สินค้าวัสดุก่อสร้าง:
การส่งออกวัสดุก่อสร้างในเดือนมกราคมปี 2548 มีมูลค่าการส่งออก 327.05 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนธันวาคมปี 2547 ร้อยละ 5.86 คาดว่าการส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 จะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 366.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้าง:
มูลค่าการส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างโดยรวมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีการนำเข้าสูงขึ้น เนื่องจากมีความต้องการในประเทศมากขึ้น เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและการก่อสร้างต่างๆ และจากผลกระทบของเหตุการสึนามิ ที่ต้องเร่งก่อสร้างและซ่อมแซมอาคาร ถนน สะพาน สาธารณูปโภคต่าง ๆ และการตกแต่งภายในที่มากขึ้นในภาคใต้ รวมทั้งผลกระทบจากราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ ทำให้
ราคาสินค้าส่งออกเพิ่มสูงขึ้น:
ตลาดส่งออกสำคัญของไทย คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เวียดนามและมาเลเซีย ซึ่งมีการขยายตัวทางอุตสาหกรรมต่างๆ และโครงการก่อสร้างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
มูลค่า 4,280 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2547
เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์:
การส่งออกเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคมมีมูลค่า215.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนธันวาคม 2547 ร้อยละ 8.83 คาดว่าการส่งออกเหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 จะมีมูลค่า 269.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์:
การส่งออกเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ในปี 2548 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของการก่อสร้างและปริมาณการส่งออกภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ในปี 2548 โดยตลาดส่งออกเหล็กไทยที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งมีอัตราการขยายตัวของปริมาณความต้องการเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กไทยสูงมาก เพราะโรงงานในประเทศผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ และมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างในประเทศ
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
มูลค่า 3,147 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปี 2547
ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม:
การส่งออกผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมในเดือนมกราคมมีมูลค่าการส่งออก 39.39 เหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนธันวาคมร้อยละ 14.42 คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 จะมีมูลค่า 48.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออก ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม:
การส่งออกผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมในปี 2548 คาดว่าจะมีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวในการผลิตและการส่งออกของ อุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งไทยจะนำเข้าวัตถุดิบต้นทางเพื่อแปรรูปเป็นชิ้นส่วนและส่วนประกอบของสินค้าเพื่อการส่งออก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีแนวโน้มการส่งออกสูงถึงร้อยละ 30 ในปี 2548 เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า โครงสร้างประตูหน้าต่าง และบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ตลาดส่งออกหลัก คือ ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
มูลค่า 621 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับปี 2547
ปูนซีเมนต์:
การส่งออกปูนซีเมนต์ในเดือนมกราคม มีมูลค่าการส่งออก 32.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปี 2547 ร้อยละ 35.52 คาดว่าการส่งออกปูนซีเมนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 มีมูลค่า 36.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกปูนซีเมนต์:
การส่งออกปูนซีเมนต์โดยรวมในปี 2548 จะมีการขยายตัวในอัตราที่ลดลงหรือทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2547 เนื่องจากความต้องการภายในประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลให้ความสำคัญต่อ โครงการและสาธารณูปโภค เช่น ถนน เขื่อน และสนามบิน รวมทั้งราคาปูนซีเมนต์ในตลาดต่างประเทศมีการแข่งขันสูง ผู้ส่งออกจึงเน้นขายในประเทศมากกว่าเพราะได้ราคาที่ดีกว่า ประเทศที่นำเข้าปูนซีเมนต์ไทย 4 อันดับแรก คือ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา บังคลาเทศ และกัมพูชา
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
มูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2547
โพล์ตกลาสและแก้วที่ขัดผิว:
การส่งออกโพล์ตกลาสและแก้วที่ขัดผิวในเดือนมกราคม มีมูลค่า 13.77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.08 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2547 คาดว่าการส่งออกโพล์ตกลาสและแก้วที่ขัดผิวในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 มีมูลค่า 15.83 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกโพล์ตกลาสและแก้วที่ขัดผิว:
การส่งออกโพล์ตกลาสและแก้วที่ขัดผิวปี 2548 มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามปริมาณการส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้กระจกเป็นส่วนประกอบ ตลาดส่งออกหลัก คือ ญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก จีน
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
มูลค่า 162 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปี 2547
ที่มา: http://www.depthai.go.th
-ดท-