นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเตรียมที่จะหารือถึงแนวทางและจุดยืนของพรรคต่อการอภิปรายเกี่ยวกับพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในวันอังคารที่ 23 สิงหาคมนี้อีกครั้ง หลังจากที่วิปฝ่ายค้านได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการยกร่างแก้ไขพ.ร.ก.ขึ้นมาใหม่โดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม แต่อาจจะดำเนินต่อไม่ได้เนื่องจากต้องอาศัยเสียงข้างมากในสภาเพื่อผ่านร่างดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จะดำเนินตามแนวทางดังกล่าว พรรคคงจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในพ.ร.ก.ไม่ได้ แต่คงทำได้เพียงแค่มีมติรับหรือไม่รับร่างพ.ร.ก.ดังกล่าวเท่านั้น
นายองอาจ กล่าวว่า กรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาปรับปรุงเนื้อหาของพ.ร.ก.ดังกล่าว เนื่องจากเนื้อหามีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงอีกมาก โดยเนื้อหาหลักๆ ที่ควรจะต้องปรับปรุงมีเนื้อหาในส่วนที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการบังคับใช้กฏทั่วไปที่ไม่ใช่จะใช้เฉพาะภาคใต้ ซึ่งต้องดูว่าแนวนโยบายรัฐบาลจะสั่งการใช้เครื่องมือทางกฏหมายอย่างไร ดังนั้นสิ่งสำคัญจะต้องมีความเป็นธรรมในการบังคับใช้ เพราะเมื่อมีพ.ร.ก.เป็นเครื่องมือย่อมขึ้นอยู่กับผู้บริหารประเทศจะมีคำสั่งอย่างไรที่จะให้ผู้ปฏิบัติใช้ให้เหมาะสม ซึ่งจุดนี้สังคมควรจะต้องชี้ว่ารัฐบาลควรจะใช้กฎหมายอย่างไร เพราะรัฐบาลก็บอกว่าปัญหาภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติจึงสมควรเปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ส.ค. 2548--จบ--
นายองอาจ กล่าวว่า กรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาปรับปรุงเนื้อหาของพ.ร.ก.ดังกล่าว เนื่องจากเนื้อหามีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงอีกมาก โดยเนื้อหาหลักๆ ที่ควรจะต้องปรับปรุงมีเนื้อหาในส่วนที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการบังคับใช้กฏทั่วไปที่ไม่ใช่จะใช้เฉพาะภาคใต้ ซึ่งต้องดูว่าแนวนโยบายรัฐบาลจะสั่งการใช้เครื่องมือทางกฏหมายอย่างไร ดังนั้นสิ่งสำคัญจะต้องมีความเป็นธรรมในการบังคับใช้ เพราะเมื่อมีพ.ร.ก.เป็นเครื่องมือย่อมขึ้นอยู่กับผู้บริหารประเทศจะมีคำสั่งอย่างไรที่จะให้ผู้ปฏิบัติใช้ให้เหมาะสม ซึ่งจุดนี้สังคมควรจะต้องชี้ว่ารัฐบาลควรจะใช้กฎหมายอย่างไร เพราะรัฐบาลก็บอกว่าปัญหาภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติจึงสมควรเปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ส.ค. 2548--จบ--