แท็ก
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
บัญญัติ บรรทัดฐาน
พรรคประชาธิปัตย์
โรงแรมโนโวเทล
นวัตกรรม
เมื่อเวลา 09.30 น.ที่โรงแรมโนโวเทล จ.เชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการจัดการสัมมนาประชาธิปัตย์นวัตกรรม” ครั้งที่ 2โดยเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างส.ส.ภาคเหนือกับสาขาพรรคในภาคเหนือทั้งหมดและมีแกนนำของพรรค อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค นายประดิษฐ์ ภัทรประดิษฐ์เลขาธิการพรรคเข้าร่วมประชุม
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดสัมมนาและบรรยายพิเศษ ‘ประชาธิปัตย์นวัตกรรม :กรรมการสาขายุคใหม่ร่วมใจสื่อสารทางการเมือง’ ว่าสิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทยได้ใช้การตลาดนำการเมืองแบบโฆษณาชวนเชื่อ คือการพูดเรื่องใหญ่ให้คนเชื่อ เช่นการประกาศว่าจะให้ได้ส.ส.410 เสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยภาคอีสานพรรคไทยรักไทยจะกวาด 130 จาก 138 ที่นั่ง ภาคกลาง 85 จาก 93 ที่นั่งภาคใต้ 20 จาก 54 ที่นั่ง ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่าว่าแต่ 20 ที่นั่งเลย 6 ที่นั่งใน จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะรักษาได้หรือไม่ เพราะนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทย ยังไม่สามารถแก้ปัญหาภาคใต้ได้
‘หากพรรคไทยรักไทยได้เสียงถึง 410 เสียงจริง พรรคประชาธิปัตย์ก็แพ้แน่นอน แต่คนที่แพ้มากกว่าเราก็คือประชาชน เพราะการตรวจสอบจะเป็นหมันเนื่องจากฝ่ายค้านจะไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้เลยไม่ว่ารัฐมนตรีคนนั้นจะทำเลวแค่ไหน และแค่ตอนนี้ใครแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล ท่านนายกฯก็ตาขวางอยู่แล้ว เพราะท่านบอกว่าคนที่ท่านฟังอยู่คนเดียวก็คือเมียและถ้าต่อไปพวกรัฐมนตรีติดเชื้อท่านนายกฯที่ไม่ฟังใครนอกจากฟังเมียก็คงต้องเรียกรัฐบาลชุดนี้ว่า รัฐบาลเมียมาคุม’ นายบัญญัติ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านโยบายแก้ปัญหาคนจนโดยการรับจดทะเบียนคนจนก็เป็นยุทธวิธีชวนเชื่อเพื่อหวังคะแนนนิยมอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่รัฐบาลนำมาใช้โฆษณาชวนเชื่อหาเสียงให้ได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง นอกจากนี้รัฐบาลยังมองแต่เรื่องตัวเลขโดยไม่สนใจสร้างค่านิยมที่ดีให้กับสังคม ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาตนยังไม่เคยได้ยินว่ามีนโยบายให้ประชาชนรู้จักประหยัด เพราะเข้าใจว่าหากพูดอย่างนั้น จะสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่หนุนให้คนกู้เงินมาใช่จ่ายในระบบเศรษฐกิจ
นายบัญญัติกล่าวว่า รัฐบาลมีความเชื่อว่าตราบใดระบบเศรษฐกิจมีทุนหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาแล้วเศรษฐกิจอยู่ได้เหมือนแชร์แม่ชม้อย เอาเงินของคนส่งมือหลังไปจ่ายให้คนมือแรก ๆแต่เมื่อไรที่คนส่งมือหลังหยุดส่งเงินวันไหน แชร์แม่ชม้อยก็ล้มพับไปคามือดังนั้นรัฐบาลจึงมองคนเป็นทางผ่านของเงินแล้วธุรกิจเครือข่ายของคนในรัฐบาลก็เข้ามาดูดซับเงินเพราะแค่หุ้นของบริษัทชินวัตรบริษัทเดียวก็กำไร 3 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งตนเชื่อว่าต่อไปจะมีคนรวยติดอันดับโลกกันมากขึ้นเพราะขณะนี้บริษัทเครือข่ายของคนในรัฐบาลกำลังอ้าขาขยายปีกดำเนินธุรกิจที่เห็นว่าจะมีกำไรมากในอนาคต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 06/01/47--จบ--
-สส-
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดสัมมนาและบรรยายพิเศษ ‘ประชาธิปัตย์นวัตกรรม :กรรมการสาขายุคใหม่ร่วมใจสื่อสารทางการเมือง’ ว่าสิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทยได้ใช้การตลาดนำการเมืองแบบโฆษณาชวนเชื่อ คือการพูดเรื่องใหญ่ให้คนเชื่อ เช่นการประกาศว่าจะให้ได้ส.ส.410 เสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยภาคอีสานพรรคไทยรักไทยจะกวาด 130 จาก 138 ที่นั่ง ภาคกลาง 85 จาก 93 ที่นั่งภาคใต้ 20 จาก 54 ที่นั่ง ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่าว่าแต่ 20 ที่นั่งเลย 6 ที่นั่งใน จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะรักษาได้หรือไม่ เพราะนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทย ยังไม่สามารถแก้ปัญหาภาคใต้ได้
‘หากพรรคไทยรักไทยได้เสียงถึง 410 เสียงจริง พรรคประชาธิปัตย์ก็แพ้แน่นอน แต่คนที่แพ้มากกว่าเราก็คือประชาชน เพราะการตรวจสอบจะเป็นหมันเนื่องจากฝ่ายค้านจะไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้เลยไม่ว่ารัฐมนตรีคนนั้นจะทำเลวแค่ไหน และแค่ตอนนี้ใครแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล ท่านนายกฯก็ตาขวางอยู่แล้ว เพราะท่านบอกว่าคนที่ท่านฟังอยู่คนเดียวก็คือเมียและถ้าต่อไปพวกรัฐมนตรีติดเชื้อท่านนายกฯที่ไม่ฟังใครนอกจากฟังเมียก็คงต้องเรียกรัฐบาลชุดนี้ว่า รัฐบาลเมียมาคุม’ นายบัญญัติ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านโยบายแก้ปัญหาคนจนโดยการรับจดทะเบียนคนจนก็เป็นยุทธวิธีชวนเชื่อเพื่อหวังคะแนนนิยมอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่รัฐบาลนำมาใช้โฆษณาชวนเชื่อหาเสียงให้ได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง นอกจากนี้รัฐบาลยังมองแต่เรื่องตัวเลขโดยไม่สนใจสร้างค่านิยมที่ดีให้กับสังคม ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาตนยังไม่เคยได้ยินว่ามีนโยบายให้ประชาชนรู้จักประหยัด เพราะเข้าใจว่าหากพูดอย่างนั้น จะสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่หนุนให้คนกู้เงินมาใช่จ่ายในระบบเศรษฐกิจ
นายบัญญัติกล่าวว่า รัฐบาลมีความเชื่อว่าตราบใดระบบเศรษฐกิจมีทุนหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาแล้วเศรษฐกิจอยู่ได้เหมือนแชร์แม่ชม้อย เอาเงินของคนส่งมือหลังไปจ่ายให้คนมือแรก ๆแต่เมื่อไรที่คนส่งมือหลังหยุดส่งเงินวันไหน แชร์แม่ชม้อยก็ล้มพับไปคามือดังนั้นรัฐบาลจึงมองคนเป็นทางผ่านของเงินแล้วธุรกิจเครือข่ายของคนในรัฐบาลก็เข้ามาดูดซับเงินเพราะแค่หุ้นของบริษัทชินวัตรบริษัทเดียวก็กำไร 3 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งตนเชื่อว่าต่อไปจะมีคนรวยติดอันดับโลกกันมากขึ้นเพราะขณะนี้บริษัทเครือข่ายของคนในรัฐบาลกำลังอ้าขาขยายปีกดำเนินธุรกิจที่เห็นว่าจะมีกำไรมากในอนาคต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 06/01/47--จบ--
-สส-