จีนเปิดฉากปรับข้อบังคับใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้า“CCC MARK”ภายหลังร่วมเป็นสมาชิก WTO อ้างเพื่อนำไปสู่ความเป็นระบบและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล....ส่งผลกระทบผู้ประกอบการไทยประสบปัญหาการยื่นขอทั้งด้านภาษา ระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จีนได้มีการบังคับใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้ามาก่อนหน้านี้ คือ Great Wall Mark ใช้กับสินค้าผลิตในประเทศ และ CCBI Safety Mark ใช้กับสินค้าจากต่างประเทศ แต่หลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) จึงได้ปรับปรุงให้เป็นระบบมาตราฐานเดียวกัน เรียกว่า (CCO) ตัดสินให้สหภาพยุโรป (EU) ผิดในคดีการกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) แก่ประเทศที่กำลังพัฒนา โดยให้เหตุผลว่า การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเป็นการจำกัดการใช้ประโยชน์จาก GSP ของประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆที่มีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ตามที่ EU กำหนด ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อหลักการสำคัญของ WTO ในเรื่องการไม่เลือกปฏิบัติ ที่ว่าการให้สิทธิประโยชน์แก่สมาชิก WTO อื่นๆ จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน
นางอภิรดี กล่าวต่อว่า อินเดียเป็นโจทย์ยื่นฟ้องการใช้ระบบ GSP อย่างเลือกปฏิบัติของ EU ภายใต้โครงการการให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ดำเนินการแก้ปัญหาการค้าและการผลิตยาเสพติด ซึ่งทำให้สินค้าส่งออกจากประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศที่ EU เห็นว่ามีการดำเนินการที่น่าพอใจ เช่น ปากีสถาน ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจาก EU ซึ่งคำตัดสินของ WTO ในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อโครงการ GSP อื่นๆของประเทศสมาชิก เช่น โครงการ GSP ของสหรัฐฯ ที่ให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนาในทวีปแอฟริกา เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จีนได้มีการบังคับใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้ามาก่อนหน้านี้ คือ Great Wall Mark ใช้กับสินค้าผลิตในประเทศ และ CCBI Safety Mark ใช้กับสินค้าจากต่างประเทศ แต่หลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) จึงได้ปรับปรุงให้เป็นระบบมาตราฐานเดียวกัน เรียกว่า (CCO) ตัดสินให้สหภาพยุโรป (EU) ผิดในคดีการกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) แก่ประเทศที่กำลังพัฒนา โดยให้เหตุผลว่า การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเป็นการจำกัดการใช้ประโยชน์จาก GSP ของประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆที่มีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ตามที่ EU กำหนด ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อหลักการสำคัญของ WTO ในเรื่องการไม่เลือกปฏิบัติ ที่ว่าการให้สิทธิประโยชน์แก่สมาชิก WTO อื่นๆ จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน
นางอภิรดี กล่าวต่อว่า อินเดียเป็นโจทย์ยื่นฟ้องการใช้ระบบ GSP อย่างเลือกปฏิบัติของ EU ภายใต้โครงการการให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ดำเนินการแก้ปัญหาการค้าและการผลิตยาเสพติด ซึ่งทำให้สินค้าส่งออกจากประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศที่ EU เห็นว่ามีการดำเนินการที่น่าพอใจ เช่น ปากีสถาน ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจาก EU ซึ่งคำตัดสินของ WTO ในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อโครงการ GSP อื่นๆของประเทศสมาชิก เช่น โครงการ GSP ของสหรัฐฯ ที่ให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนาในทวีปแอฟริกา เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-