ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เตือนระวัง 4 ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยถึงแนวนโยบายที่จะดำเนินการในปี 47 แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะดีขึ้น
กว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก แต่ ธปท.ก็จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัจจัย
สำคัญ 4 ประการ คือ 1) การดูแลฐานะด้านต่างประเทศให้มั่นคง 2) เฝ้าติดตามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง
ใกล้ชิด 3) หนี้ภาคครัวเรือน รวมถึงสินเชื่อผู้บริโภคและบัตรเครดิต และ 4) ติดตามดัชนีเครื่องชี้วัดระบบ
เศรษฐกิจที่อาจจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ (สยามรัฐ, ข่าวสด, ผู้จัดการรายวัน)
2. ก.คลังตั้งเป้าหมายสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเอสเอ็มอีจำนวน 80,000 ล้านบาท รมว.คลัง เปิด
เผยว่า ในปีนี้ ก.คลังตั้งเป้าหมายให้ธนาคารเฉพาะกิจให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อกับผู้ประกอบธุรกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จำนวน 80,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 30,000 ล้านบาทมาจากธนาคาร
พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) โดยจากงวด 9 เดือนของปี 46 ธพว.
สามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 17,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ 4,500 ราย ทั้งนี้ ก.คลังวางนโยบายให้
ธพว.ให้สินเชื่อครบวงจรตั้งแต่เงินกู้เพื่อก่อสร้างอาคารหรือโรงงาน จนถึงสินเชื่อเพื่อการค้า (ข่าวสด, บ้าน
เมือง)
3. โจนส์ แลง ลาซาลล์ ชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดดเด่น หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำภาคพื้นเอเชีย
แปซิฟิก บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการวัดระดับความคาดหวังของนักลงทุนต่อ
ผลตอบแทนการลงทุนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีสำหรับตลาดอสังริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ โดยอยู่ที่ระดับ 1.0 ทั้งในระยะ
12 เดือน และ 3 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งในขณะนี้ (ผู้จัดการรายวัน)
4. ก.พลังงานชี้แนวโน้มการตรึงราคาน้ำมันจะไม่ยึดเยื้อเนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มลดลง
รมว.ก.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ได้มีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้
อัตราการชดเชยราคาน้ำมันตามนโยบายการตรึงราคาของรัฐบาล โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง
จาก 120 ล้านบาทต่อวัน เหลือมาอยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาทต่อวัน และยังมีแนวโน้มระดับราคาที่สิงคโปร์จะ
อ่อนลงอีก ทำให้คาดการณ์ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันน่าจะเริ่มคลี่คลายได้ในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ผอ.สำนักนโยบาย
และแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลดลงเพราะโรงกลั่นน้ำมัน
ได้เริ่มขยายการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม ราคาที่อ่อนตัว
ลงทำให้เห็นว่าแนวโน้มการตรึงราคาน้ำมันของรัฐบาลอาจจะสิ้นสุดลงได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 เดือน (
ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. กลุ่มสิ่งทอสหภาพยุโรปกีดกันสินค้านำเข้าจากจีน รายงานจากบรัสเซล เมื่อวันที่ 15 ม.ค.
47 กลุ่มสิ่งทอของสหภาพยุโรปต้องการให้คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเจรจาและดำเนินการกับจีนตามแนว
ทางของสรอ. ในเรื่องการจำกัดโควตานำเข้าสินค้าสิ่งทอจากจีน เนื่องจากมีการนำเข้ามาในตลาดยุโรป
เป็นจำนวนมากตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จากการที่ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริงจึงส่งผลให้สินค้าที่นำเข้าจาก
จีนมีราคาถูก โดยสินค้านำเข้าจากจีนในช่วงปี 41 — 45 มีจำนวนสูงมากแต่ราคากลับต่ำกว่าสินค้าของสหภาพ
ยุโรปโดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 70 ดังนั้นสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอจึงวางแผนที่จะขอให้คณะ
กรรมาธิการสหภาพยุโรปออกมาตรการทางการค้าเพื่อ 15 ชาติในยุโรปในการเจรจาต่อรองและดำเนินการ
ตามกฎขององค์การการค้าโลกเพื่อเป็นการปกป้องทางการค้าของ EU โดยการจำกัดโควตาการนำเข้าหรือ
กำหนดคุณภาพซึ่งหมายถึงเงื่อนไขทางภาษีซึ่งปัจจุบันสรอ. ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งนี้กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ของ EU มีความกังวลว่าสินค้าสิ่งทอที่นำเข้าจากจีนจะเพิ่มขึ้นอีกตามโควตารวม ณ สิ้นปี 48 จากข้อได้เปรียบ
ทางการค้าของจีนที่กำหนดค่าเงินต่ำกว่าความเป็นจริง (รอยเตอร์)
2. คาดว่ายอดส่งออกในปี 46 ของสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากปีก่อน รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อ 15 ม.ค.47 ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 10 คนโดยรอยเตอร์ คาดว่ายอดส่ง
ออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิงของสิงคโปร์หลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วในเดือน ธ.ค.46 และมีกำหนด
จะเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ม.ค.47 เวลา 13.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
1.0 จากเดือน พ.ย.46 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวเลขการส่งออกของทั้งปี 46
เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากปี 45 ซึ่งขยายตัวเพียงร้อยละ 1.9 จากปี 44 อันเป็นผลจากการส่งออกไปยัง
สรอ.และจีนเพิ่มขึ้น โดยคำสั่งซื้อใหม่จาก สรอ.ในเดือน ธ.ค.46 อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ในขณะที่
ยอดส่งออกไปยังจีนในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน สินค้าส่งออกส่วน
ใหญ่ของสิงคโปร์ที่ไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 52 และยอดส่งออกที่
เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขยายกำลังการผลิตของบริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติ เช่น Seagate และ
STMicroelectronics เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก สรอ.และจีน (รอยเตอร์)
3. ยอดขายปลีกของสิงคโปร์ในเดือน พ.ย.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เทียบต่อปี รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อ 15 ม.ค.46 สำนักงานสถิติ เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกของสิงคโปร์ในเดือน พ.ย.46 (ตัวเลข
หลังปรับฤดูกาล) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เทียบต่อปี ขณะที่เมื่อเทียบต่อเดือนลดลงต่ำกว่าการคาดหมายร้อยละ
2.4 ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่า ยอดขายปลีกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 เทียบต่อปี
และลดลงร้อยละ 2 เทียบต่อเดือน ทั้งนี้ ยอดขายปลีกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการเร่งการซื้อก่อนการปรับเพิ่มภาษี
สินค้าและบริการ (goods and services tax : GST) ขึ้นร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 5 ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่
เดือน ม.ค.47 จึงทำให้ยอดซื้อสินค้า เช่น เฟอร์นิเจอร์และทีวี เพิ่มขึ้นมาก (รอยเตอร์)
4. การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและบริการของสิงคโปร์ในปี 46 ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 15 ม.ค.46 The Economic Development Board (EDB) เปิดเผยว่า การ
ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในปี 46 มีจำนวน 7.5 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ (4.4 พัน ล.ดอลลาร์
สรอ.) ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 9 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ และเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ซึ่ง
เป็นผลจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ขณะที่การลงทุนในภาคบริการมีจำนวน 1.9 พัน ล.
ดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 2.08 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ อนึ่ง EDB กำหนดเป้าหมายการ
ลงทุนภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการในปี 47 ที่จำนวน 8 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 2 พัน ล.ดอลลาร์
สิงคโปร์ ตามลำดับ และเชื่อว่าสิงคโปร์ยังคงเป็นฐานการลงทุนหลักของ สรอ. ยุโรป และญี่ปุ่น แม้ว่าจะต้อง
เผชิญการแข่งขันด้านการลงทุนจากต่างประเทศกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะจีน
และอินเดีย ก็ตาม (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16/1/47 15/1/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.016 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8345/39.1166 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.2500 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 767.39/56.79 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,700/7,800 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.68 29.44 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.เตือนระวัง 4 ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยถึงแนวนโยบายที่จะดำเนินการในปี 47 แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะดีขึ้น
กว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก แต่ ธปท.ก็จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัจจัย
สำคัญ 4 ประการ คือ 1) การดูแลฐานะด้านต่างประเทศให้มั่นคง 2) เฝ้าติดตามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง
ใกล้ชิด 3) หนี้ภาคครัวเรือน รวมถึงสินเชื่อผู้บริโภคและบัตรเครดิต และ 4) ติดตามดัชนีเครื่องชี้วัดระบบ
เศรษฐกิจที่อาจจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ (สยามรัฐ, ข่าวสด, ผู้จัดการรายวัน)
2. ก.คลังตั้งเป้าหมายสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเอสเอ็มอีจำนวน 80,000 ล้านบาท รมว.คลัง เปิด
เผยว่า ในปีนี้ ก.คลังตั้งเป้าหมายให้ธนาคารเฉพาะกิจให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อกับผู้ประกอบธุรกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จำนวน 80,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 30,000 ล้านบาทมาจากธนาคาร
พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) โดยจากงวด 9 เดือนของปี 46 ธพว.
สามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 17,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ 4,500 ราย ทั้งนี้ ก.คลังวางนโยบายให้
ธพว.ให้สินเชื่อครบวงจรตั้งแต่เงินกู้เพื่อก่อสร้างอาคารหรือโรงงาน จนถึงสินเชื่อเพื่อการค้า (ข่าวสด, บ้าน
เมือง)
3. โจนส์ แลง ลาซาลล์ ชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดดเด่น หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำภาคพื้นเอเชีย
แปซิฟิก บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการวัดระดับความคาดหวังของนักลงทุนต่อ
ผลตอบแทนการลงทุนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีสำหรับตลาดอสังริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ โดยอยู่ที่ระดับ 1.0 ทั้งในระยะ
12 เดือน และ 3 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งในขณะนี้ (ผู้จัดการรายวัน)
4. ก.พลังงานชี้แนวโน้มการตรึงราคาน้ำมันจะไม่ยึดเยื้อเนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มลดลง
รมว.ก.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ได้มีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้
อัตราการชดเชยราคาน้ำมันตามนโยบายการตรึงราคาของรัฐบาล โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง
จาก 120 ล้านบาทต่อวัน เหลือมาอยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาทต่อวัน และยังมีแนวโน้มระดับราคาที่สิงคโปร์จะ
อ่อนลงอีก ทำให้คาดการณ์ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันน่าจะเริ่มคลี่คลายได้ในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ผอ.สำนักนโยบาย
และแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลดลงเพราะโรงกลั่นน้ำมัน
ได้เริ่มขยายการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม ราคาที่อ่อนตัว
ลงทำให้เห็นว่าแนวโน้มการตรึงราคาน้ำมันของรัฐบาลอาจจะสิ้นสุดลงได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 เดือน (
ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. กลุ่มสิ่งทอสหภาพยุโรปกีดกันสินค้านำเข้าจากจีน รายงานจากบรัสเซล เมื่อวันที่ 15 ม.ค.
47 กลุ่มสิ่งทอของสหภาพยุโรปต้องการให้คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเจรจาและดำเนินการกับจีนตามแนว
ทางของสรอ. ในเรื่องการจำกัดโควตานำเข้าสินค้าสิ่งทอจากจีน เนื่องจากมีการนำเข้ามาในตลาดยุโรป
เป็นจำนวนมากตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จากการที่ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริงจึงส่งผลให้สินค้าที่นำเข้าจาก
จีนมีราคาถูก โดยสินค้านำเข้าจากจีนในช่วงปี 41 — 45 มีจำนวนสูงมากแต่ราคากลับต่ำกว่าสินค้าของสหภาพ
ยุโรปโดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 70 ดังนั้นสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอจึงวางแผนที่จะขอให้คณะ
กรรมาธิการสหภาพยุโรปออกมาตรการทางการค้าเพื่อ 15 ชาติในยุโรปในการเจรจาต่อรองและดำเนินการ
ตามกฎขององค์การการค้าโลกเพื่อเป็นการปกป้องทางการค้าของ EU โดยการจำกัดโควตาการนำเข้าหรือ
กำหนดคุณภาพซึ่งหมายถึงเงื่อนไขทางภาษีซึ่งปัจจุบันสรอ. ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งนี้กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ของ EU มีความกังวลว่าสินค้าสิ่งทอที่นำเข้าจากจีนจะเพิ่มขึ้นอีกตามโควตารวม ณ สิ้นปี 48 จากข้อได้เปรียบ
ทางการค้าของจีนที่กำหนดค่าเงินต่ำกว่าความเป็นจริง (รอยเตอร์)
2. คาดว่ายอดส่งออกในปี 46 ของสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากปีก่อน รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อ 15 ม.ค.47 ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 10 คนโดยรอยเตอร์ คาดว่ายอดส่ง
ออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิงของสิงคโปร์หลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วในเดือน ธ.ค.46 และมีกำหนด
จะเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ม.ค.47 เวลา 13.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
1.0 จากเดือน พ.ย.46 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวเลขการส่งออกของทั้งปี 46
เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากปี 45 ซึ่งขยายตัวเพียงร้อยละ 1.9 จากปี 44 อันเป็นผลจากการส่งออกไปยัง
สรอ.และจีนเพิ่มขึ้น โดยคำสั่งซื้อใหม่จาก สรอ.ในเดือน ธ.ค.46 อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ในขณะที่
ยอดส่งออกไปยังจีนในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน สินค้าส่งออกส่วน
ใหญ่ของสิงคโปร์ที่ไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 52 และยอดส่งออกที่
เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขยายกำลังการผลิตของบริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติ เช่น Seagate และ
STMicroelectronics เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก สรอ.และจีน (รอยเตอร์)
3. ยอดขายปลีกของสิงคโปร์ในเดือน พ.ย.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เทียบต่อปี รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อ 15 ม.ค.46 สำนักงานสถิติ เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกของสิงคโปร์ในเดือน พ.ย.46 (ตัวเลข
หลังปรับฤดูกาล) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เทียบต่อปี ขณะที่เมื่อเทียบต่อเดือนลดลงต่ำกว่าการคาดหมายร้อยละ
2.4 ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่า ยอดขายปลีกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 เทียบต่อปี
และลดลงร้อยละ 2 เทียบต่อเดือน ทั้งนี้ ยอดขายปลีกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการเร่งการซื้อก่อนการปรับเพิ่มภาษี
สินค้าและบริการ (goods and services tax : GST) ขึ้นร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 5 ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่
เดือน ม.ค.47 จึงทำให้ยอดซื้อสินค้า เช่น เฟอร์นิเจอร์และทีวี เพิ่มขึ้นมาก (รอยเตอร์)
4. การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและบริการของสิงคโปร์ในปี 46 ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 15 ม.ค.46 The Economic Development Board (EDB) เปิดเผยว่า การ
ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในปี 46 มีจำนวน 7.5 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ (4.4 พัน ล.ดอลลาร์
สรอ.) ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 9 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ และเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ซึ่ง
เป็นผลจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ขณะที่การลงทุนในภาคบริการมีจำนวน 1.9 พัน ล.
ดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 2.08 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ อนึ่ง EDB กำหนดเป้าหมายการ
ลงทุนภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการในปี 47 ที่จำนวน 8 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 2 พัน ล.ดอลลาร์
สิงคโปร์ ตามลำดับ และเชื่อว่าสิงคโปร์ยังคงเป็นฐานการลงทุนหลักของ สรอ. ยุโรป และญี่ปุ่น แม้ว่าจะต้อง
เผชิญการแข่งขันด้านการลงทุนจากต่างประเทศกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะจีน
และอินเดีย ก็ตาม (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16/1/47 15/1/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.016 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8345/39.1166 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.2500 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 767.39/56.79 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,700/7,800 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.68 29.44 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-