ภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือเดือนพฤศจิกายน 2546 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ด้านการผลิต ผลผลิตพืชสำคัญของภาคเหนือเพิ่มขึ้นตามภาวะอากาศที่เอื้ออำนวย ขณะที่ราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวตามอุปสงค์ของตลาดต่างประเทศ ส่วนภาวะการท่องเที่ยวภาคเหนือปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ด้านการใช้จ่าย ขยายตัวได้ต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ และการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ อย่างไรก็ดีปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และพื้นที่ขอรับอนุญาตก่อสร้างมีแนวโน้มชะลอตัว สำหรับระดับราคาสินค้าในเดือนนี้ปรับตัวสูงขึ้น ด้านภาวะการเงินธนาคารพาณิชย์ขยายสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนพฤศจิกายน มีดังนี้
1. ภาคเกษตร ผลผลิตพืชสำคัญของภาคเหนือ ประกอบด้วย ข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภาพรวมผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 ตามผลผลิตข้าวนาปีฤดูการผลิต 2546/47 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 เป็น 5.5 ล้านเมตริกตัน เนื่องจากปริมาณน้ำฝนเพียงพอและกระจายตัวดีในช่วงต้นฤดูเพาะปลูก ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ตามผลผลิตต่อไร่ที่เพิ่มขึ้น ด้านภาพรวมราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 ตามราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ตามความต้องการรับซื้อของผู้ผลิตอาหารสัตว์ ประกอบกับแนวโน้มราคาข้าวเปลือกเจ้านาปีอยู่ในเกณฑ์ดี ตามความต้องการรับซื้อเพื่อส่งออกและมาตรการแทรกแซงราคาของภาครัฐ จากผลผลิตและราคาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้รายได้เกษตรกรจากพืชสำคัญดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 16.1
2. ภาคอุตสาหกรรม การผลิตภาคอุตสาหกรรมของภาคเหนือในเดือนนี้ขยายตัวตามการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก มูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกจากนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.3 เป็น 114.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ประเภทสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นมาก เช่น อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา อัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ส่วนการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศขยายตัว โดยยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดอุตสาหกรรมและการผลิตสังกะสี เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 และ 51.1 ตามลำดับ
3. ภาคบริการ กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี และเริ่มปรับตัวเข้าใกล้เดือนเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดประชุมสัมมนาของภาคเอกชนและส่วนราชการที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียและชาวไทยเพิ่มขึ้น โดยยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.9 ราคาห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.2 แต่สำหรับในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น จังหวัดเชียงใหม่มีผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ด้านอัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.2 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 68.5 ใกล้เคียงระดับเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ร้อยละ 68.7
4. การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่อง การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทการขายส่งขายปลีก เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 60.5 เป็น 198.8 ล้านบาท เร่งตัวเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ และเชียงราย ด้านยอดจดทะเบียนรถยนต์กลับมาขยายตัวดีอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.8 เทียบกับเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 โดยขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงกระตุ้นของยานยนต์รุ่นใหม่ที่เข้าสู่ตลาด อัตราดอกเบี้ยต่ำ และเงื่อนไขการผ่อนชำระจูงใจ การใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนเดือนตุลาคม 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 ขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด อย่างไรก็ตามสำหรับยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์กลับชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 1.2 เหลือ 20,023 คัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ทั้งนี้ชะลอตัวในจังหวัดหลักของภาค ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก นครสวรรค์ และเชียงราย เป็นสำคัญ
5. การลงทุนภาคเอกชน ชะลอตัว กิจกรรมด้านการก่อสร้างภาคเอกชนชะลอตัว โดยพื้นที่ก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 20.4 โดยลดลงในพื้นที่ทุกประเภท และลดลงมากในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากได้ขยายการก่อสร้างไปมากในช่วงก่อนหน้า ด้านค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ชะลอจากเดือนก่อน สำหรับการลงทุนเพื่อการผลิต ยอดจดทะเบียนของโรงงานอุตสาหกรรมตั้งใหม่ มีจำนวน 36 โรงงาน เงินลงทุนลดลงร้อยละ 17.4 เหลือ 212.0 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมีจำนวน 6 โครงการ ซึ่งอยู่ในหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์โลหะ และอุตสาหกรรมเบา ในจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ และพิษณุโลก เงินลงทุนลดลงร้อยละ 27.7 เหลือ 675.2 ล้านบาท
6. การคลัง การจัดเก็บรายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.4 เป็น 901.8 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 18.7, 14.1 และ 40.4 ตามลำดับ สะท้อนการขยายตัวต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจ ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดในภาคเหนือ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.3 เป็น 8,726.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนร้อยละ 6.7 และ 12.6 ตามลำดับ
7. การค้าต่างประเทศ มูลค่าการส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เป็น 153.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการส่งออกสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.3 เป็นสำคัญ สินค้าส่งออกสำคัญในเดือนนี้ประกอบด้วย เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา ทรานฟอร์เมอร์และมอเตอร์ และอัญมณี ไปยังตลาดสำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา สำหรับการส่งออกผ่านด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 ส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าเกษตรแช่แข็ง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ถนอมอาหารไม่บรรจุกระป๋อง และเซรามิก ด้านมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 เป็น 100.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการนำเข้าสินค้าของนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือร้อยละ 28.8 เพิ่มขึ้นมากในสินค้าประเภทเครื่องจักรและวัตถุดิบ
ส่วนการค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนเพิ่มขึ้นทั้งการส่งออกและนำเข้า โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เป็น 28.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามมูลค่าส่งออกไปพม่าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.9 เป็น 15.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการส่งออกผงชูรส น้ำมันพืช รถจักรยานยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่การส่งออกไปจีนตอนใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.9 เป็น 11.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทลำไยอบแห้ง ยางพาราแผ่นรมควัน และชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง ด้านการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว เป็น 8.7 ล้านดอลลาร์ ตามการนำเข้าสินค้าจากจีนตอนใต้ที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัว เป็น 5.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่นำเข้าสินค้าประเภทแอปเปิ้ล สาลี่ และกระเทียม
ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเดือนนี้ เกินดุล 52.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนที่เกินดุล 44.0 ล้านดอลลาร์ สรอ.
8. ระดับราคา ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคเหนือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเดือนก่อน โดยราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ตามราคาข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวที่เพิ่มขึ้นจากผลผลิตออกสู่ตลาดไม่มากขณะที่มีความต้องการบริโภค ส่วนราคาผลไม้อยู่ในระดับดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการภาครัฐ ทั้งการเร่งระบายผลผลิต การผลักดันการส่งออก และส่งเสริมการแปรรูป ด้านราคาสินค้าหมวดอื่นๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตามราคาค่าเช่าที่พักอาศัยยังคงลดลงต่อเนื่อง
9. การจ้างงาน จากการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในเดือนตุลาคม 2546 ในภาคเหนือมีกำลังแรงงานรวม 6.5 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 6.2 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.2 ล้านคน และผู้รอฤดูกาล 24 พันคน สัดส่วนผู้มีงานทำต่อกำลังแรงงานรวมคิดเป็นร้อยละ 96.5 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 97.0 ในเดือนก่อน เนื่องจากการจ้างงานในภาคเกษตรลดลง อย่างไรก็ตามการจ้างงานในภาคนอกเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 เป็นผลจากภาคบริการที่ปรับตัวดีขึ้นตามภาวะการท่องเที่ยว ประกอบกับภาคการค้า และอุตสาหกรรมอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นผลจากการว่างงานในภาคก่อสร้าง ภาคกิจกรรมด้านบริการชุมชน สังคมและการบริการส่วนบุคคลอื่นๆ และภาคอุตสาหกรรมการผลิต
10. ภาวะการเงิน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2546 ยอดคงค้างเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.4 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นมากในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลกและนครสวรรค์ ด้านยอดคงค้างสินเชื่อขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.2 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เดือนก่อน จากการให้สินเชื่อของสาขาธนาคารของรัฐและธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ โดยขยายตัวมากในสินเชื่อหมวดพาณิชยกรรมในกลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และการนำเข้าส่งออก สินเชื่ออุตสาหกรรรม และสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ให้กับประชาชนทั่วไปเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและบริโภคสินค้า ทั้งนี้เพิ่มขึ้นในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนครสวรรค์ เชียงใหม่ นครสวรรค์ พิจิตร ลำปาง และเชียงราย ด้านสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากใกล้เคียงเดือนก่อน โดยอยู่ที่ร้อยละ 69.5 เทียบกับร้อยละ 70.9 เดือนก่อน
--ส่วนวิชาการ/ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ--
-ยก-
1. ภาคเกษตร ผลผลิตพืชสำคัญของภาคเหนือ ประกอบด้วย ข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภาพรวมผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 ตามผลผลิตข้าวนาปีฤดูการผลิต 2546/47 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 เป็น 5.5 ล้านเมตริกตัน เนื่องจากปริมาณน้ำฝนเพียงพอและกระจายตัวดีในช่วงต้นฤดูเพาะปลูก ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ตามผลผลิตต่อไร่ที่เพิ่มขึ้น ด้านภาพรวมราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 ตามราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ตามความต้องการรับซื้อของผู้ผลิตอาหารสัตว์ ประกอบกับแนวโน้มราคาข้าวเปลือกเจ้านาปีอยู่ในเกณฑ์ดี ตามความต้องการรับซื้อเพื่อส่งออกและมาตรการแทรกแซงราคาของภาครัฐ จากผลผลิตและราคาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้รายได้เกษตรกรจากพืชสำคัญดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 16.1
2. ภาคอุตสาหกรรม การผลิตภาคอุตสาหกรรมของภาคเหนือในเดือนนี้ขยายตัวตามการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก มูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกจากนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.3 เป็น 114.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ประเภทสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นมาก เช่น อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา อัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ส่วนการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศขยายตัว โดยยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดอุตสาหกรรมและการผลิตสังกะสี เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 และ 51.1 ตามลำดับ
3. ภาคบริการ กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี และเริ่มปรับตัวเข้าใกล้เดือนเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดประชุมสัมมนาของภาคเอกชนและส่วนราชการที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียและชาวไทยเพิ่มขึ้น โดยยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.9 ราคาห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.2 แต่สำหรับในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น จังหวัดเชียงใหม่มีผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ด้านอัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.2 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 68.5 ใกล้เคียงระดับเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ร้อยละ 68.7
4. การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่อง การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทการขายส่งขายปลีก เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 60.5 เป็น 198.8 ล้านบาท เร่งตัวเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ และเชียงราย ด้านยอดจดทะเบียนรถยนต์กลับมาขยายตัวดีอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.8 เทียบกับเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 โดยขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงกระตุ้นของยานยนต์รุ่นใหม่ที่เข้าสู่ตลาด อัตราดอกเบี้ยต่ำ และเงื่อนไขการผ่อนชำระจูงใจ การใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนเดือนตุลาคม 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 ขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด อย่างไรก็ตามสำหรับยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์กลับชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 1.2 เหลือ 20,023 คัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ทั้งนี้ชะลอตัวในจังหวัดหลักของภาค ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก นครสวรรค์ และเชียงราย เป็นสำคัญ
5. การลงทุนภาคเอกชน ชะลอตัว กิจกรรมด้านการก่อสร้างภาคเอกชนชะลอตัว โดยพื้นที่ก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 20.4 โดยลดลงในพื้นที่ทุกประเภท และลดลงมากในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากได้ขยายการก่อสร้างไปมากในช่วงก่อนหน้า ด้านค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ชะลอจากเดือนก่อน สำหรับการลงทุนเพื่อการผลิต ยอดจดทะเบียนของโรงงานอุตสาหกรรมตั้งใหม่ มีจำนวน 36 โรงงาน เงินลงทุนลดลงร้อยละ 17.4 เหลือ 212.0 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมีจำนวน 6 โครงการ ซึ่งอยู่ในหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์โลหะ และอุตสาหกรรมเบา ในจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ และพิษณุโลก เงินลงทุนลดลงร้อยละ 27.7 เหลือ 675.2 ล้านบาท
6. การคลัง การจัดเก็บรายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.4 เป็น 901.8 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 18.7, 14.1 และ 40.4 ตามลำดับ สะท้อนการขยายตัวต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจ ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดในภาคเหนือ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.3 เป็น 8,726.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนร้อยละ 6.7 และ 12.6 ตามลำดับ
7. การค้าต่างประเทศ มูลค่าการส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เป็น 153.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการส่งออกสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.3 เป็นสำคัญ สินค้าส่งออกสำคัญในเดือนนี้ประกอบด้วย เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา ทรานฟอร์เมอร์และมอเตอร์ และอัญมณี ไปยังตลาดสำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา สำหรับการส่งออกผ่านด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 ส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าเกษตรแช่แข็ง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ถนอมอาหารไม่บรรจุกระป๋อง และเซรามิก ด้านมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 เป็น 100.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการนำเข้าสินค้าของนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือร้อยละ 28.8 เพิ่มขึ้นมากในสินค้าประเภทเครื่องจักรและวัตถุดิบ
ส่วนการค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนเพิ่มขึ้นทั้งการส่งออกและนำเข้า โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เป็น 28.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามมูลค่าส่งออกไปพม่าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.9 เป็น 15.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการส่งออกผงชูรส น้ำมันพืช รถจักรยานยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่การส่งออกไปจีนตอนใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.9 เป็น 11.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทลำไยอบแห้ง ยางพาราแผ่นรมควัน และชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง ด้านการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว เป็น 8.7 ล้านดอลลาร์ ตามการนำเข้าสินค้าจากจีนตอนใต้ที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัว เป็น 5.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่นำเข้าสินค้าประเภทแอปเปิ้ล สาลี่ และกระเทียม
ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเดือนนี้ เกินดุล 52.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนที่เกินดุล 44.0 ล้านดอลลาร์ สรอ.
8. ระดับราคา ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคเหนือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเดือนก่อน โดยราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ตามราคาข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวที่เพิ่มขึ้นจากผลผลิตออกสู่ตลาดไม่มากขณะที่มีความต้องการบริโภค ส่วนราคาผลไม้อยู่ในระดับดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการภาครัฐ ทั้งการเร่งระบายผลผลิต การผลักดันการส่งออก และส่งเสริมการแปรรูป ด้านราคาสินค้าหมวดอื่นๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตามราคาค่าเช่าที่พักอาศัยยังคงลดลงต่อเนื่อง
9. การจ้างงาน จากการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในเดือนตุลาคม 2546 ในภาคเหนือมีกำลังแรงงานรวม 6.5 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 6.2 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.2 ล้านคน และผู้รอฤดูกาล 24 พันคน สัดส่วนผู้มีงานทำต่อกำลังแรงงานรวมคิดเป็นร้อยละ 96.5 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 97.0 ในเดือนก่อน เนื่องจากการจ้างงานในภาคเกษตรลดลง อย่างไรก็ตามการจ้างงานในภาคนอกเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 เป็นผลจากภาคบริการที่ปรับตัวดีขึ้นตามภาวะการท่องเที่ยว ประกอบกับภาคการค้า และอุตสาหกรรมอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นผลจากการว่างงานในภาคก่อสร้าง ภาคกิจกรรมด้านบริการชุมชน สังคมและการบริการส่วนบุคคลอื่นๆ และภาคอุตสาหกรรมการผลิต
10. ภาวะการเงิน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2546 ยอดคงค้างเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.4 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นมากในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลกและนครสวรรค์ ด้านยอดคงค้างสินเชื่อขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.2 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เดือนก่อน จากการให้สินเชื่อของสาขาธนาคารของรัฐและธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ โดยขยายตัวมากในสินเชื่อหมวดพาณิชยกรรมในกลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และการนำเข้าส่งออก สินเชื่ออุตสาหกรรรม และสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ให้กับประชาชนทั่วไปเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและบริโภคสินค้า ทั้งนี้เพิ่มขึ้นในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนครสวรรค์ เชียงใหม่ นครสวรรค์ พิจิตร ลำปาง และเชียงราย ด้านสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากใกล้เคียงเดือนก่อน โดยอยู่ที่ร้อยละ 69.5 เทียบกับร้อยละ 70.9 เดือนก่อน
--ส่วนวิชาการ/ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ--
-ยก-