สถานการณ์การเมืองปี 2547
ในปีหน้าการเลือกตั้งในท้องถิ่นจะมีการเลือกตั้งระดับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนจังหวัดครั้งใหญ่ จะมีผลเกี่ยวข้องไปถึงการเมืองระดับชาติ ที่จะเห็นนักการเมืองระดับสส.หรือระดับชาติมาลงสมัครในระดับท้องถิ่นมากขึ้น โดยคนที่เป็นอยู่แล้ว รวมทั้งคนที่อาจจะตั้งใจลงสมัครส.ส.ก็อาจจะเปลี่ยนไปลงสมัครนายกอบจ. ทั้งนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากปีที่ผ่านมา แต่ว่าภาพนี้จะไม่ชัดจนกว่าถึงช่วง 1-2 เดือนจากนี้ จึงจะเห็นภาพชัดว่าผู้สมัครมีความเปลี่ยนไปอย่างไร โดยดูจากคนที่ลงสมัครนายกอบจ.คงจะมี
ขณะนี้เหลือเวลาอีก 1 ปีเศษ พรรคการเมืองต่างๆก็คงจะเตรียมการเลือกตั้งในครั้งต่อไปที่จะมีความเข้มข้นมากขึ้น และการประกาศตัวบุคคลที่จะลงสมัครจะชัดเจนขึ้น ส.ส.ที่ยังมีความก้ำกึ่งว่าจะไปอยู่พรรคใดคงมีความชัดเจนขึ้น ดังนั้นในปีหน้าเป็นความชัดเจนในแง่ตัวผู้สมัครของแต่ละพรรคจะมีมากขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงพรรคการเมือง บางคนอาจจะความรู้สึกกระด้างตัวเองที่จะอยู่ในพรรคเดิม แต่ชื่อไปอยู่อีกพรรคอีก ดังนั้นผู้ที่ตกอยู่ในฐานะนี้ระมัดระวังตัวเอง ส่วน ส.ส.จะลาออกและมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่คงมีน้อย เพราะคนจะสงสัยหรือตั้งข้อรังเกียจว่าลาออกทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณของรัฐ ดั้งนั้น ส.ส.ประเภทที่จะมีการเปลี่ยนพรรคแน่ๆก็อาจจะไม่กล้าพูดอะไรชัดเจน
ความอยู่รอดของพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กในการเลือกตั้งครั้งหน้า
พรรคเหล่านี้ก็คงอยู่ได้ยากและต้องเหนื่อยเพราะส่วนใหญ่สมาชิกพรรคขนาดกลางความมั่นคงไม่แน่นอน ซึ่งแกนนำของพรรคไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจมีบางคนที่ผวากับผลการเลือกตั้งไม่มั่นใจกลัวจะแพ้ในการเลือกตั้งเป็นสาเหตุให้พรรคขนาดกลางรักษาลูกพรรคตัวเองไว้ได้ยากพอสมควร เว้นแต่ว่ามีเงื่อนไขที่สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกพรรคได้แน่นอน จึงเป็นโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นได้ง่าย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเหล่านี้สู้หรือไม่ ถ้าสู้ก็อยู่ได้แต่จะได้ส.ส.จำนวนเท่าไร ตนไม่เชื่อพรรคการเมืองเหล่านี้จะแพ้หมด เพียงแต่ว่าเขาจะรักษาที่นั่งส.ส.เดิมหรือเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าพรรคการเมืองเหล่านี้มีใจที่จะสู้หรือไม่
การตอบโต้ระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาลอย่างรุนแรง ในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งจะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่
ส่วนใหญ่การทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลโดยเฉพาะบทบาทส.ส.ฝ่ายค้านนั้น การตอบโต้ทั้งในและนอกสภาคงอยู่ภายในขอบเขตของการทำหน้าที่ แต่ถ้าถึงขนาดขั้นการทำรายการนอย่างที่พรรคไทยรักไทยทำอยู่ก็จะเป็นเหตุให้เกิดการตอบโต้กันมากขึ้นเพราะคงไม่มีพรรคการเมืองใดยอมให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโจมตีข้างเดียว เนื่องจากแต่ละพรรคก็มีเหตุผลรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเมื่อฝ่ายหนึ่งอยู่ดีๆถูกเมื่อมีคนอื่นมาว่าจะห้ามให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่ตอบโต้คงไม่ได้ เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งข้อกล่าวหาพรรคการเมืองอื่นว่ามาจากอะไรเพราะอยู่ดีๆฝ่ายค้านจะไปกล่าวหารัฐบาลคงยาก เพราะเครื่องมือสื่อที่จะถ่ายทอดไม่ค่อยมี จึงยากที่จะพูดเรื่องอะไรไปกระทบรัฐบาลถ้มไม่มีเหตุที่ถูกรัฐบาลกล่าวว่า
มองอย่างไรที่รัฐบาลผลักดันนโยบายประชานิยมรอบ 2 เพื่อเตรียมการหาเสียงเลือกตั้ง
คงต้องทำต่อไม่เช่นนั้นวงจรของนโยบายประชานิยมคงชะงัก แต่ในสายตาของพรรคฯคิดว่าจะเป็นปัญหาทับถมต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่เอาเรื่องความพอใจของชาวบ้านมาเป็นตัววัดว่าโครงการประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะถ้าเราเอาเงินไปแจกชาวบ้าน ตนไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 04/01/47--จบ--
-สส-
ในปีหน้าการเลือกตั้งในท้องถิ่นจะมีการเลือกตั้งระดับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนจังหวัดครั้งใหญ่ จะมีผลเกี่ยวข้องไปถึงการเมืองระดับชาติ ที่จะเห็นนักการเมืองระดับสส.หรือระดับชาติมาลงสมัครในระดับท้องถิ่นมากขึ้น โดยคนที่เป็นอยู่แล้ว รวมทั้งคนที่อาจจะตั้งใจลงสมัครส.ส.ก็อาจจะเปลี่ยนไปลงสมัครนายกอบจ. ทั้งนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากปีที่ผ่านมา แต่ว่าภาพนี้จะไม่ชัดจนกว่าถึงช่วง 1-2 เดือนจากนี้ จึงจะเห็นภาพชัดว่าผู้สมัครมีความเปลี่ยนไปอย่างไร โดยดูจากคนที่ลงสมัครนายกอบจ.คงจะมี
ขณะนี้เหลือเวลาอีก 1 ปีเศษ พรรคการเมืองต่างๆก็คงจะเตรียมการเลือกตั้งในครั้งต่อไปที่จะมีความเข้มข้นมากขึ้น และการประกาศตัวบุคคลที่จะลงสมัครจะชัดเจนขึ้น ส.ส.ที่ยังมีความก้ำกึ่งว่าจะไปอยู่พรรคใดคงมีความชัดเจนขึ้น ดังนั้นในปีหน้าเป็นความชัดเจนในแง่ตัวผู้สมัครของแต่ละพรรคจะมีมากขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงพรรคการเมือง บางคนอาจจะความรู้สึกกระด้างตัวเองที่จะอยู่ในพรรคเดิม แต่ชื่อไปอยู่อีกพรรคอีก ดังนั้นผู้ที่ตกอยู่ในฐานะนี้ระมัดระวังตัวเอง ส่วน ส.ส.จะลาออกและมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่คงมีน้อย เพราะคนจะสงสัยหรือตั้งข้อรังเกียจว่าลาออกทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณของรัฐ ดั้งนั้น ส.ส.ประเภทที่จะมีการเปลี่ยนพรรคแน่ๆก็อาจจะไม่กล้าพูดอะไรชัดเจน
ความอยู่รอดของพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กในการเลือกตั้งครั้งหน้า
พรรคเหล่านี้ก็คงอยู่ได้ยากและต้องเหนื่อยเพราะส่วนใหญ่สมาชิกพรรคขนาดกลางความมั่นคงไม่แน่นอน ซึ่งแกนนำของพรรคไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจมีบางคนที่ผวากับผลการเลือกตั้งไม่มั่นใจกลัวจะแพ้ในการเลือกตั้งเป็นสาเหตุให้พรรคขนาดกลางรักษาลูกพรรคตัวเองไว้ได้ยากพอสมควร เว้นแต่ว่ามีเงื่อนไขที่สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกพรรคได้แน่นอน จึงเป็นโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นได้ง่าย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเหล่านี้สู้หรือไม่ ถ้าสู้ก็อยู่ได้แต่จะได้ส.ส.จำนวนเท่าไร ตนไม่เชื่อพรรคการเมืองเหล่านี้จะแพ้หมด เพียงแต่ว่าเขาจะรักษาที่นั่งส.ส.เดิมหรือเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าพรรคการเมืองเหล่านี้มีใจที่จะสู้หรือไม่
การตอบโต้ระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาลอย่างรุนแรง ในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งจะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่
ส่วนใหญ่การทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลโดยเฉพาะบทบาทส.ส.ฝ่ายค้านนั้น การตอบโต้ทั้งในและนอกสภาคงอยู่ภายในขอบเขตของการทำหน้าที่ แต่ถ้าถึงขนาดขั้นการทำรายการนอย่างที่พรรคไทยรักไทยทำอยู่ก็จะเป็นเหตุให้เกิดการตอบโต้กันมากขึ้นเพราะคงไม่มีพรรคการเมืองใดยอมให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโจมตีข้างเดียว เนื่องจากแต่ละพรรคก็มีเหตุผลรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเมื่อฝ่ายหนึ่งอยู่ดีๆถูกเมื่อมีคนอื่นมาว่าจะห้ามให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่ตอบโต้คงไม่ได้ เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งข้อกล่าวหาพรรคการเมืองอื่นว่ามาจากอะไรเพราะอยู่ดีๆฝ่ายค้านจะไปกล่าวหารัฐบาลคงยาก เพราะเครื่องมือสื่อที่จะถ่ายทอดไม่ค่อยมี จึงยากที่จะพูดเรื่องอะไรไปกระทบรัฐบาลถ้มไม่มีเหตุที่ถูกรัฐบาลกล่าวว่า
มองอย่างไรที่รัฐบาลผลักดันนโยบายประชานิยมรอบ 2 เพื่อเตรียมการหาเสียงเลือกตั้ง
คงต้องทำต่อไม่เช่นนั้นวงจรของนโยบายประชานิยมคงชะงัก แต่ในสายตาของพรรคฯคิดว่าจะเป็นปัญหาทับถมต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่เอาเรื่องความพอใจของชาวบ้านมาเป็นตัววัดว่าโครงการประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะถ้าเราเอาเงินไปแจกชาวบ้าน ตนไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 04/01/47--จบ--
-สส-