นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ กำหนด เป็นเจ้าภาพจัดประชุมในกรอบความร่วมมือ BIMST-EC ด้านเศรษฐกิจ/การค้า โดยจะมีการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
1. Economic Forum ครั้งที่ 3 วันที่ 13 มกราคม 2547 ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า เป็นการประชุมร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของสมาชิก BIMST-EC จาก Business Forum เพื่อแก้ไขอุปสรรคทางการค้า โดยมีสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม
2. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจ/การค้า BIMST-EC (STEOM) ครั้งที่ 4 วันที่ 14-15 มกราคม 2547 ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาความคืบหน้าของ การดำเนินการและข้อเสนอแนะในสาขาสินค้าต่างๆ ภายใต้สาขาการค้าและการลงทุน รวมทั้งพิจารณาเรื่องร่างกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี BIMST-EC ซึ่งเป็นผลจากการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า ครั้งที่ 4 ณ กรุงโคลัมโบ
3. การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า ครั้งที่ 5 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2547 ก่อนการประชุมผู้นำ BIMST-EC ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาร่างกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี BIMST-EC และเมื่อมติที่ประชุมเห็นชอบร่างดังกล่าว จะมีการลงนามในร่างกรอบความตกลงฯ ระหว่างการประชุมผู้นำ BIMST-EC เพื่อให้เริ่มดำเนินการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีต่อไป
ทั้งนี้ ร่างกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี BIMST-EC จะครอบคลุมเรื่องการลดภาษีสินค้า ซึ่งจะมีทั้งสินค้าเร่งลดภาษีและสินค้าลดภาษีปกติ การเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน นอกจากนี้จะมีการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น การให้ความช่วยเหลือในด้านเทคนิค การปรับมาตรฐานสุขอนามัยและมาตรฐานสินค้าให้เหมือนกัน โดยประเทศสมาชิกพัฒนาน้อยที่สุดจะได้รับการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง ในด้านต่างๆ เช่น การลดภาษีที่ใช้ระยะเวลายาวกว่า เป็นต้น
อนึ่ง ความร่วมมือ BIMST-EC ได้จัดตั้งเมื่อปี 2540 เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศสมาชิก เดิมเป็นความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่าง 5 ประเทศ คือ บังกลาเทศ อินเดีย พม่า ศรีลังกา และไทย ขณะนี้ ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 ประเทศ คือ เนปาล และ ภูฐาน
นางอภิรดี กล่าวถึงมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศ BIMST-EC ใน 11 เดือนแรกของปี 2546 ว่ามีมูลค่าการค้าขยายตัวจาก 2,847 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 2,994 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการส่งออกมูลค่า 1,391 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้ามูลค่า 1,602 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยมีการขาดดุลดังกล่าวลดลง สินค้าส่งออกของไทย ได้แก่ เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผ้าผืน ด้าย เคมีภัณฑ์ เหล็ก น้ำมันจากพืชและสัตว์ น้ำตาลทราย ปูนซิเมนต์ ส่วนสินค้าที่ไทยมีการนำเข้า ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม เหล็ก สินแร่โลหะ เศษโลหะ เคมีภัณฑ์ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่น ๆ กุ้งสด แช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-
1. Economic Forum ครั้งที่ 3 วันที่ 13 มกราคม 2547 ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า เป็นการประชุมร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของสมาชิก BIMST-EC จาก Business Forum เพื่อแก้ไขอุปสรรคทางการค้า โดยมีสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม
2. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจ/การค้า BIMST-EC (STEOM) ครั้งที่ 4 วันที่ 14-15 มกราคม 2547 ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาความคืบหน้าของ การดำเนินการและข้อเสนอแนะในสาขาสินค้าต่างๆ ภายใต้สาขาการค้าและการลงทุน รวมทั้งพิจารณาเรื่องร่างกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี BIMST-EC ซึ่งเป็นผลจากการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า ครั้งที่ 4 ณ กรุงโคลัมโบ
3. การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า ครั้งที่ 5 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2547 ก่อนการประชุมผู้นำ BIMST-EC ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาร่างกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี BIMST-EC และเมื่อมติที่ประชุมเห็นชอบร่างดังกล่าว จะมีการลงนามในร่างกรอบความตกลงฯ ระหว่างการประชุมผู้นำ BIMST-EC เพื่อให้เริ่มดำเนินการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีต่อไป
ทั้งนี้ ร่างกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี BIMST-EC จะครอบคลุมเรื่องการลดภาษีสินค้า ซึ่งจะมีทั้งสินค้าเร่งลดภาษีและสินค้าลดภาษีปกติ การเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน นอกจากนี้จะมีการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น การให้ความช่วยเหลือในด้านเทคนิค การปรับมาตรฐานสุขอนามัยและมาตรฐานสินค้าให้เหมือนกัน โดยประเทศสมาชิกพัฒนาน้อยที่สุดจะได้รับการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง ในด้านต่างๆ เช่น การลดภาษีที่ใช้ระยะเวลายาวกว่า เป็นต้น
อนึ่ง ความร่วมมือ BIMST-EC ได้จัดตั้งเมื่อปี 2540 เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศสมาชิก เดิมเป็นความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่าง 5 ประเทศ คือ บังกลาเทศ อินเดีย พม่า ศรีลังกา และไทย ขณะนี้ ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 ประเทศ คือ เนปาล และ ภูฐาน
นางอภิรดี กล่าวถึงมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศ BIMST-EC ใน 11 เดือนแรกของปี 2546 ว่ามีมูลค่าการค้าขยายตัวจาก 2,847 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 2,994 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการส่งออกมูลค่า 1,391 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้ามูลค่า 1,602 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยมีการขาดดุลดังกล่าวลดลง สินค้าส่งออกของไทย ได้แก่ เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผ้าผืน ด้าย เคมีภัณฑ์ เหล็ก น้ำมันจากพืชและสัตว์ น้ำตาลทราย ปูนซิเมนต์ ส่วนสินค้าที่ไทยมีการนำเข้า ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม เหล็ก สินแร่โลหะ เศษโลหะ เคมีภัณฑ์ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่น ๆ กุ้งสด แช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-