นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) โดยเน้นใน 3 สาขาคือโทรคมนาคมและICT การเงิน และการขนส่ง ซึ่งเป็น 3 ภาคบริการที่ได้รับความสนใจอย่างสูงจากคู่เจรจาของไทย ทั้งนี้ การเจรจาใน 3 สาขาดังกล่าว อาจถือได้ว่าไทยเป็นฝ่ายตั้งรับ เนื่องจากคู่เจรจา เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น มีความสามารถในการให้บริการเหล่านี้สูงกว่าไทย ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมพร้อมในการวางท่าทีการเจรจาเพื่อรับมือในทุกด้าน ได้แก่ การเตรียมรับมือการถูกกดดันให้เปิดตลาดเพิ่มขึ้น การวางหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อรับมือกับการถูกกดดันให้ยอมรับหลักการการกำกับดูแลในลักษณะเดียวกับต่างชาติ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐวิสาหกิจที่จะต้องเผชิญกับการกดดัน และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงสถานะของการเจรจาจัดทำความตกลง FTA ของไทยกับประเทศต่างๆ คือ ออสเตรเลีย สหรัฐฯ บาห์เรน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ จีน อินเดีย เปรู และสหภาพยุโรป (BIMST-EC) ซึ่งมีเวลาในการเจรจา FTA แต่ละฉบับค่อนข้างสั้น และส่วนใหญ่มีเป้าหมายที่จะเจรจาให้เสร็จสิ้นภายในปลายปี 2547 ทำให้ไทยต้องดำเนินการเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาแต่เนิ่นๆ
สำหรับกลไกการบริหารการเจรจา FTA นั้น ไทยจะมีคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เป็นผู้ดูแลการเจรจา FTA ทั้งหมด โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและกำหนดท่าทีการเจรจาในแต่ละประเด็น มีคณะทำงานระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีทำหน้าที่ประสานงานกับทุกหน่วยงาน โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสทำหน้าที่หัวหน้าคณะเจรจา และหัวหน้าทีมเจรจาในแต่ละประเด็น เช่น การเจรจากฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า การเจรจาการค้าบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมได้ในทุกระดับ
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ด้านสารัตถะการเจรจา ที่ประชุมฯได้รับทราบประเด็นสำคัญในแต่ละสาขา ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมพร้อมทำการศึกษา และกำหนดท่าทีการเจรจาใน 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ การเจรจาข้อบท และการเจรจาเปิดตลาด ทั้งนี้ ในการเจรจากับบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ อาจมีรูปแบบการเจรจาที่แตกต่างจากการเจรจากับประเทศอื่น โดยเฉพาะ รูปแบบของข้อผูกพันทีมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่สหรัฐฯ จะกดดันให้ไทยเปิดตลาดโดยใช้ negative-list approach ตามแบบข้อตกลงที่สหรัฐฯ ได้ทำกับสิงคโปร์ และชิลี
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นเพียงครั้งแรกของการประชุมอีกหลายการประชุมด้านการค้าบริการภายใต้ FTA ที่จะตามมาในปีนี้ ทั้งนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศพร้อมที่จะประสานกับหน่วยงานทุกฝ่ายในการพิจารณาประเด็นต่างๆ โดยสำนักเจรจาการค้าบริการ ได้วางเจ้าหน้าที่ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบประเด็นต่างๆ ทั้งในรายประเทศและรายสาขา โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะเป็น resource person ที่ดีที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรายสาขาทุกหน่วยในการพิจารณาประเด็นต่างๆ ในเชิงลึกต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงสถานะของการเจรจาจัดทำความตกลง FTA ของไทยกับประเทศต่างๆ คือ ออสเตรเลีย สหรัฐฯ บาห์เรน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ จีน อินเดีย เปรู และสหภาพยุโรป (BIMST-EC) ซึ่งมีเวลาในการเจรจา FTA แต่ละฉบับค่อนข้างสั้น และส่วนใหญ่มีเป้าหมายที่จะเจรจาให้เสร็จสิ้นภายในปลายปี 2547 ทำให้ไทยต้องดำเนินการเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาแต่เนิ่นๆ
สำหรับกลไกการบริหารการเจรจา FTA นั้น ไทยจะมีคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เป็นผู้ดูแลการเจรจา FTA ทั้งหมด โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและกำหนดท่าทีการเจรจาในแต่ละประเด็น มีคณะทำงานระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีทำหน้าที่ประสานงานกับทุกหน่วยงาน โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสทำหน้าที่หัวหน้าคณะเจรจา และหัวหน้าทีมเจรจาในแต่ละประเด็น เช่น การเจรจากฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า การเจรจาการค้าบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมได้ในทุกระดับ
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ด้านสารัตถะการเจรจา ที่ประชุมฯได้รับทราบประเด็นสำคัญในแต่ละสาขา ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมพร้อมทำการศึกษา และกำหนดท่าทีการเจรจาใน 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ การเจรจาข้อบท และการเจรจาเปิดตลาด ทั้งนี้ ในการเจรจากับบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ อาจมีรูปแบบการเจรจาที่แตกต่างจากการเจรจากับประเทศอื่น โดยเฉพาะ รูปแบบของข้อผูกพันทีมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่สหรัฐฯ จะกดดันให้ไทยเปิดตลาดโดยใช้ negative-list approach ตามแบบข้อตกลงที่สหรัฐฯ ได้ทำกับสิงคโปร์ และชิลี
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นเพียงครั้งแรกของการประชุมอีกหลายการประชุมด้านการค้าบริการภายใต้ FTA ที่จะตามมาในปีนี้ ทั้งนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศพร้อมที่จะประสานกับหน่วยงานทุกฝ่ายในการพิจารณาประเด็นต่างๆ โดยสำนักเจรจาการค้าบริการ ได้วางเจ้าหน้าที่ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบประเด็นต่างๆ ทั้งในรายประเทศและรายสาขา โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะเป็น resource person ที่ดีที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรายสาขาทุกหน่วยในการพิจารณาประเด็นต่างๆ ในเชิงลึกต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-