อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน
ปัจจุบันอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000
ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีโรงงานในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวไม่น้อยกว่า 8,000 โรง สร้างงานให้กับคนในประเทศที่เกี่ยวข้องกับ
อุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 200,000 คนจากบทบาทดังกล่าวข้างต้น ทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนเป็นอุตสาหกรรม
ที่มีศักยภาพ และมีโอกาสก้าวไกลในตลาดโลก และถูกจัดให้เป็นสินค้าเป้าหมายในการส่งออกของไทยที่ได้รับการส่งเสริมในอนาคต
1. การผลิต
ปริมาณการผลิตสินค้าของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในปี 2546 ในช่วงต้นปีมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
เนื่องจากสงครามระหว่างสหรัฐและอิรักที่ยืดเยื้อส่งผลให้ประเทศคู่ค้าหลักของไทยชะลอการสั่งซื้อเครื่องเรือน ประกอบกับโรค SAR
ที่ระบาดในภูมิภาค ทำให้เกิดความวิตกกังวลให้กับตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2546 ปัญหาต่าง ๆ ได้ปรับตัวในทางที่ดีขึ้น
ทำให้การผลิตมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบเป็นช่วงขาขึ้นของวัฐจักรธุรกิจในช่วงปลายปี ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
และรัฐส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มจะแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อส่งผลให้การผลิตและ
การจำหน่ายเครื่องเรือน และชิ้นส่วนในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งปริมาณการสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ
สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จากเดิมสินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยเคยผลิตและส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นสินค้าประเภท
เครื่องใช้ในครัวเรือน(Household Product) มาผลิตเครื่องเรือน ( Furniture ) ทำให้ปริมาณความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น
ในช่วงปลายปี จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จะเห็นได้ว่าปริมาณการผลิตเครื่องเรือนระหว่างไตรมาสตลอดปี
2546 มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตารางที่ 1 การผลิตไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส
1/44 2/44 3/44 4/44 1/45 2/45 3/45 4/45 1/46 2/46 3/46 4/46
เครื่องเรือนไม้ 7.49 6.51 8.86 8.85 8.39 8.65 8.52 6.83 6.34 6.09 7.03 7.05
เครื่องเรือนโลหะ 0.27 0.26 0.24 0.23 0.22 0.24 0.21 0.23 0.24 0.27 0.24 0.23
รวม 7.76 6.87 9.00 9.08 8.61 8.89 8.7. 7.06 6.58 6.36 7.27 7.28
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
2. การจำหน่ายในประเทศ
จากภาวะสงครามในตะวันออกกลางและความวิตกกังวลกับปัญหาเรื่องโรค SAR ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และในประเทศจีน ทำให้ผู้บริโภคภายในประเทศระมัดระวังการใช้จ่ายและบริโภคสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคเครื่องเรือน
อยู่ในภาวะของการปรับตัวลดลงใน 3 ไตรมาสแรกของปี แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปี สถานการณ์ต่างได้ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
ทำให้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องเรือนชั้นนำ
หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยการลดราคาสินค้า เน้นหนักในด้านการประชาสัมพันธ์และ จูงใจผู้บริโภค และ
เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ภาพรวมของตลาด ภายในประเทศเริ่มมีผลกระเตื้องขึ้น
ตารางที่ 2 การจำหน่ายเครื่องเรือนภายในประเทศ
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส
1/44 2/44 3/44 4/44 1/45 2/45 3/45 4/45 1/46 2/46 3/46 4/46
เครื่องเรือนไม้ 2.55 1.28 2.96 3.09 3.71 2.61 2.54 2.15 2.26 1.94 1.68 2.18
เครื่องเรือนโลหะ 0.17 0.17 0.18 0.18 0.17 0.17 0.20 0.19 0.28 0.24 0.20 0.21
รวม 2.72 1.45 3.14 3.27 3.88 2.78 2.74 2.34 2.54 2.18 1.88 2.39
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
3. การส่งออกและนำเข้า
3.1 ตลาดส่งออก ประเภทผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ผลิตและส่งออก สามารถแบ่งการพิจารณาได้ 3 กลุ่ม (ตารางที่ 3) คือ
1) เครื่องเรือนไม้และชิ้นส่วน มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละมากกว่า 50 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไม้และ
เครื่องเรือนทั้งหมด ประกอบด้วย เครื่องเรือนไม้ เครื่องเรือนอื่น ๆ และชิ้นส่วนเครื่องเรือน โดยมีมูลค่าการส่งออกในช่วง
10 เดือนแรกของปี 2546 มีจำนวน 752.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณร้อยละ 10.21 ผลิตภัณฑ์
ที่มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงขึ้นได้แก่ ชิ้นส่วนเครื่องเรือน ที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด รองลงมาคือเครื่องเรือนไม้อื่นๆ
และเครื่องเรือนไม้ โดยมีสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และแคนาดาเป็นตลาดสำคัญ
2) ผลิตภัณฑ์ไม้ มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 20 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด
ประกอบด้วย กรอบรูป อุปกรณ์ก่อสร้างทำด้วยไม้ เครื่องใช้ทำด้วยไม้ รูปแกะสลักและเครื่องประดับทำด้วยไม้ โดยมีมูลค่าการส่งออก
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2546 จำนวน 292.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่เทียบเท่ากับปีก่อนในช่วงเดียวกันสำหรับผลิตภัณฑ์
ที่มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์ก่อสร้างทำด้วยไม้ โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดหลัก และ รูปแกะสลัก
โดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลัก
3) ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 20 ของ มูลค่าการส่งออกสินค้าไม้และ
เครื่องเรือนทั้งหมด ประกอบด้วย ไม้แปรรูป Fiber Board ไม้อัด และแผ่นไม้วีเนียร์ โดยมีมูลค่าการส่งออกในช่วง 10 เดือนแรก
ของปี 2546 จำนวน 304.6ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วที่แล้วร้อยละ 12.23 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการ
ขยายตัวของการส่งออกสำคัญ ได้แก่ ไม้แปรรูป โดยมี จีน ฮ่องกง และมาเลเซีย เป็นตลาดส่งออกสำคัญ
ตารางที่ 3 มูลค่าการส่งออกไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ ปี(YEAR) อัตราการขยายตัว
2543 2544 2545 2545 2546 44/45 10
(ม.ค. -ต.ค.) (ม.ค. -ต.ค.) 45/46
1.เครื่องเรือนและชิ้นส่วน 776.1 739.1 826 682.9 752.6 11.76 10.21
1.1 เครื่องเรือนไม้* 543.1 505.3 560.8 466.7 484.8 10.98 3.88
1.2 เครื่องเรือนอื่น ๆ* 166.1 172.3 191.1 155.2 183.3 10.91 18.11
1.3 ชิ้นส่วนเครื่องเรือน 66.9 61.5 74.1 61 84.5 20.49 38.52
2. ผลิตภัณฑ์ไม้ 356.8 328.5 350.3 292.1 292.1 6.64 0
2.1 เครื่องใช้ทำด้วยไม้ 112.7 103 114.6 95 93.9 11.26 -1.16
2.2 อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ 115.7 106.6 102.4 85.5 89.8 -3.94 5.03
2.3 กรอบรูปไม้ 105.8 93.1 102.6 85.7 78.4 10.2 -8.52
2.4 รูปแกะสลักและเครื่องประดับทำด้วยไม้ 22.6 25.8 30.7 25.9 30 18.99 15.83
3.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น 232.7 247.6 323.1 271.4 304.6 30.49 12.23
3.1 ไม้แปรรูป 55.8 54 99 81.5 123.3 83.33 51.29
3.2 แผ่นไม้วีเนียร์ 8.5 8.4 8.2 7 6.3 -2.38 -10
3.3 ไม้อัด 51.7 53.9 53.9 46.4 41.8 0 -9.91
3.4 Fiber Board 58.8 66.1 90.5 75.6 76.8 36.91 1.59
3.5 ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ 57.9 65.2 71.5 60.9 56.4 9.66 -7.39
รวม 1365.6 1315.2 1499.4 1246.4 1349.3 14 8.25
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ตารางที่ 3 มูลค่าการส่งออกไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ ปี(YEAR) อัตราการขยายตัว
2543 2544 2545 2545 2546 44/45 10
(ม.ค. -ต.ค.) (ม.ค. -ต.ค.) 45/46
1. ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่น ๆ 366.1 341.9 378.3 317.4 348.1 10.65 9.67
2. ผลิตภัณฑ์ไม้ 44 46.7 58.3 47.2 66.2 24.84 40.25
รวม 410.1 388.6 436.6 364.6 414.3 12.35 13.63
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
4. สรุป
ปริมาณการผลิตเครื่องเรือนและชิ้นส่วนในปี 2546 ประมาณ 26.51 ล้านชิ้น ปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ
18.15 ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาในความวิตกกังวลในสงครามในอิรักและตะวันออกกลาง อีกทั้งโรค SAR ที่ส่งผลต่อภาวะการใช้
สินค้าในประเทศที่มีกลุ่มเสี่ยงต่อโรค ส่งผลให้การผลิตและจำหน่ายไม้และเครื่องเรือนครึ่งปีแรกปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตามในช่วง
ครึ่งปีหลังความวิตกกังวลดังกล่าวได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ตลาดและการบริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แต่สำหรับภาพรวมการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือนตลอดทั้งปี 2546 มีทิศทางของมูลค่า ส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 8.25หรือประมาณ 1500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการนำเข้าไม้และเครื่องเรือนก็มีการขยายตัวจากปีก่อนเช่นกันในอัตรา
ร้อยละ 14.0 ด้วยมูลค่าการนำเข้าประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
แนวโน้มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทย ในปี 2547 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 - 10 ตามภาวะเศษฐกิจ
ของประเทศ ธุรกิจการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยการส่งเสริมจากภาครัฐ ประกอบกับการขยายตัว
ของการส่งออกไปยังตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการย้ายฐานอุตสาหกรรมเครื่องเรือนจากยุโรปมายัง
ประเทศในแถบเอเซีย เช่น ไทย จีน และเวียดนาม มากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่อย่างไร
ก็ตาม ไทยยังคงจะต้องเผชิญกับการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่มีค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่า เช่น จีน และเวียดนาม ดังนั้น ไทย
จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ โดยการเร่งพัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดโดยเร็ว รวมถึงการสร้าง
เครือข่ายพันธมิตรและการแสวงหาตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมดังกล่าว
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
ปัจจุบันอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000
ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีโรงงานในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวไม่น้อยกว่า 8,000 โรง สร้างงานให้กับคนในประเทศที่เกี่ยวข้องกับ
อุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 200,000 คนจากบทบาทดังกล่าวข้างต้น ทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนเป็นอุตสาหกรรม
ที่มีศักยภาพ และมีโอกาสก้าวไกลในตลาดโลก และถูกจัดให้เป็นสินค้าเป้าหมายในการส่งออกของไทยที่ได้รับการส่งเสริมในอนาคต
1. การผลิต
ปริมาณการผลิตสินค้าของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในปี 2546 ในช่วงต้นปีมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
เนื่องจากสงครามระหว่างสหรัฐและอิรักที่ยืดเยื้อส่งผลให้ประเทศคู่ค้าหลักของไทยชะลอการสั่งซื้อเครื่องเรือน ประกอบกับโรค SAR
ที่ระบาดในภูมิภาค ทำให้เกิดความวิตกกังวลให้กับตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2546 ปัญหาต่าง ๆ ได้ปรับตัวในทางที่ดีขึ้น
ทำให้การผลิตมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบเป็นช่วงขาขึ้นของวัฐจักรธุรกิจในช่วงปลายปี ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
และรัฐส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มจะแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อส่งผลให้การผลิตและ
การจำหน่ายเครื่องเรือน และชิ้นส่วนในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งปริมาณการสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ
สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จากเดิมสินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยเคยผลิตและส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นสินค้าประเภท
เครื่องใช้ในครัวเรือน(Household Product) มาผลิตเครื่องเรือน ( Furniture ) ทำให้ปริมาณความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น
ในช่วงปลายปี จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จะเห็นได้ว่าปริมาณการผลิตเครื่องเรือนระหว่างไตรมาสตลอดปี
2546 มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตารางที่ 1 การผลิตไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส
1/44 2/44 3/44 4/44 1/45 2/45 3/45 4/45 1/46 2/46 3/46 4/46
เครื่องเรือนไม้ 7.49 6.51 8.86 8.85 8.39 8.65 8.52 6.83 6.34 6.09 7.03 7.05
เครื่องเรือนโลหะ 0.27 0.26 0.24 0.23 0.22 0.24 0.21 0.23 0.24 0.27 0.24 0.23
รวม 7.76 6.87 9.00 9.08 8.61 8.89 8.7. 7.06 6.58 6.36 7.27 7.28
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
2. การจำหน่ายในประเทศ
จากภาวะสงครามในตะวันออกกลางและความวิตกกังวลกับปัญหาเรื่องโรค SAR ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และในประเทศจีน ทำให้ผู้บริโภคภายในประเทศระมัดระวังการใช้จ่ายและบริโภคสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคเครื่องเรือน
อยู่ในภาวะของการปรับตัวลดลงใน 3 ไตรมาสแรกของปี แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปี สถานการณ์ต่างได้ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
ทำให้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องเรือนชั้นนำ
หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยการลดราคาสินค้า เน้นหนักในด้านการประชาสัมพันธ์และ จูงใจผู้บริโภค และ
เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ภาพรวมของตลาด ภายในประเทศเริ่มมีผลกระเตื้องขึ้น
ตารางที่ 2 การจำหน่ายเครื่องเรือนภายในประเทศ
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส
1/44 2/44 3/44 4/44 1/45 2/45 3/45 4/45 1/46 2/46 3/46 4/46
เครื่องเรือนไม้ 2.55 1.28 2.96 3.09 3.71 2.61 2.54 2.15 2.26 1.94 1.68 2.18
เครื่องเรือนโลหะ 0.17 0.17 0.18 0.18 0.17 0.17 0.20 0.19 0.28 0.24 0.20 0.21
รวม 2.72 1.45 3.14 3.27 3.88 2.78 2.74 2.34 2.54 2.18 1.88 2.39
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
3. การส่งออกและนำเข้า
3.1 ตลาดส่งออก ประเภทผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ผลิตและส่งออก สามารถแบ่งการพิจารณาได้ 3 กลุ่ม (ตารางที่ 3) คือ
1) เครื่องเรือนไม้และชิ้นส่วน มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละมากกว่า 50 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไม้และ
เครื่องเรือนทั้งหมด ประกอบด้วย เครื่องเรือนไม้ เครื่องเรือนอื่น ๆ และชิ้นส่วนเครื่องเรือน โดยมีมูลค่าการส่งออกในช่วง
10 เดือนแรกของปี 2546 มีจำนวน 752.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณร้อยละ 10.21 ผลิตภัณฑ์
ที่มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงขึ้นได้แก่ ชิ้นส่วนเครื่องเรือน ที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด รองลงมาคือเครื่องเรือนไม้อื่นๆ
และเครื่องเรือนไม้ โดยมีสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และแคนาดาเป็นตลาดสำคัญ
2) ผลิตภัณฑ์ไม้ มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 20 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด
ประกอบด้วย กรอบรูป อุปกรณ์ก่อสร้างทำด้วยไม้ เครื่องใช้ทำด้วยไม้ รูปแกะสลักและเครื่องประดับทำด้วยไม้ โดยมีมูลค่าการส่งออก
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2546 จำนวน 292.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่เทียบเท่ากับปีก่อนในช่วงเดียวกันสำหรับผลิตภัณฑ์
ที่มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์ก่อสร้างทำด้วยไม้ โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดหลัก และ รูปแกะสลัก
โดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลัก
3) ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 20 ของ มูลค่าการส่งออกสินค้าไม้และ
เครื่องเรือนทั้งหมด ประกอบด้วย ไม้แปรรูป Fiber Board ไม้อัด และแผ่นไม้วีเนียร์ โดยมีมูลค่าการส่งออกในช่วง 10 เดือนแรก
ของปี 2546 จำนวน 304.6ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วที่แล้วร้อยละ 12.23 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการ
ขยายตัวของการส่งออกสำคัญ ได้แก่ ไม้แปรรูป โดยมี จีน ฮ่องกง และมาเลเซีย เป็นตลาดส่งออกสำคัญ
ตารางที่ 3 มูลค่าการส่งออกไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ ปี(YEAR) อัตราการขยายตัว
2543 2544 2545 2545 2546 44/45 10
(ม.ค. -ต.ค.) (ม.ค. -ต.ค.) 45/46
1.เครื่องเรือนและชิ้นส่วน 776.1 739.1 826 682.9 752.6 11.76 10.21
1.1 เครื่องเรือนไม้* 543.1 505.3 560.8 466.7 484.8 10.98 3.88
1.2 เครื่องเรือนอื่น ๆ* 166.1 172.3 191.1 155.2 183.3 10.91 18.11
1.3 ชิ้นส่วนเครื่องเรือน 66.9 61.5 74.1 61 84.5 20.49 38.52
2. ผลิตภัณฑ์ไม้ 356.8 328.5 350.3 292.1 292.1 6.64 0
2.1 เครื่องใช้ทำด้วยไม้ 112.7 103 114.6 95 93.9 11.26 -1.16
2.2 อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ 115.7 106.6 102.4 85.5 89.8 -3.94 5.03
2.3 กรอบรูปไม้ 105.8 93.1 102.6 85.7 78.4 10.2 -8.52
2.4 รูปแกะสลักและเครื่องประดับทำด้วยไม้ 22.6 25.8 30.7 25.9 30 18.99 15.83
3.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น 232.7 247.6 323.1 271.4 304.6 30.49 12.23
3.1 ไม้แปรรูป 55.8 54 99 81.5 123.3 83.33 51.29
3.2 แผ่นไม้วีเนียร์ 8.5 8.4 8.2 7 6.3 -2.38 -10
3.3 ไม้อัด 51.7 53.9 53.9 46.4 41.8 0 -9.91
3.4 Fiber Board 58.8 66.1 90.5 75.6 76.8 36.91 1.59
3.5 ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ 57.9 65.2 71.5 60.9 56.4 9.66 -7.39
รวม 1365.6 1315.2 1499.4 1246.4 1349.3 14 8.25
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ตารางที่ 3 มูลค่าการส่งออกไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ ปี(YEAR) อัตราการขยายตัว
2543 2544 2545 2545 2546 44/45 10
(ม.ค. -ต.ค.) (ม.ค. -ต.ค.) 45/46
1. ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่น ๆ 366.1 341.9 378.3 317.4 348.1 10.65 9.67
2. ผลิตภัณฑ์ไม้ 44 46.7 58.3 47.2 66.2 24.84 40.25
รวม 410.1 388.6 436.6 364.6 414.3 12.35 13.63
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
4. สรุป
ปริมาณการผลิตเครื่องเรือนและชิ้นส่วนในปี 2546 ประมาณ 26.51 ล้านชิ้น ปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ
18.15 ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาในความวิตกกังวลในสงครามในอิรักและตะวันออกกลาง อีกทั้งโรค SAR ที่ส่งผลต่อภาวะการใช้
สินค้าในประเทศที่มีกลุ่มเสี่ยงต่อโรค ส่งผลให้การผลิตและจำหน่ายไม้และเครื่องเรือนครึ่งปีแรกปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตามในช่วง
ครึ่งปีหลังความวิตกกังวลดังกล่าวได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ตลาดและการบริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แต่สำหรับภาพรวมการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือนตลอดทั้งปี 2546 มีทิศทางของมูลค่า ส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 8.25หรือประมาณ 1500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการนำเข้าไม้และเครื่องเรือนก็มีการขยายตัวจากปีก่อนเช่นกันในอัตรา
ร้อยละ 14.0 ด้วยมูลค่าการนำเข้าประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
แนวโน้มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทย ในปี 2547 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 - 10 ตามภาวะเศษฐกิจ
ของประเทศ ธุรกิจการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยการส่งเสริมจากภาครัฐ ประกอบกับการขยายตัว
ของการส่งออกไปยังตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการย้ายฐานอุตสาหกรรมเครื่องเรือนจากยุโรปมายัง
ประเทศในแถบเอเซีย เช่น ไทย จีน และเวียดนาม มากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่อย่างไร
ก็ตาม ไทยยังคงจะต้องเผชิญกับการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่มีค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่า เช่น จีน และเวียดนาม ดังนั้น ไทย
จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ โดยการเร่งพัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดโดยเร็ว รวมถึงการสร้าง
เครือข่ายพันธมิตรและการแสวงหาตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมดังกล่าว
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-