เมื่อเวลา 10.40น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ปี 2547 นอกจากจะเป็นปีที่รัฐบาลพยายามจะสร้างกิจกรรมทางการเมือง ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ภายใต้โครงการต่างๆ และเตรียมทุ่งงบประมาณหลากหลายที่มาอย่างมหาศาลแล้ว ยังเป็นปีที่นายกฯ ประกาศปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงตามคำประกาศหรือไม่ เป็นคำถามที่ประชาชนล้วนกังขาอย่างยิ่ง เพราะตลอดระยะเวลาแห่งการครองอำนาจนาน 3 ปี นายกฯไม่แสดงให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจังกับการปราบทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง ในทางกลับกัน นายกฯ กลับปกป้องหรือเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนใจที่จะแก้ไข ถึงแม้พรรคฝ่ายค้านจะพยายามเปิดเผยการทุจริตรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่อง ตลอดมา แต่นายกฯก็มักเมินการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน และมักย้ำแบบแผ่นเสียงตกร่องในสาธารณชนเห็นว่าการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน ไม่น่าสนใจโดยมักกล่าวเป็นประจำว่า “ฝ่ายค้านก็ค้านไปตามหน้าที่”
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะเอาจริงเอาจังกับการปราบทุจริตแค่ไหน โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้บ่อยครั้ง และในปี 2547นี้การทุจริตเชิงนโยบายจะยิ่งปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
ต้องยอมรับว่าการทุจริตเชิงนโยบาย เป็นการทุจริตที่ยากต่อการตรวจสอบ เพราะผู้ที่ทุจริตมีการวางแผนเป็นอย่างดี ตั้งแต่ผู้มีอำนาจรัฐเตรียมการเสนอนโยบายที่ดูผิวเผินจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนแต่เมื่อพิจารณาอย่างลึกซึ้งจะเห็นว่า ประโยชน์กับตนเองและพวกพ้องมากกว่า จากนั้นก็จัดสรรบุคลากรที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ให้ลงไปกำกับดูแลนโยบาย พร้อมแก้ไขกฎระเบียบให้เอื้อประโยชน์อย่างเต็มที่
ปี 2547 พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า มีนโยบายรัฐบาลหลายโครงการ ที่เข้าข่าย ทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้บริษัทในกลุ่มรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ และจะขอชี้ให้เห็นถึงนโยบายต่างๆ ที่เข้าข่ายดังกล่าว เพื่อให้ประชาชน ได้มีส่วนร่วมช่วยกันติดตาม ตรวจสอบ ดังนี้
นโยบาย การบินเสรี นายกฯทักษิณ ประกาศ ในรายการ นายกฯทักษิณ พบประชาชน เมื่อ วันเสาร์ ที่ 13 ธ.ค 2546 โดยอ้างว่า เมื่อไทยต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว จึงต้องเปิดเสรีการบิน ไปพร้อมกันด้วย เนืองจากลำพังการบินไทยเพียงบริษัทเดียว คงไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมด ก่อนหน้านั้น นายกฯ ทักษิณ ก็ชิมลางด้วยนโยบาย “ตั๋วเครื่องบินเอื้ออาทร” หรือ ตั๋วราคาต่ำมาเป็นระยะ
จากนั้นนายบุญคลี ปลั่งศิริ ซีอีโอ ของกลุ่ม ชินคอร์ป ก็ประกาศ ลงทุนธุรกิจสายการบินราคาถูก ด้วยการลงทุน ซื้อหุ้น 50 % เป็นเงิน 200 ล้านบาท ในบริษัท แอร์ เอเชีย เอวิชั่น ร่วมกับบริษัท แอร์เอเซีย ของมาเลเซีย ซึ่งถือหุ้น 49 % เพื่อเป็นสายการบินราคาต่ำ ตามนโยบายการบินเสรี
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 04/01/47--จบ--
-สส-
สิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงตามคำประกาศหรือไม่ เป็นคำถามที่ประชาชนล้วนกังขาอย่างยิ่ง เพราะตลอดระยะเวลาแห่งการครองอำนาจนาน 3 ปี นายกฯไม่แสดงให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจังกับการปราบทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง ในทางกลับกัน นายกฯ กลับปกป้องหรือเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนใจที่จะแก้ไข ถึงแม้พรรคฝ่ายค้านจะพยายามเปิดเผยการทุจริตรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่อง ตลอดมา แต่นายกฯก็มักเมินการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน และมักย้ำแบบแผ่นเสียงตกร่องในสาธารณชนเห็นว่าการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน ไม่น่าสนใจโดยมักกล่าวเป็นประจำว่า “ฝ่ายค้านก็ค้านไปตามหน้าที่”
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะเอาจริงเอาจังกับการปราบทุจริตแค่ไหน โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้บ่อยครั้ง และในปี 2547นี้การทุจริตเชิงนโยบายจะยิ่งปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
ต้องยอมรับว่าการทุจริตเชิงนโยบาย เป็นการทุจริตที่ยากต่อการตรวจสอบ เพราะผู้ที่ทุจริตมีการวางแผนเป็นอย่างดี ตั้งแต่ผู้มีอำนาจรัฐเตรียมการเสนอนโยบายที่ดูผิวเผินจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนแต่เมื่อพิจารณาอย่างลึกซึ้งจะเห็นว่า ประโยชน์กับตนเองและพวกพ้องมากกว่า จากนั้นก็จัดสรรบุคลากรที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ให้ลงไปกำกับดูแลนโยบาย พร้อมแก้ไขกฎระเบียบให้เอื้อประโยชน์อย่างเต็มที่
ปี 2547 พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า มีนโยบายรัฐบาลหลายโครงการ ที่เข้าข่าย ทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้บริษัทในกลุ่มรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ และจะขอชี้ให้เห็นถึงนโยบายต่างๆ ที่เข้าข่ายดังกล่าว เพื่อให้ประชาชน ได้มีส่วนร่วมช่วยกันติดตาม ตรวจสอบ ดังนี้
นโยบาย การบินเสรี นายกฯทักษิณ ประกาศ ในรายการ นายกฯทักษิณ พบประชาชน เมื่อ วันเสาร์ ที่ 13 ธ.ค 2546 โดยอ้างว่า เมื่อไทยต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว จึงต้องเปิดเสรีการบิน ไปพร้อมกันด้วย เนืองจากลำพังการบินไทยเพียงบริษัทเดียว คงไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมด ก่อนหน้านั้น นายกฯ ทักษิณ ก็ชิมลางด้วยนโยบาย “ตั๋วเครื่องบินเอื้ออาทร” หรือ ตั๋วราคาต่ำมาเป็นระยะ
จากนั้นนายบุญคลี ปลั่งศิริ ซีอีโอ ของกลุ่ม ชินคอร์ป ก็ประกาศ ลงทุนธุรกิจสายการบินราคาถูก ด้วยการลงทุน ซื้อหุ้น 50 % เป็นเงิน 200 ล้านบาท ในบริษัท แอร์ เอเชีย เอวิชั่น ร่วมกับบริษัท แอร์เอเซีย ของมาเลเซีย ซึ่งถือหุ้น 49 % เพื่อเป็นสายการบินราคาต่ำ ตามนโยบายการบินเสรี
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 04/01/47--จบ--
-สส-