนั้นถูกต้องเสมอมันไม่ใช่ ตราบใดที่มีข้อขัดแย้งกันเอง มันจะเกิดช่องว่างระหว่างกลาง เมื่อมีใครมาแทรกตรงกลางช่องว่าง อาศัยสถานการณ์ได้ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ขัดแย้งกันเอง ฝ่ายไม่หวังดีก็นั่งตบมือหัวเราะดูเจ้าหน้าที่ขัดแย้งกัน อย่างนี้ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ระดับนโยบายแน่นอน’ นายเจะอามิงกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 01/01/47--จบ--
-สส-