อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
การผลิต
เพื่อให้เกิดการประหยัดจากขนาดกำลังการผลิต (Economy of Scale) ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้องมีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูง โดยในภาวะปกติ การผลิตจะอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 ของกำลังการผลิต เนื่องจากโรงงานปิโตรเคมีมีการผลิตแบบต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมงและทั้งปี (ยกเว้นกรณีหยุดตามแผนการซ่อมบำรุงหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน)
การตลาด
มูลค่าการนำเข้าและส่งออกปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 ปิโตรเคมีขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลายมีมูลค่านำเข้า 3,968 22,962 และ 31,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 96.4 30.0 และ 9.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน การ ส่งออกในช่วง ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 ของปิโตรเคมีขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลายมีมูลค่า 16,517 10,646 และ 61,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.0 88.3 และ 17.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ Polyacetal (เช่น PC, PET) Polyethylene และ Polystyrene ในขณะที่ตลาดส่งออกที่สำคัญ ยังคงเป็นประเทศจีนเวียดนาม อินโดนีเซีย ในส่วนของคาดการณ์มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีตลอดปี 2546 แสดงในตารางข้างล่างนี้
ไตรมาส / ปี ปิโตรเคมีขั้นต้น (ล้านบาท) ปิโตรเคมีขั้นกลาง (ล้านบาท) ปิโตรเคมีขั้นปลาย (ล้านบาท)
นำเข้า ส่งออก นำเข้า ส่งออก นำเข้า ส่งออก
Q1 / 2545 677 1,884 4,709 1,507 8,906 15,244
Q2 / 2545 620 3,305 6,418 1,836 9,803 17,601
Q3 / 2545 722 4,243 6,533 2,307 9,964 19,860
Q4 / 2545 486 3,952 7,685 3,850 9,325 19,892
2545 2,505 13,384 25,345 9,500 37,998 72,597
Q1 / 2546 874 5,542 7,536 3,818 10,929 19,772
Q2 / 2546 1,031 5,746 7,440 3,740 10,223 20,396
Q3 / 2546 2,062 5,228 7,986 3,087 10,368 21,574
Q4 / 2546* 955 6,920 9,992 7,253 10,251 23,302
2546* 4,922 23,436 32,954 17,898 41,771 85,044
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
ปิโตรเคมีขั้นปลาย ได้แก่ พิกัด 3817.10, 3901-3905, 3906.10 , 3907, 3908.10 , 3909, 4002
e - ประมาณการ
การส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในทุกประเภท ผู้ประกอบการในประเทศโดยเฉพาะ ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกจะเน้นประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกหลัก เนื่องจากจีนมีปริมาณความต้องการมหาศาล อีกทั้งต้นทุนค่าขนส่งไม่สูงนัก สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการส่งออกดี คือ เม็ดพลาสติก PVC เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างของจีนมีการขยายตัวสูง (โดยเฉพาะโครงการสร้างสนามกีฬาโอลิมปิก) ทำให้ความต้องการท่อน้ำ พลาสติกปูพื้น ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากเม็ดพลาสติก PVC เพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศดำเนินมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดเม็ดพลาสติก PVC เป็นการถาวรสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นระยะเวลา 5 ปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลบวกมากขึ้น จากการมีคู่แข่งน้อยลง
แนวโน้ม
การบริโภคผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในประเทศ คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งคาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 5-6 รวมทั้งวงจรของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีคาดว่าจะอยู่ในช่วงชาขึ้น ระหว่างปี 2547-2548 น่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยได้รับส่วนต่าง (Margin) เพิ่มขึ้น
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
การผลิต
เพื่อให้เกิดการประหยัดจากขนาดกำลังการผลิต (Economy of Scale) ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้องมีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูง โดยในภาวะปกติ การผลิตจะอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 ของกำลังการผลิต เนื่องจากโรงงานปิโตรเคมีมีการผลิตแบบต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมงและทั้งปี (ยกเว้นกรณีหยุดตามแผนการซ่อมบำรุงหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน)
การตลาด
มูลค่าการนำเข้าและส่งออกปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 ปิโตรเคมีขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลายมีมูลค่านำเข้า 3,968 22,962 และ 31,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 96.4 30.0 และ 9.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน การ ส่งออกในช่วง ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 ของปิโตรเคมีขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลายมีมูลค่า 16,517 10,646 และ 61,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.0 88.3 และ 17.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ Polyacetal (เช่น PC, PET) Polyethylene และ Polystyrene ในขณะที่ตลาดส่งออกที่สำคัญ ยังคงเป็นประเทศจีนเวียดนาม อินโดนีเซีย ในส่วนของคาดการณ์มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีตลอดปี 2546 แสดงในตารางข้างล่างนี้
ไตรมาส / ปี ปิโตรเคมีขั้นต้น (ล้านบาท) ปิโตรเคมีขั้นกลาง (ล้านบาท) ปิโตรเคมีขั้นปลาย (ล้านบาท)
นำเข้า ส่งออก นำเข้า ส่งออก นำเข้า ส่งออก
Q1 / 2545 677 1,884 4,709 1,507 8,906 15,244
Q2 / 2545 620 3,305 6,418 1,836 9,803 17,601
Q3 / 2545 722 4,243 6,533 2,307 9,964 19,860
Q4 / 2545 486 3,952 7,685 3,850 9,325 19,892
2545 2,505 13,384 25,345 9,500 37,998 72,597
Q1 / 2546 874 5,542 7,536 3,818 10,929 19,772
Q2 / 2546 1,031 5,746 7,440 3,740 10,223 20,396
Q3 / 2546 2,062 5,228 7,986 3,087 10,368 21,574
Q4 / 2546* 955 6,920 9,992 7,253 10,251 23,302
2546* 4,922 23,436 32,954 17,898 41,771 85,044
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
ปิโตรเคมีขั้นปลาย ได้แก่ พิกัด 3817.10, 3901-3905, 3906.10 , 3907, 3908.10 , 3909, 4002
e - ประมาณการ
การส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในทุกประเภท ผู้ประกอบการในประเทศโดยเฉพาะ ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกจะเน้นประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกหลัก เนื่องจากจีนมีปริมาณความต้องการมหาศาล อีกทั้งต้นทุนค่าขนส่งไม่สูงนัก สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการส่งออกดี คือ เม็ดพลาสติก PVC เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างของจีนมีการขยายตัวสูง (โดยเฉพาะโครงการสร้างสนามกีฬาโอลิมปิก) ทำให้ความต้องการท่อน้ำ พลาสติกปูพื้น ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากเม็ดพลาสติก PVC เพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศดำเนินมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดเม็ดพลาสติก PVC เป็นการถาวรสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นระยะเวลา 5 ปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลบวกมากขึ้น จากการมีคู่แข่งน้อยลง
แนวโน้ม
การบริโภคผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในประเทศ คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งคาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 5-6 รวมทั้งวงจรของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีคาดว่าจะอยู่ในช่วงชาขึ้น ระหว่างปี 2547-2548 น่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยได้รับส่วนต่าง (Margin) เพิ่มขึ้น
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-