กรุงเทพ--16 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ (15 มกราคม 2547) Dr. Assad Kotaite ประธานคณะมนตรีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 15 | 16 มกราคม 2547 เพื่อร่วมในพิธีเปิดอาคารหอประชุมใหม่ของสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยรัฐบาลไทยเป็นผู้จัดสร้างให้ ในการเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีฯ ครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเรียนให้ทราบถึงผลงานของ ICAO ในปัจจุบันรวมทั้งแผนงานของ ICAO ในอนาคต ICAO เป็นทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการออกกฎระเบียบและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาการบิน ท่าอากาศยาน ความปลอดภัยในการบินและเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศสำหรับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศสมาชิก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 188 ประเทศ
สำหรับประเทศไทยนั้น ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก ICAO ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2490 โดยได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความตกลงพหุภาคีและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของ ICAO มาตลอด ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับคัดเลือกจาก ICAO ให้เป็นที่ตั้ง สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 โดยแต่เดิมตั้งอยู่ ณ ศาลาสันติธรรม ต่อมากระทรวงคมนาคมได้เช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานภูมิภาคฯ ซึ่งได้ทำพิธีเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2532 แต่เนื่องจากสถานที่เดิมคับแคบ รัฐบาลไทยจึงได้ก่อสร้างอาคารหอประชุมใหม่ให้แก่สำนักงานภูมิภาคฯ ของ ICAO โดยใช้งบประมาณของไทยในวงเงินค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท และได้มีพิธีเปิดอาคารใหม่ขึ้นในตอนเช้าวันนี้
การที่สำนักงานภูมิภาคของ ICAO ตั้งอยู่ในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลไทยและ ICAO และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานด้านการบินพลเรือนของไทยที่จะสามารถประสานงานกับ ICAO ได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการติดตามมาตรฐานการบินที่ ICAO กำหนดให้รัฐภาคีใช้ได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ จนทำให้การให้บริการการบินพลเรือนของไทยมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ รวมทั้งช่วยให้ประเทศไทยได้รับความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบของโครงการ การประชุม ทุนสัมมนา และฝึกอบรมด้านการขนส่งทางอากาศมาตลอด นอกจากนี้ การที่สำนักงานสาขาของ ICAO ตั้งอยู่ในประเทศไทยยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของไทย การที่มีผู้แทนจากประเทศต่างๆ มาร่วมประชุม ยังจะเป็นประโยชน์ในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวานนี้ (15 มกราคม 2547) Dr. Assad Kotaite ประธานคณะมนตรีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 15 | 16 มกราคม 2547 เพื่อร่วมในพิธีเปิดอาคารหอประชุมใหม่ของสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยรัฐบาลไทยเป็นผู้จัดสร้างให้ ในการเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีฯ ครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเรียนให้ทราบถึงผลงานของ ICAO ในปัจจุบันรวมทั้งแผนงานของ ICAO ในอนาคต ICAO เป็นทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการออกกฎระเบียบและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาการบิน ท่าอากาศยาน ความปลอดภัยในการบินและเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศสำหรับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศสมาชิก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 188 ประเทศ
สำหรับประเทศไทยนั้น ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก ICAO ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2490 โดยได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความตกลงพหุภาคีและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของ ICAO มาตลอด ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับคัดเลือกจาก ICAO ให้เป็นที่ตั้ง สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 โดยแต่เดิมตั้งอยู่ ณ ศาลาสันติธรรม ต่อมากระทรวงคมนาคมได้เช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานภูมิภาคฯ ซึ่งได้ทำพิธีเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2532 แต่เนื่องจากสถานที่เดิมคับแคบ รัฐบาลไทยจึงได้ก่อสร้างอาคารหอประชุมใหม่ให้แก่สำนักงานภูมิภาคฯ ของ ICAO โดยใช้งบประมาณของไทยในวงเงินค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท และได้มีพิธีเปิดอาคารใหม่ขึ้นในตอนเช้าวันนี้
การที่สำนักงานภูมิภาคของ ICAO ตั้งอยู่ในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลไทยและ ICAO และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานด้านการบินพลเรือนของไทยที่จะสามารถประสานงานกับ ICAO ได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการติดตามมาตรฐานการบินที่ ICAO กำหนดให้รัฐภาคีใช้ได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ จนทำให้การให้บริการการบินพลเรือนของไทยมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ รวมทั้งช่วยให้ประเทศไทยได้รับความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบของโครงการ การประชุม ทุนสัมมนา และฝึกอบรมด้านการขนส่งทางอากาศมาตลอด นอกจากนี้ การที่สำนักงานสาขาของ ICAO ตั้งอยู่ในประเทศไทยยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของไทย การที่มีผู้แทนจากประเทศต่างๆ มาร่วมประชุม ยังจะเป็นประโยชน์ในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-