บัญญัติชี้สถานการณ์ใต้รุนแรงเป็นความผิดพลาดของนโยบายอย่าโยนความผิดให้ข้าราชการชั้นผู้น้อย ด้านนิพนธ์ แนะรัฐบาลลดทิฐิรับฟังความเห็นต่าง องอาจชี้บุคลิกนายกฯ ไม่ช่วยแก้ปัญหา
วันนี้(6 ม.ค.47)เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมโนโวเทล จ.เชียงใหม่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ก่อนการสัมมนาประชาธิปัตย์นวัตกรรมครั้งที่ 2 ถึง เหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ว่า ถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งสำคัญที่มีการสูญเสียอย่างมากมาย และเหมือนกับทุกครั้งที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง นายกฯจะออกมาระบุว่ารู้ตัวคนทำแล้ว รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่ที่ผ่านมาก็ยังแก้ปัญหา ตามจับตัวคนร้ายไม่ได้เลยสักครั้ง
นายบัญญัติ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นรัฐบาลโยนความผิดให้ข้าราชการ ซึ่งตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับความผิดพลาดทางนโยบายของรัฐบาลมากกว่า เพราะในครั้งนี้รัฐบาลก็ได้ยอมรับความจริงว่า การประสานงานโดยเฉพาะในหน่วยข่าวกรองใช้ไม่ได้
‘ต้องยอมรับว่าภายใต้นโยบายใหม่ ภายใต้โครงสร้างใหม่ ความเป็นเอกภาพของหน่วยที่เกี่ยวข้องไม่มี แล้วที่ชัดเจนมากคือช่องว่างระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลกับชาวบ้านก็ยังห่างไกลกันมากขึ้น ตรงนี้สำคัญมากเพราะจากประสบการณ์การเข้าไปดูแลปัญหาใต้พบว่า เมื่อไหร่ที่ช่องว่างระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเจ้าหน้าที่รัฐห่างกันมากขึ้น ประชาชนไม่พร้อมแจ้งเบาะแส เมื่อนั้นเหตุร้ายจะเกิดขึ้น และต้องยอมรับว่าครั้งนี้ไม่ธรรมดา มีการทำอย่างเป็นระบบเลย มาถึงเวลานี้รัฐบาลต้องเลิกทิฐิได้แล้ว’
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้(ศ.อบต.) และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาใต้ผิดทางมาตลอด รัฐบาลละเลยในการสร้างความเข้าใจ กับประชาชนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งนี้ตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้ยอมรับความจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงาน บุคคลที่รัฐบาลส่งไปในพื้นที่ภาคใต้มีความเข้าใจปัญหามากน้อยแค่ไหน หรือ กรณีที่รัฐบาลยุบ ศ.อบต. และ พตท.43 และนำคนนอกเข้าไปปฏิบัติงานนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้รัฐบาลได้ลดทิฐิและยอมรับความจริงเหล่านี้และกลับมาแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การประชุมคณะผู้บริหารวานนี้ (5 ม.ค.47) ว่า ที่ประชุมเห็นว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่เกิดขึ้น เกิดจากลักษณะของนายกฯ 3 ประการ ดังนี้ คือ
1. วิธีคิดในการแก้ปัญหา โดยนายกฯคิดว่าควรยุบ ศ.อบต. และ พตท.43 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการหนุนกำลังการปราบปรามการก่อการร้าย ที่ประชุมมองว่า วิธีคิดนี้เป็นวิธีคิดที่ผิดพลาดในการยุบ 2 หน่วยงาน ทำให้ทหารไม่เข้าไปในพื้นที่ ถือเป็นการเปิดช่องให้โจรบุกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
2.วิธีการปฏิบัติงาน ซึ่งนายกฯสั่งการแก้ปัญหาใต้ แต่ไม่ติดตามงาน ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดก็เป็นการพิสูจน์ได้แล้วว่า ว่า การสั่งการไม่ติดตามมีปัญหาอย่างไร
3. ทัศนคติของนายกฯที่ไม่รับฟังข้อเสนอของฝ่ายค้านหรือนักวิชาการภาคใต้ที่เสนอปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาให้รัฐบาล อย่างไรก็ตามหากนายกฯยังแก้ปัญหาบุคลิกลักษณะ 3 ประการข้างต้นไม่ได้ ปัญหาใต้ก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 06/01/47--จบ--
-สส-
วันนี้(6 ม.ค.47)เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมโนโวเทล จ.เชียงใหม่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ก่อนการสัมมนาประชาธิปัตย์นวัตกรรมครั้งที่ 2 ถึง เหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ว่า ถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งสำคัญที่มีการสูญเสียอย่างมากมาย และเหมือนกับทุกครั้งที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง นายกฯจะออกมาระบุว่ารู้ตัวคนทำแล้ว รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่ที่ผ่านมาก็ยังแก้ปัญหา ตามจับตัวคนร้ายไม่ได้เลยสักครั้ง
นายบัญญัติ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นรัฐบาลโยนความผิดให้ข้าราชการ ซึ่งตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับความผิดพลาดทางนโยบายของรัฐบาลมากกว่า เพราะในครั้งนี้รัฐบาลก็ได้ยอมรับความจริงว่า การประสานงานโดยเฉพาะในหน่วยข่าวกรองใช้ไม่ได้
‘ต้องยอมรับว่าภายใต้นโยบายใหม่ ภายใต้โครงสร้างใหม่ ความเป็นเอกภาพของหน่วยที่เกี่ยวข้องไม่มี แล้วที่ชัดเจนมากคือช่องว่างระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลกับชาวบ้านก็ยังห่างไกลกันมากขึ้น ตรงนี้สำคัญมากเพราะจากประสบการณ์การเข้าไปดูแลปัญหาใต้พบว่า เมื่อไหร่ที่ช่องว่างระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเจ้าหน้าที่รัฐห่างกันมากขึ้น ประชาชนไม่พร้อมแจ้งเบาะแส เมื่อนั้นเหตุร้ายจะเกิดขึ้น และต้องยอมรับว่าครั้งนี้ไม่ธรรมดา มีการทำอย่างเป็นระบบเลย มาถึงเวลานี้รัฐบาลต้องเลิกทิฐิได้แล้ว’
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้(ศ.อบต.) และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาใต้ผิดทางมาตลอด รัฐบาลละเลยในการสร้างความเข้าใจ กับประชาชนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งนี้ตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้ยอมรับความจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงาน บุคคลที่รัฐบาลส่งไปในพื้นที่ภาคใต้มีความเข้าใจปัญหามากน้อยแค่ไหน หรือ กรณีที่รัฐบาลยุบ ศ.อบต. และ พตท.43 และนำคนนอกเข้าไปปฏิบัติงานนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้รัฐบาลได้ลดทิฐิและยอมรับความจริงเหล่านี้และกลับมาแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การประชุมคณะผู้บริหารวานนี้ (5 ม.ค.47) ว่า ที่ประชุมเห็นว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่เกิดขึ้น เกิดจากลักษณะของนายกฯ 3 ประการ ดังนี้ คือ
1. วิธีคิดในการแก้ปัญหา โดยนายกฯคิดว่าควรยุบ ศ.อบต. และ พตท.43 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการหนุนกำลังการปราบปรามการก่อการร้าย ที่ประชุมมองว่า วิธีคิดนี้เป็นวิธีคิดที่ผิดพลาดในการยุบ 2 หน่วยงาน ทำให้ทหารไม่เข้าไปในพื้นที่ ถือเป็นการเปิดช่องให้โจรบุกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
2.วิธีการปฏิบัติงาน ซึ่งนายกฯสั่งการแก้ปัญหาใต้ แต่ไม่ติดตามงาน ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดก็เป็นการพิสูจน์ได้แล้วว่า ว่า การสั่งการไม่ติดตามมีปัญหาอย่างไร
3. ทัศนคติของนายกฯที่ไม่รับฟังข้อเสนอของฝ่ายค้านหรือนักวิชาการภาคใต้ที่เสนอปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาให้รัฐบาล อย่างไรก็ตามหากนายกฯยังแก้ปัญหาบุคลิกลักษณะ 3 ประการข้างต้นไม่ได้ ปัญหาใต้ก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 06/01/47--จบ--
-สส-