เมื่อเช้าวันนี้ ( 7 ม.ค.46 )นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ ข่าวยามเช้า ” ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็101.0 เมกะเฮิร์ท ในเรื่องของการทาบทามนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มาเป็นผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ ในนามพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามถึงกระแสข่าวที่ได้ทาบทาบนายอภิรักษ์ ให้ลงสมัครผู้ว่า กทม. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งตนเองก็ได้ทาบทามมาหลายเดือนแล้ว โดยท่านก็มีความสนใจ ซึ่งตนและสมาชิกพรรคหลายท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เห็นว่าท่านมีความเหมาะสม
“ กรุงเทพต้องการการบริหารจากคนรุ่นใหม่ แล้วผมก็ต้องการคนที่มีประสบการณ์ทางด้านการบริหารเข้ามา ผนวกกับความสนใจทางการเมือง เพราะจริงๆแล้วงานการเมือง มันผสมผสานกันระหว่างการบริหารและการเมืองในตัวของมันเอง จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ”
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การบริหารกรุงเทพฯ ไม่เหมือนกับการบริหารระดับชาติซึ่งระบบสภามีความสำคัญอย่างมาก โดยการบริหาร กทม.นั้นให้ความสำคัญกับตัวผู้บริหารสูงสุดค่อนข้างมาก มีการแยกอำนาจโดยเด็ดขาดจากสภา กทม. ในเมื่อมีผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีความสนใจทางการเมือง จึงเห็นว่ามีความเหมาะสม นอกจากนั้นคุณอภิรักษ์ ก็เป็นสมาชิกพรรคร่วม 10 ปีแล้ว จึงเห็นได้ว่ามีความตั้งใจและอุดมการณ์ที่ตรงกับพรรค จึงได้มีการพูดคุยกัน
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ถือว่ามีความสำคัญมาก จึงไม่อยากเห็นใครนำตำแหน่งนี้มาเป็นบันไดทางการเมือง ไม่ว่าเป็นบันไดขึ้นหรือบันไดลง ในการทาบทามจึงได้พูดคุยกับท่านแล้วว่าหากมาทำงานตรงนี้ ก็ต้องให้ความทุ่มเทอย่างเต็มที่
“ แม้ว่าจะยังไม่เวลาอีกหลายเดือน แต่กรุงเทพถือเป็นเมืองใหญ่ สิ่งที่เราต้องการ คือ ให้คนกรุงเทพมาร่วมกำหนดแนวทางของการบริหาร กทม.ด้วย เพราะเราเชื่อการเมืองแบบมีส่วนร่วมของประชาชน ผมจึงอยากให้ใช้เวลาตรงนี้ ไม่ใช่ว่าอีกเดือนกว่าๆจะมีการเลือกตั้ง ก็ไปหยิบใครมา ผมอยากให้ผู้สมัครมีการทุ่มเทในส่วนนี้จริงๆ ”
เมื่อถูกถามถึงจุดแข็งของคุณอภิรักษ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆแล้ว ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่นโยบาย และกระบวนการ ซึ่งต้องทำทั้ง 3 อย่างพร้อมกันไป แต่สำหรับจุดแข็งของท่าน ก็คือ ชื่อเสียง ประสบการณ์ ความมุ่งมั่น และการเป็นคนรุ่นใหม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 08/01/47--จบ--
-สส-
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามถึงกระแสข่าวที่ได้ทาบทาบนายอภิรักษ์ ให้ลงสมัครผู้ว่า กทม. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งตนเองก็ได้ทาบทามมาหลายเดือนแล้ว โดยท่านก็มีความสนใจ ซึ่งตนและสมาชิกพรรคหลายท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เห็นว่าท่านมีความเหมาะสม
“ กรุงเทพต้องการการบริหารจากคนรุ่นใหม่ แล้วผมก็ต้องการคนที่มีประสบการณ์ทางด้านการบริหารเข้ามา ผนวกกับความสนใจทางการเมือง เพราะจริงๆแล้วงานการเมือง มันผสมผสานกันระหว่างการบริหารและการเมืองในตัวของมันเอง จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ”
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การบริหารกรุงเทพฯ ไม่เหมือนกับการบริหารระดับชาติซึ่งระบบสภามีความสำคัญอย่างมาก โดยการบริหาร กทม.นั้นให้ความสำคัญกับตัวผู้บริหารสูงสุดค่อนข้างมาก มีการแยกอำนาจโดยเด็ดขาดจากสภา กทม. ในเมื่อมีผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีความสนใจทางการเมือง จึงเห็นว่ามีความเหมาะสม นอกจากนั้นคุณอภิรักษ์ ก็เป็นสมาชิกพรรคร่วม 10 ปีแล้ว จึงเห็นได้ว่ามีความตั้งใจและอุดมการณ์ที่ตรงกับพรรค จึงได้มีการพูดคุยกัน
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ถือว่ามีความสำคัญมาก จึงไม่อยากเห็นใครนำตำแหน่งนี้มาเป็นบันไดทางการเมือง ไม่ว่าเป็นบันไดขึ้นหรือบันไดลง ในการทาบทามจึงได้พูดคุยกับท่านแล้วว่าหากมาทำงานตรงนี้ ก็ต้องให้ความทุ่มเทอย่างเต็มที่
“ แม้ว่าจะยังไม่เวลาอีกหลายเดือน แต่กรุงเทพถือเป็นเมืองใหญ่ สิ่งที่เราต้องการ คือ ให้คนกรุงเทพมาร่วมกำหนดแนวทางของการบริหาร กทม.ด้วย เพราะเราเชื่อการเมืองแบบมีส่วนร่วมของประชาชน ผมจึงอยากให้ใช้เวลาตรงนี้ ไม่ใช่ว่าอีกเดือนกว่าๆจะมีการเลือกตั้ง ก็ไปหยิบใครมา ผมอยากให้ผู้สมัครมีการทุ่มเทในส่วนนี้จริงๆ ”
เมื่อถูกถามถึงจุดแข็งของคุณอภิรักษ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆแล้ว ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่นโยบาย และกระบวนการ ซึ่งต้องทำทั้ง 3 อย่างพร้อมกันไป แต่สำหรับจุดแข็งของท่าน ก็คือ ชื่อเสียง ประสบการณ์ ความมุ่งมั่น และการเป็นคนรุ่นใหม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 08/01/47--จบ--
-สส-