ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (PCI) ขยายตัวร้อยละ 5.1 ในปี 2546 เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 3.7 ในปี 2545 ทั้งนี้ ดัชนีฯ เร่งตัวมากในไตรมาสแรกจองเครื่องชี้กลุ่มยานพาหนะเป็นสำคัญ แต่ชะลอลงในไตรมาสที่ 2 จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ต่อเนื่องมาถึงไตรมาสที่ 3 ตามการชะลอตัวของปริมาณจำหน่ายรถยนต์เนื่องจากไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ออกมาจูงใจผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี ในไตรมาสสุดท้ายของปีการเพิ่มวันหยุดราชการในช่วงการจัดประชุมเอเปคและการเพิ่มขึ้นของปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ทำให้ดัชนีฯเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง
ปัจจัยสนับสนุนการบริโภคในปีนี้ ได้แก่
(1) อำนาจซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นตามรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวสูง และอัตราการว่างงานที่โน้มลดลง รวมทั้งผลประกอบการของธุรกิจและผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ดีขึ้น
(2) ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ยกเว้นในช่วงที่มีความกังวลเกี่ยวกับโรค SARS
(3) สภาวะแวดล้อมทางการเงินที่เอื้ออำนวยโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการบริโภคที่สะดวกขึ้น
สำหรับเครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนมีรายละเอียดดังนี้
เครื่องชี้สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ได้แก่ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวร้อยละ 15.0 ซึ่งเป็นอัตราที่เร่งตัวขึ้นจากปีก่อนสอดคล้องกับยอดค้าปลีกทั้งประเทศที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 10.4 โดยสินค้าในหมวดอาหาร เครื่องดื่มและเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวสูง
เครื่องชี้กลุ่มยานพาหนะ ได้แก่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 42.0 เทียบกับร้อยละ 20.8 ในปี 2545 ตามกำลังซื้อที่อยู่ในระดับสูงจากอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระที่อยู่ในระดับต่ำมาก ประกอบกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ปลายปี 2545 มีมากกว่าปีก่อนๆ ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์แม้จะชะลอลงจากร้อยละ 42.0 ในปี 2545 เหลือร้อยละ 28.2 ในปีนี้ แต่ก็ยังเป็นอัตราการขยายตัวที่อยู่ในเกณฑ์สูง
เครื่องชี้กลุ่มพลังงานได้แก่ การใช้ไฟฟ้าเพื่อที่อยู่อาศัยของครัวเรือนซึ่งขยายตัวร้อยละ 6.2 เร่งขึ้นจากร้อยละ 3.7 ในปี 2545 ตามการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และยอดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัวดี อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อนท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมัน
เครื่องชี้กลุ่มเครื่องดื่ม ได้แก่ ปริมาณจำหน่ายเบียร์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ขยายตัวร้อยละ 25.1 และ 14.4 เทียบกับร้อยละ 1.7 และ 4.5 ในปี 2545 ตามลำดับ การเร่งตัวดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ประกอบการมีการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ส่วนปริมาณจำหน่ายสุราขยายตัวไม่สูงนักเพราะการรณรงค์งดดื่มสุรา โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา
อย่างไรก็ดี ความยั่งยืนของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในระยะต่อไปนั้นมีประเด็นที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด กล่าวคือภาวะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนทั้งนี้ เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจรายได้ และการมีงานทำซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่สะดวกขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนเป็นไปอย่างไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร อนึ่งจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ในปี 2545 หนี้ครัวเรือนมีจำนวนสูงถึง 82,485 บาทต่อครัวเรือน เทียบกับ 68,279 บาทต่อครัวเรือนในปี 2544 หรือสูงขึ้นร้อยละ 17.9 ซึ่งระดับหนี้ดังกล่าวคิดเป็นประมาณร้อยละ 51.1 ของรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (disposible income) ขณะที่ข้อมูลของธปท.ชี้ว่าหนี้ครัวเรือนในระบบ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2546 คิดเป็นร้อยละ 49.6 ของรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ดพ-/-ชพ-
ปัจจัยสนับสนุนการบริโภคในปีนี้ ได้แก่
(1) อำนาจซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นตามรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวสูง และอัตราการว่างงานที่โน้มลดลง รวมทั้งผลประกอบการของธุรกิจและผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ดีขึ้น
(2) ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ยกเว้นในช่วงที่มีความกังวลเกี่ยวกับโรค SARS
(3) สภาวะแวดล้อมทางการเงินที่เอื้ออำนวยโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการบริโภคที่สะดวกขึ้น
สำหรับเครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนมีรายละเอียดดังนี้
เครื่องชี้สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ได้แก่ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวร้อยละ 15.0 ซึ่งเป็นอัตราที่เร่งตัวขึ้นจากปีก่อนสอดคล้องกับยอดค้าปลีกทั้งประเทศที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 10.4 โดยสินค้าในหมวดอาหาร เครื่องดื่มและเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวสูง
เครื่องชี้กลุ่มยานพาหนะ ได้แก่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 42.0 เทียบกับร้อยละ 20.8 ในปี 2545 ตามกำลังซื้อที่อยู่ในระดับสูงจากอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระที่อยู่ในระดับต่ำมาก ประกอบกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ปลายปี 2545 มีมากกว่าปีก่อนๆ ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์แม้จะชะลอลงจากร้อยละ 42.0 ในปี 2545 เหลือร้อยละ 28.2 ในปีนี้ แต่ก็ยังเป็นอัตราการขยายตัวที่อยู่ในเกณฑ์สูง
เครื่องชี้กลุ่มพลังงานได้แก่ การใช้ไฟฟ้าเพื่อที่อยู่อาศัยของครัวเรือนซึ่งขยายตัวร้อยละ 6.2 เร่งขึ้นจากร้อยละ 3.7 ในปี 2545 ตามการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และยอดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัวดี อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อนท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมัน
เครื่องชี้กลุ่มเครื่องดื่ม ได้แก่ ปริมาณจำหน่ายเบียร์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ขยายตัวร้อยละ 25.1 และ 14.4 เทียบกับร้อยละ 1.7 และ 4.5 ในปี 2545 ตามลำดับ การเร่งตัวดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ประกอบการมีการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ส่วนปริมาณจำหน่ายสุราขยายตัวไม่สูงนักเพราะการรณรงค์งดดื่มสุรา โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา
อย่างไรก็ดี ความยั่งยืนของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในระยะต่อไปนั้นมีประเด็นที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด กล่าวคือภาวะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนทั้งนี้ เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจรายได้ และการมีงานทำซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่สะดวกขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนเป็นไปอย่างไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร อนึ่งจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ในปี 2545 หนี้ครัวเรือนมีจำนวนสูงถึง 82,485 บาทต่อครัวเรือน เทียบกับ 68,279 บาทต่อครัวเรือนในปี 2544 หรือสูงขึ้นร้อยละ 17.9 ซึ่งระดับหนี้ดังกล่าวคิดเป็นประมาณร้อยละ 51.1 ของรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (disposible income) ขณะที่ข้อมูลของธปท.ชี้ว่าหนี้ครัวเรือนในระบบ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2546 คิดเป็นร้อยละ 49.6 ของรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ดพ-/-ชพ-